เรื่องที่ต้องรู้สำหรับผู้กู้ซื้อคอนโด
ในยุคที่คอนโดมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าใครก็อยากจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ซักแห่ง และด้วยความที่คอนโดค่อนข้างตอบโจทย์คนเมืองได้ชัดเจน จึงไม่แปลกที่ใครๆ อยากจะเป็นเจ้าของคอนโด บางคนอาจจะซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือบางคนอาจจะซื้อไว้เพื่อลงทุนเพื่อขายในอนาคต หรือปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้อีกทางนึง เราจะมาแนะนำสิ่งที่ควรรู้สำหรับผู้ที่อยากจะเป็นเจ้าของคอนโดกัน
การจะซื้อคอนโดนั้นมีทั้งซื้อเงินสดและกู้เงินธนาคาร สำหรับการกู้เงินธนาคารมาเพื่อซื้อคอนโดนั้น ธนาคารนั้นจะปล่อยกู้ประมาณ 90% ของราคาประเมิน ส่วนต่างนั้นผู้ซื้อต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง หรือคอนโดในบางที่จะมีการผ่อนดาวน์ เพื่อลดภาระในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นโครงการของบริษัทใหญ่ อาจจะกู้ได้ถึง 100% และกรณีที่เป็นคอนโดมือสอง ธนาคารจะปล่อยกู้ประมาณ 80% ของราคาประเมิน และสำหรับคอนโดใหม่ที่ไม่ได้มีการตกแต่ง มีให้กู้เพิ่มอีก 10% หรือน้อยกว่า
การกู้เงินในส่วนนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและมีการผ่อนชำระในระยะเวลาที่สั้นกว่า อัตราการปล่อยเงินกู้ของธนาคารนั้นขึ้นอยู่กับเงินเดือน ความตรงต่อเวลาในการชำระหนี้ของผู้ยื่นกู้ สถานะทางการเงินของผู้ขอกู้ หนี้บัตรเครดิต การผ่อนของ และบางธนาคารอาจจะคำนวณโดยคิดจากเงินฝากในธนาคาร หรือค่านายหน้า ค่าคอมมิชชั่นร่วมด้วย ข้อมูลพวกนี้ธนาคารเอามาประกอบการตัดสินใจว่า ผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระคอนโดได้หรือไม่ และอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เลือกผ่อนชำระ โดยระยะเวลาชำระที่เหมาะสม
สำหรับการขอสินเชื่อบ้านและคอนโดก็คือ ระยะเวลาที่นานที่สุด เพราะสินเชื่อบ้านและคอนโดเป็นสินเชื่อที่ลดต้นลดดอกได้ ยิ่งจ่ายเยอะ ยิ่งผ่อนหมดเร็ว และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึงปีละ 1 แสนบาทด้วย ต่างจากการกู้ซื้อรถยนต์ที่มีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยไว้แล้ว แต่อย่าลืมคำนวณด้วยว่า ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้นก็ตามมาด้วยดอกเบี้ยที่เพิ่มตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน เราสามารถคิดอัตราการปล่อยกู้ของธนาคาร คำนวณจากเงินเดือนของเรา 50 เท่าหรืออาจจะมากกว่าในกรณีที่มีความมั่นคงในอาชีพสูง และสามารถผ่อนชำระได้ 1 ใน 3 ของเงินเดือน หรือคิดเป็นประมาณ 33-40% จะเป็นอัตราการผ่อนชำระที่ธนาคารประเมินแล้วว่า ไม่หนักจนเกินไป
แต่ถ้าต้องการกู้ในวงเงินที่สูงกว่านี้ ขอแนะนำให้กู้ร่วม โดยผู้ที่ยื่นเรื่องต้องเป็นคู่สมรสที่มีการจดทะเบียน หรือญาติร่วมสายเลือด และนี่จึงเป็นรายละเอียดเบื้องต้นสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของคอนโดควรจะทราบ โดยท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากโครงการ หรือธนาคารที่ต้องการยื่นกู้ก็ได้ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมในการเป็นเจ้าของคอนโด และประเมินกำลังในการผ่อนชำระได้แน่นอน
By : Blue~BeRry
การจะซื้อคอนโดนั้นมีทั้งซื้อเงินสดและกู้เงินธนาคาร สำหรับการกู้เงินธนาคารมาเพื่อซื้อคอนโดนั้น ธนาคารนั้นจะปล่อยกู้ประมาณ 90% ของราคาประเมิน ส่วนต่างนั้นผู้ซื้อต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง หรือคอนโดในบางที่จะมีการผ่อนดาวน์ เพื่อลดภาระในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นโครงการของบริษัทใหญ่ อาจจะกู้ได้ถึง 100% และกรณีที่เป็นคอนโดมือสอง ธนาคารจะปล่อยกู้ประมาณ 80% ของราคาประเมิน และสำหรับคอนโดใหม่ที่ไม่ได้มีการตกแต่ง มีให้กู้เพิ่มอีก 10% หรือน้อยกว่า
การกู้เงินในส่วนนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและมีการผ่อนชำระในระยะเวลาที่สั้นกว่า อัตราการปล่อยเงินกู้ของธนาคารนั้นขึ้นอยู่กับเงินเดือน ความตรงต่อเวลาในการชำระหนี้ของผู้ยื่นกู้ สถานะทางการเงินของผู้ขอกู้ หนี้บัตรเครดิต การผ่อนของ และบางธนาคารอาจจะคำนวณโดยคิดจากเงินฝากในธนาคาร หรือค่านายหน้า ค่าคอมมิชชั่นร่วมด้วย ข้อมูลพวกนี้ธนาคารเอามาประกอบการตัดสินใจว่า ผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระคอนโดได้หรือไม่ และอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เลือกผ่อนชำระ โดยระยะเวลาชำระที่เหมาะสม
สำหรับการขอสินเชื่อบ้านและคอนโดก็คือ ระยะเวลาที่นานที่สุด เพราะสินเชื่อบ้านและคอนโดเป็นสินเชื่อที่ลดต้นลดดอกได้ ยิ่งจ่ายเยอะ ยิ่งผ่อนหมดเร็ว และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึงปีละ 1 แสนบาทด้วย ต่างจากการกู้ซื้อรถยนต์ที่มีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยไว้แล้ว แต่อย่าลืมคำนวณด้วยว่า ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้นก็ตามมาด้วยดอกเบี้ยที่เพิ่มตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน เราสามารถคิดอัตราการปล่อยกู้ของธนาคาร คำนวณจากเงินเดือนของเรา 50 เท่าหรืออาจจะมากกว่าในกรณีที่มีความมั่นคงในอาชีพสูง และสามารถผ่อนชำระได้ 1 ใน 3 ของเงินเดือน หรือคิดเป็นประมาณ 33-40% จะเป็นอัตราการผ่อนชำระที่ธนาคารประเมินแล้วว่า ไม่หนักจนเกินไป
แต่ถ้าต้องการกู้ในวงเงินที่สูงกว่านี้ ขอแนะนำให้กู้ร่วม โดยผู้ที่ยื่นเรื่องต้องเป็นคู่สมรสที่มีการจดทะเบียน หรือญาติร่วมสายเลือด และนี่จึงเป็นรายละเอียดเบื้องต้นสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของคอนโดควรจะทราบ โดยท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากโครงการ หรือธนาคารที่ต้องการยื่นกู้ก็ได้ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมในการเป็นเจ้าของคอนโด และประเมินกำลังในการผ่อนชำระได้แน่นอน
By : Blue~BeRry
