• 5 ต.ค. 2561

ทิศทางการลงทุนอสังหาฯ และคอนโดปี 2018

          สวัสดีครับวันนี้ ผมจะวิเคราะห์ให้เห็นเทรนด์ของอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็นแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และแนวสูง ได้แก่ คอนโดมิเนียม โดยปัจจุบันคนรุ่นใหม่กว่าครึ่งหันมานิยมอยู่อาศัยคอนโดแทน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอยู่ในงบที่จ่ายไหว และได้ทำเลดีกว่า ดังนั้นหัวใจสำคัญของอสังหาฯ จึงอยู่ที่ “ทำเล ทำเล และทำเล” ขยายความได้ว่า ต้องเป็นทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางนั่นเอง 
          ทิศทางของอสังหาฯ ไทยในปี 2018 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่มีความชะลอตัว แต่อสังหาฯ และคอนโด ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะคุ้มค่าแก่การลงทุน เนื่องด้วยปัจจัยทางด้านคมนาคม ที่มีการเปิดเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ในปัจจุบัน และที่กำลังจะเปิดในอนาคต ทำให้มีคอนโดเกิดขึ้นมากมายตามเส้นรถไฟฟ้า วงการอสังหาฯ ณ ตอนนี้ จึงคึกคัก และเป็นที่น่าจับตามองอย่างต่อเนื่อง
          กูรูหลายสำนักมองว่าประเทศไทย อาจอยู่ในภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้า อย่างยาวนานเหมือนที่ญี่ปุ่นเผชิญอยู่ ซึ่งแตกต่างจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี พ.ศ. 2540 ที่เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงแต่ในระยะเวลาจำกัดแค่ไม่กี่ปี ทำให้ลักษณะของปัญหาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อก่อนประเทศไทยเกิดฟองสบู่ก้อนโต จากความโลภของนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนเกินตัว แต่ทุกวันนี้ภาครัฐทยอยออกกฎระเบียบมาควบคุม ธนาคารก็เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และนักลงทุนเองก็ระมัดระวังกันมาก ดังนั้นปัจจุบันปัญหาจึงเกิดจากเหรียญอีกด้านหนึ่งมากกว่า นั่นคือความกลัว ผมเห็นมีคนปล่อยข่าวในสื่อโซเชียลว่าปีนี้จะเกิดฟองสบู่แตก ในภาคอสังหาฯ หลายคนก็เริ่มกลัวกันยกใหญ่จนไม่กล้าลงทุน ทำให้เสียโอกาสไปมหาศาล เพราะหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดทะลุ 1,700 จุดเรียบร้อย และราคาอสังหาฯ แพงขึ้นทุกปีจนรุ่นลูกเราอาจต้องเช่าอยู่ เป็นส่วนใหญ่หากพ่อแม่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ให้
 

          บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมเราอยู่ในภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้าอย่างยาวนาน แต่หุ้นกับอสังหาฯ ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งมันดูสวนทางกัน เหตุผลเพราะว่าการลงทุนเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งผมเชื่อว่าประเทศไทยมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือ โครงการรถไฟฟ้า 11 สาย, โครงการรถไฟความเร็วสูง, ต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยอันดับต้น ๆ ของโลก และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุน และมีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้องระดับแสนล้านบาท อย่างการที่ไทยมีนักท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ ก็เป็นผลพวงจากที่ในอดีตมีเมกะโปรเจกต์ที่ชื่อว่า สนามบินสุวรรณภูมินั่นล่ะครับ การลงทุนจึงเป็นเรื่องของอนาคตโดยมีราคาหุ้นกับอสังหาฯ พุ่งขึ้นไปรับข่าวล่วงหน้า (Leading Indicator) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอนาคตจะดูดี แต่ผมยังคงแนะนำให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
 

          ภาคธุรกิจอสังหาฯ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ อสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ และเพื่อการอยู่อาศัย โดยบทความนี้ ผมจะวิเคราะห์ให้เห็นเทรนด์ของอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็นแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และแนวสูง ได้แก่ คอนโดมิเนียม โดยปัจจุบันคนรุ่นใหม่กว่าครึ่งหันมานิยมอยู่อาศัยคอนโดแทน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอยู่ในงบที่จ่ายไหว และได้ทำเลดีกว่า ดังนั้นหัวใจสำคัญของอสังหาฯ จึงอยู่ที่ “ทำเล ทำเล และทำเล” ขยายความได้ว่า ต้องเป็นทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางนั่นเอง ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ไปท่องเที่ยว ไปทานข้าว และไปหาหมอ ฯลฯ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครเมืองหลวงที่ขึ้นชื่อว่า รถติดอันดับต้น ๆ ของโลก จึงต้องการระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพสูง ครอบคลุมการเดินทางไปทั่วประเทศ ซึ่งก็คือ การขนส่งระบบรางทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงนั่นเอง

ทิศทางการลงทุนอสังหาฯ คอนโดปี 2018
 

1.    พื้นที่ตามแนวเส้นรถไฟฟ้าน่าลงทุนที่สุด โดยเฉพาะเส้นรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง แม้ว่าผลตอบแทนจากค่าเช่าจะไม่สูงมากนัก แต่จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากมูลค่าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันประเทศไทยมีรถไฟฟ้า 5 สาย ระยะทางรวม 110.8 กิโลเมตร ยังถือว่าสั้นอยู่ แต่รัฐบาลมีแผนเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้า และขยายเส้นทางออกไปเป็น 11 สาย ระยะทางรวม 466.1 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะครอบคลุมเพียงพอ
2.    พื้นที่ตามแนวเส้นรถไฟฟ้าที่พาดผ่าน CBD (Central Business District) และ New CBD ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยเส้นทางสายสีเขียวเป็นรูปสามแฉกไปทางทิศเหนือ ใต้ และตะวันออกของกรุงเทพฯ เส้นทางสายสีน้ำเงินเป็นรูปตัวอักษร Q วิ่งวนเป็นวงกลมรอบกรุงเทพฯ และพาดออกไปทางทิศตะวันตก เส้นทางสายสีส้มเป็นรูปตัวอักษร l ไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ (รถไฟฟ้า Airport Link ผ่านย่าน CBD เช่นกัน แต่มีความแตกต่างจากรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ)
3.    พื้นที่ตามแนวเส้นรถไฟฟ้าสร้างใกล้เสร็จก็จะได้รับอานิสงส์มาก เพราะผู้ซื้ออยู่จริงหรือผู้เช่านิยมอยู่ในพื้นที่ ๆ มีรถไฟฟ้าให้บริการแล้ว โดยไฮไลท์อยู่ที่ปี 2020 รถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จพร้อมกันหลายสาย จากปี 2019 ที่มีรถไฟฟ้า 6 สาย ระยะทางรวม 123.4 กิโลเมตร ในปี 2020 เพิ่มเป็นรถไฟฟ้า 10 สาย ระยะทางรวม 284 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วย เพราะบางสายอาจมีปัญหาก่อสร้างล่าช้า ซึ่งอาจกระทบแผนการลงทุน

1.    อสังหาฯ และคอนโดยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เพราะในภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้าอย่างยาวนาน คนกลุ่มนี้ยังคงมีกำลังซื้อและผ่อนธนาคารไหว ส่วนคนระดับล่างมีปัญหาที่ธนาคารจะเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากกว่า โอกาสไม่ได้รับการอนุมัติสูง ทำให้เทรนด์อสังหาฯ และคอนโดโครงการใหม่ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
2.    ตลาดอสังหาฯ และคอนโดยังคงเติบโตทั้งจำนวนยูนิต และราคาสวนทางกับขนาดพื้นที่ ๆ เล็กลง เพราะคนมีความต้องการซื้อด้วยเหตุผลหลายอย่าง ได้แก่ ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ ต้องการบ้านหลังที่สองใกล้ที่ทำงาน ต้องการลงทุน ต้องการเก็บเป็นมรดก ฯลฯ โดยในบางทำเลอาจมีปัญหาผลิตมากกว่าความต้องการ (Oversupply) อย่างเช่น คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ผู้ประกอบการก็ทยอยเลื่อนเปิดโครงการใหม่ หรือไปเปิดในทำเลอื่นแทน
3.    ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อบ้านอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยและกลุ่มรายได้ไม่แน่นอน ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมด้านการเงินให้ดี และรักษาประวัติในเครดิตบูโร สำหรับผู้กู้ผ่านจะยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านที่ต่ำมาก เพราะตลาดยังคงนโยบายดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อยู่ในระดับต่ำ หากเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ยกู้บ้าน ก็คงปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4.    ลงทุนอสังหาฯ และคอนโดยากขึ้นต้องมีความรอบคอบมากขึ้น เนื่องจากหลายปัจจัย อาทิเช่น คอนโดเปิดใหม่จำนวนมากในทำเลเดียวกัน การเก็งกำไรใบจองและการปล่อยเช่าเป็นเรื่องยากขึ้น คอนโดใหม่ใน CBD และ New CBD ราคาต่อตารางเมตรแพงมาก การปล่อยเช่าที่คุ้มค่าเป็นเรื่องยากต้องหวังมูลค่าเพิ่มมาชดเชย และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนานหลายปี คนส่วนหนึ่งก็ชะลอการตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่ออกไป เป็นต้น
 

          สำหรับนักลงทุนท่านใดที่มีแผนจะลงทุนในอสังหาฯ สรุปได้ว่าทิศทางในปีหน้ายังมีความน่าสนใจอยู่มาก เพียงแต่ว่านักลงทุนจะต้องใช้ความรอบคอบ และการวิเคราะห์เปรียบเทียบมากขึ้น รวมไปถึงการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองในบ้านเรา ที่ยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา หากมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีก่อนคิดลงทุน นักลงทุนก็จะสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนที่ได้ จากการลงทุนว่าคุ้มค่าพอที่จะลงทุนหรือไม่ และยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนอีกด้วย

ที่มา : Plearn เพลิน  เขียนโดย Maibat ( 05 October 2018 )
ที่มา : https://www.krungsri.com

ติดตามข่าวสาร บ้าน คอนโค ที่ดิน อสังหาฯ เเละอัพเดท ราคาบ้าน ราคาคอนโด เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด และตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนใครที่ ZmyHome
 
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ