ใครว่าซื้อคอนโดลงทุน ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก
เพื่อไม่ให้เราต้องขาดทุน ZmyHome ขอแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาตัวชี้วัด 3 ตัวง่ายๆ ดังนี้ครับ
1.เงินลงทุนทั้งหมด เงินลงทุนทั้งหมดในที่นี้หมายถึง “เงินลงทุนทั้งหมดเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินและตกแต่งห้องให้พร้อมสำหรับการเช่า” หมายถึง เงินที่เราต้องจ่ายออกไปจริงๆ ทั้งหมด ตั้งแต่ เงินจอง เงินทำสัญญา เงินผ่อนดาวน์ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จ่ายที่กรมที่ดิน เงินตกแต่งห้องชุด และค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า (ให้นับเฉพาะส่วนที่เราต้องจ่ายเท่านั้น หากนักลงทุนซื้อด้วยเงินกู้ ให้นับเฉพาะส่วนที่เราผ่อนดาวน์)
2. ค่าเช่าสุทธิที่ได้รับ “ค่าเช่าสุทธิที่ได้รับ” หมายถึง ค่าเช่าที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อดำเนินการเช่าแล้ว เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่านายหน้า ค่าประกันทรัพย์สิน ภาษีโรงเรือน เป็นต้น บางกรณีหากคอนโดของนักลงทุนปล่อยเช่าให้กับชาวญี่ปุ่น ซึ่งบางรายมีงบประมาณมาก เจ้าของห้องอาจมีค่าอินเทอร์เน็ต และค่าเคเบิลทีวีร่วมด้วย และบางกรณีอาจจะต้องรวมค่าแม่บ้าน ค่าเช่าเครื่องกรองน้ำ และค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักอยู่ระหว่าง 5%-25% ของค่าเช่าที่ได้รับ
3. ต้นทุนการเงิน/ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย (สำคัญที่สุด) “ต้นทุนการเงินหรือดอกเบี้ยเงินกู้” ข้อนี้เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ชี้ผลกำไรขาดทุนของเงินลงทุน เพราะหากดอกเบี้ยที่เราจ่ายสูงกว่าค่าเช่าสุทธิที่ได้รับในแต่ละเดือน เท่ากับเราจะมีภาระของดอกเบี้ยแทนที่จะมีผลตอบแทนจากการเช่า ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้มีจริงและมีเป็นจำนวนไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคอนโดที่ซื้อมามีราคาต่อตารางเมตรสูงมากๆ ถ้ารายได้สุทธิติดลบ กำไรจะอยู่ที่ราคาขายคอนโด ในกรณีที่รายได้สุทธิจริงๆ ติดลบ ปัจจัยที่จะทำให้นักลงทุนยังได้กำไรคือ ราคาของคอนโดที่เพิ่มขึ้นเมื่อขาย หรือนักลงทุนอาจต้องหาทางหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อมาลดค่าใช้จ่าย
ดังนั้นผู้ที่คิดจะลงทุนคอนโด ควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ครบถ้วน และโอกาสที่ห้องชุดของท่านจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งผลตอบแทนของทางเลือกในการลงทุนอื่นๆ ที่ท่านสามารถเข้าถึงได้ครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ