จะกู้เงินซื้อบ้านต้องใช้อะไรบ้าง?
คำถามยอดฮิตในใจของผู้ที่ต้องการมีบ้านแต่ไม่ต้องการใช้เงินสดหรือต้องการใช้เงินสดให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะช่วงนี้ เป็นช่วงที่รัฐบาล ธนาคาร และโครงการหมู่บ้าน โครงการคอนโดมิเนียม มีโปรโมชั่นถล่มทลาย เกรงว่าถ้าไม่ซื้อบ้านช่วงนี้ (พ.ย.58-เม.ย.59) จะตกรถไฟ พลาดโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยคุณภาพดี ราคาถูก ราคาถูกในที่นี้ไม่ใช่การลดราคาบ้านหรือคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่คือ ราคารวมที่ผู้จะซื้อบ้านต้องจ่ายออกไปซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดไม่ถึงราคาแฝงที่อาจจะเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสนที่ผู้จะซื้อบ้านต้องหาเงินมาจ่ายเพื่อให้ได้ให้บ้านมาครอบครอง ราคาแฝงนอกจากราคาบ้าน มีอยู่ 3 อย่างได้แก่
ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านนอกจากราคาบ้าน
1.ค่าใช้จ่ายกับโครงการ เช่น ค่าประกันมิเตอร์น้ำ ไฟ เงินกองทุนนิติบุคคล ค่าใช้จ่ายส่วนกลางล่วงหน้า 1 หรือ 2 ปี **ส่วนต่างราคาบ้านถ้ากู้ธนาคารได้ไม่เต็มราคาซื้อขาย**
2. ค่าใช้จ่ายกับธนาคาร เช่น ค่าประเมินราคาบ้าน ค่าประกันอัคคีภัย ค่าธรรมเนียมสินเชื่อธนาคาร ค่าจัดทำนิติกรรมสัญญา ค่าประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
3. ค่าใช้จ่ายกับสำนักงานที่ดิน ได้แก่ ค่าโอน ค่าจดจำนอง ภาษีเงินได้ หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากร จะเห็นว่านอกจากผู้จะซื้อบ้านจะต้องไปดูโครงการบ้านหรือบ้านมือสองที่ถูกใจ ตกลงราคาซื้อขายกับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ยังต้องเตรียมเงินสดอุ่นๆ ในกระเป๋าจำนวนหนึ่งเพื่อจ่ายให้กับ โครงการหมู่บ้าน ธนาคาร และ สำนักงานที่ดินอีกด้วย
ตอบคำถามว่า จะกู้เงินซื้อบ้านต้องใช้อะไรบ้าง ?
1.เตรียมบ้านที่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการ ซื้อบ้านมือสองกับคนรู้จัก กับตัวแทนนายหน้า บ้านจากการปรมูลกับกรมบังคับคดี บ้านจากทรัพย์สินรอการขายธนาคารต่างๆ ตลอดจนการสร้างบ้านเองบนที่ดินของตัวเอง
2. เตรียมเอกสารผู้กู้และ/หรือผู้กู้ร่วม เอกสาร 3 หมวดหลักคือ เอกสารส่วนตัว เอกสารรายได้ และเอกสารเกี่ยวกับบ้านที่จะซื้อ
3. เตรียมเงินอุ่นๆ ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายแฝงที่กล่าวมาด้านต้น ถ้าไม่อยากตกรถไฟช่วงนี้ (พ.ย.58-เม.ย.59) แนะนำว่าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะค่าใช้จ่ายกับสำนักงานที่ดินลดราคาจาก 2% เป็น0.01 สำหรับค่าโอน และ จาก 1% สำหรับค่าจดจำนอง เป็น 0.01 คิดดูว่าจะแสนบาทลดเหลือพันบาท จากหมื่นบาทหรือร้อยบาท แถมโครงการต่างๆ มีโปรโมชั่นลด แลก แจกแถมคุ้มๆ เช่น ฟรีเฟอร์นิเจอร์ อยู่ฟรี 1 ปีไม่ต้องผ่อน กู้เต็มราคาขายกับธนาคารที่ทำข้อตกลง แล้วจะพลาดได้ยังไง จริงมั้ย?
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านนอกจากราคาบ้าน
1.ค่าใช้จ่ายกับโครงการ เช่น ค่าประกันมิเตอร์น้ำ ไฟ เงินกองทุนนิติบุคคล ค่าใช้จ่ายส่วนกลางล่วงหน้า 1 หรือ 2 ปี **ส่วนต่างราคาบ้านถ้ากู้ธนาคารได้ไม่เต็มราคาซื้อขาย**
2. ค่าใช้จ่ายกับธนาคาร เช่น ค่าประเมินราคาบ้าน ค่าประกันอัคคีภัย ค่าธรรมเนียมสินเชื่อธนาคาร ค่าจัดทำนิติกรรมสัญญา ค่าประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
3. ค่าใช้จ่ายกับสำนักงานที่ดิน ได้แก่ ค่าโอน ค่าจดจำนอง ภาษีเงินได้ หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากร จะเห็นว่านอกจากผู้จะซื้อบ้านจะต้องไปดูโครงการบ้านหรือบ้านมือสองที่ถูกใจ ตกลงราคาซื้อขายกับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ยังต้องเตรียมเงินสดอุ่นๆ ในกระเป๋าจำนวนหนึ่งเพื่อจ่ายให้กับ โครงการหมู่บ้าน ธนาคาร และ สำนักงานที่ดินอีกด้วย
ตอบคำถามว่า จะกู้เงินซื้อบ้านต้องใช้อะไรบ้าง ?
1.เตรียมบ้านที่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการ ซื้อบ้านมือสองกับคนรู้จัก กับตัวแทนนายหน้า บ้านจากการปรมูลกับกรมบังคับคดี บ้านจากทรัพย์สินรอการขายธนาคารต่างๆ ตลอดจนการสร้างบ้านเองบนที่ดินของตัวเอง
2. เตรียมเอกสารผู้กู้และ/หรือผู้กู้ร่วม เอกสาร 3 หมวดหลักคือ เอกสารส่วนตัว เอกสารรายได้ และเอกสารเกี่ยวกับบ้านที่จะซื้อ
3. เตรียมเงินอุ่นๆ ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายแฝงที่กล่าวมาด้านต้น ถ้าไม่อยากตกรถไฟช่วงนี้ (พ.ย.58-เม.ย.59) แนะนำว่าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะค่าใช้จ่ายกับสำนักงานที่ดินลดราคาจาก 2% เป็น0.01 สำหรับค่าโอน และ จาก 1% สำหรับค่าจดจำนอง เป็น 0.01 คิดดูว่าจะแสนบาทลดเหลือพันบาท จากหมื่นบาทหรือร้อยบาท แถมโครงการต่างๆ มีโปรโมชั่นลด แลก แจกแถมคุ้มๆ เช่น ฟรีเฟอร์นิเจอร์ อยู่ฟรี 1 ปีไม่ต้องผ่อน กู้เต็มราคาขายกับธนาคารที่ทำข้อตกลง แล้วจะพลาดได้ยังไง จริงมั้ย?
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ