หลายๆ คนที่เช่าบ้าน คอนโด หรืออพาร์ตเมนท์ น่าจะรู้สึกเสียดายค่าเช่าที่ต้องจ่ายไปทุกเดือน แต่เมื่อคิดจะซื้อบ้าน ก็คิดไม่ออกว่าการซื้อบ้านหรือคอนโดราคาเป็นล้าน แต่รายได้มีอยู่หลักหมื่น ค่าใช้จ่ายก็มีทุกเดือน จะเร่ิมต้นได้ยังไง
ZmyHome มีคำแนะนำในการเร่ิมต้นวางแผน และประเมินความพร้อมของคุณเพื่อที่จะเป็นเจ้าของบ้าน ทั้งเรื่องความสามารถทางการเงิน และความรู้ในการพิจารณาเลือกซื้อบ้านที่ดีมาแนะนำครับ
1. เริ่มต้นออมเพื่อเริ่มต้นซื้อบ้าน
การซื้อบ้านเท่ากับเราเริ่มมีภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายทุกเดือน ที่เป็นทั้งเงินผ่อนและดอกเบี้ยจากการซื้อบ้าน ดังนั้นเราควรจะเริ่มทดสอบตัวเองโดยการออมเงิน เช่น “การเปิดบัญชีเงินฝากประจำ” ที่ต้องฝากเงินทุกเดือน เพื่อดูว่าเรามี “ความสามารถในการผ่อนอย่างไร้กังวล” แค่ไหน ซึ่ง ความสามารถในการผ่อนอย่างไร้กังวลนี้ น่าจะใกล้เคียงกันกับ “ค่าเช่า” และ “เงินฝากที่เราเก็บได้ทุกเดือน” ที่สำคัญเราสามารถนำเงินก้อนนี้ไปใช้เป็น “เงินดาวน์” และ “ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ” ที่จะต้องซื้อบ้านในอนาคตอีกด้วย หลาย ๆ ธนาคาร มักมีดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ซื้อบ้านที่มีบัญชีเงินฝากประจำลักษณะนี้ เพราะธนาคารรู้ว่าการปล่อยกู้ให้คุณมีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากคุณเป็นคนที่มีวินัยทางการเงินนั่นเอง
2. เราเป็นคนมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายหรือเปล่า
การเป็นหนี้ค้างชำระต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต จะทำให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของคุณมีความลำบากมากขึ้น การที่คุณไม่สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรายเดือน เป็นสัญญานบอกว่า คุณยังไม่พร้อมที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง และที่สำคัญคุณอาจจะต้องเช่าบ้านอยู่ตลอดไป คุณควรรักษาวินัยในการใช้จ่ายแต่ละเดือน และไม่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพของบัตรเครดิตหรือเงินกู้ต่างๆ เพื่อให้คุณมีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นเจ้าของบ้าน รวมทั้งมีโอกาสที่จะมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้น
3. ทำความรู้จักกับทำเล
บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพงที่สุดในชีวิตสำหรับใครหลายๆ คน ดังนั้นเมื่อเราจะตัดสินใจซื้อบ้านเพื่อสร้างชีวิต
ZmyHome แนะนำให้พิจารณา 2 เรื่องใหญ่ๆ เกี่ยวกับทำเล คือ 1. โอกาสการพัฒนาของทำเล เพราะหากบ้านที่เราจะซื้ออยู่อาศัยอยู่ในทำเลที่จะมีการพัฒนา เท่ากับว่าทรัพย์สินของเรามีโอกาสที่จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และ 2. เวลาและค่าใช้จ่ายที่จะประหยัดลงหรือเพิ่มขึ้นในการซื้อบ้าน เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ลดลงจะช่วยให้เราสามารถผ่อนบ้านหรือมีเงินเก็บได้มากขึ้น นอกจากนี้เวลาที่เพิ่มขึ้นทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีโอกาสได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น แทนที่จะต้องเสียเวลาและสุขภาพจิตไปกับการเดินทาง ยิ่งถ้าคุณต้องการที่จะก้าวหน้าในองค์กร คุณจะมีเวลาและความพร้อมมากขึ้นกับการสร้างผลงานในแต่ละวัน เรื่องโอกาสในการพัฒนาของทำเลนั้น
ZmyHome แนะนำให้สังเกตที่ “โอกาสที่จะมีคนเข้ามาอยู่มากขึ้น” เพราะคนที่เข้ามาอยู่มากขึ้นจะนำมาซึ่งความต้องการที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งทำเลที่จะมีคนอยู่มากขึ้นก็จะต้องประกอบดัวย ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ เดินทางสะดวก (เดินไปรถไฟฟ้าได้ ขับรถขึ้นทางด่วนง่าย) มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ปลอดภัย และสภาพแวดล้อมดี ทำเลมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของมูลค่าของทรัพย์สินอย่างมากครับ ทำความรู้จักกับทำเลที่เราสนใจให้มาก ๆ จะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาด เพราะซื้อโครงการในทำเลไม่ดี
4. ศึกษาเรื่องสินเชื่อและค่าใช้จ่าย
หลังจากที่เราเริ่มออมเงินได้และคุ้นเคยกับทำเลที่สนใจแล้ว เราอาจจะเริ่มศึกษาเรื่องสินเชื่อว่าธนาคารมีวิธีการพิจารณาการให้สินเชื่ออย่างไร เข่น อาชีพที่ธนาคารให้สินเชื่อ วงเงินสินเชื่อที่เราสามารถกู้ได้ รวมไปถึงเงินที่เราจะต้องผ่อนแต่ละเดือน นอกจากเงินผ่อนแล้ว การซื้อบ้านจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีและการตกแต่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนกลางในแต่ละเดือน หรืออาจมีค่าที่จอดรถเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงควรศึกษาให้พร้อมว่าเราพร้อมกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้หรือเปล่า
5. เริ่มศึกษาคุณภาพของโครงการ
สำหรับคนที่ไม่เคยซื้อบ้าน อาจไม่คุ้นเคยกับคุณภาพบ้านของนักพัฒนาโครงการแต่ละราย ดังนั้นคุณควรจะเริ่มศึกษานักพัฒนาแต่ละรายไว้ เพราะบอกได้เลยว่า คุณภาพการก่อสร้างของนักพัฒนาแต่ละรายแตกต่างกัน ถ้าจะให้ปลอดภัย อาจจะ “เลือกซื้อบ้านหรือคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว” โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่คุณมีทางเลือกมากมายจากโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จและไม่มีคนอยู่อาศัย คุณจะได้เห็นบ้านที่เรากำลังจะซื้อจริงๆ และหลายๆโครงการ ราคายังถูกกว่าโครงการสร้างใหม่อีกด้วย ขอให้ทุกคนได้มีบ้านที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองนะครับ จากใจ
ZmyHome ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ