โหมโรง ตลาดบ้านแดนโสม
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่าตอนแรกที่ทาง ZmyHome ติดต่อมาให้เขียนบทความเกี่ยวกับตลาดบ้านในเกาหลี ก็แปลกใจว่า ทำไมถึงสนใจ แล้วมันจะมีประโยชน์กับคนไทยอย่างไร แต่พอได้คุยกับคุณนัท ทำให้ทราบถึง vision ของ ZmyHome ที่สนใจจะเอาแนวความคิดดีดี หรือองค์ความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จากทุกมุมโลก มาเผยแพร่ให้คนไทยได้รับรู้
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงรู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเขียนบทความนี้ค่ะ
เกาหลีใต้ เป็นประเทศยอดฮิตที่ครั้งหนึ่งในชีวิตคุณหรือคนใกล้ตัวคุณต้องมาติดตามรอยละครซีรี่ส์ที่นี่ แต่ชีวิตจริงไม่เหมือนในละครนะคะ เรื่องบ้านก็เหมือนกันค่ะ ที่เห็นอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ๆ นั้นมีน้อยมาก หรือใครที่เคยฝันจะได้บ้านแบบรูฟท๊อบเก๋ๆ แบบในเรื่อง คอฟฟี่ปรินซ์ ก็ต้องคิดใหม่นะคะ
เพราะส่วนใหญ่แล้วห้องแบบนั้นเอาไว้เก็บของ ไม่มีใครอยากอยู่หรอกค่ะ เพราะมันหนาวและรกมาก แล้วจริงๆคนเกาหลีอยู่กันยังไงหละคะ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนตึกสูงค่ะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา พื้นที่เยอะก็จริง แต่พื้นที่ที่อาศัยอยู่ได้จริงน้อยมาก 30% ของพื้นที่ทั้งประเทศ ประมาณ 30,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6% ของพื้นที่ 500,000 ตารางกิโลเมตรของประไทยเองค่ะ
คนที่เกาหลีส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่บนตึกสูง คือเน้นการใช้เนื้อที่ที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ ที่เกาหลีใต้ เมืองที่คนเกาหลีใฝ่ฝันจะอยู่คงหนีไม่พ้น โซล ซึ่งเป็นเมืองมีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี การศึกษา มหาวิทยาลัย การแพทย์ ความสวยงาม การคมนาคม ทำให้คนเกาหลีส่วนใหญ่มุ่งหน้าเข้ามาหางานทำและอาศัยอยู่ที่นี่ ในกรุงโซลการเดินทางภายในเมืองถือว่ามีความสะดวกสบายมาก ด้วยระบบรถไฟฟ้าที่กระจายทั่วเมือง โดยในเมือง Seoul มี Subway ทั้งหมด 9 สาย รวม 311 สถานี ยังไม่นับรวมสายอื่นไปเชื่อมกับเมืองอื่นๆอีก 10 สาย รถเมล์ก็สะดวกสะบาย สะอาดสะอ้าน
นอกจากนั้น โซลยังมีไฮเวย์เรียบแม่น้ำฮันทั้งสองด้าน คือ เหนือและใต้แม่น้ำทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ ภายในโซลสะดวกมาก ถึงรถจะเยอะแต่จะติดน้อยกว่ากรุงเทพมากค่ะ
ในโซล ผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน “อพาทึ” ที่ไทยเราคือ “คอนโดมิเนียม” แต่ที่นี่ เค้าเรียก “อพาทึ” ที่ย่อมาจาก อพาร์ทเม้นนั่นเอง ย่อให้เอาง่ายค่ะ ที่เกาหลีการย่อคำไม่ขัดกับวัฒนธรรมอันดีงามเกาหลีนะคะ เค้าชอบซะอีกค่ะ มันเร็วดี ไม่เสียเวลาเยิ่นเย้อค่ะ “อพาทึ” ก็มีหลายขนาดหลายไซส์แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะเป็น 2 – 4 ห้องนอนจะอยู่ที่ประมาณ 25-37 พยองหรือ 85 – 125 ตารางเมตร เหมาะกับที่อยู่กันเป็นครอบครัว ที่มีลูก ส่วนหน่วยการวัดนั้นก็ไม่ได้ใช้ตารางเมตรค่ะแต่ใช้หน่วยเป็นพยอง (pyong) ค่ะซึ่งมีขนาดประมาณ 3.31 ตารางเมตร ราคาก็ตั้งแต่ 100,000 กว่าบาทไปจนถึง 400,000 บาทต่อตารางเมตรกันเลย แตกต่างกันไปตามราคาของพื้นที่
ทำเลที่ที่อยู่อาศัยมีราคาแพงสุดหรือหรูสุดก็จะเป็นแถวที่เรียกว่า กังนัม คือเป็นย่านที่คนรวยอาศัยอยู่ ส่วน กังบุก หรือด้านเหนือของแม่น้ำราคาที่อยู่อาศัยจะถูกกว่าย่านกังนัม ย่านกังบุก ค่อนข้างเก่า เพราะพื้นที่ฝั่งนี้ถูกพัฒนามาก่อน ใครที่เคยมาจะเห็นได้จากผังเมืองและถนนหนทางที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง ในขณะที่ฝั่งกังนัม ถนนจะกว้างขวาง 10 เลนกันไปเลย ตัดเป็นตารางบล๊อกๆอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีร้านค้าของแบรนด์หรูจากต่างประเทศเรียงรายมากมายตามท้องถนน
ส่วนกลางของ “อพาทึ” โดยส่วนมากนั่นไม่ค่อยมีอะไรมาก เมื่อเทียบกับราคาของคอนโดมิเนียมในไทยที่เกรดในระดับเดียวกัน คือที่ไทย ถ้าราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปหรือเกรด high-end ขึ้นไปคือส่วนกลางต้องจัดเต็มมากๆ ใช่ไม๊คะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า สตรีม เทนนิส มากมายจัดเต็ม แต่ที่เกาหลี ที่เห็นนางเอกสวย รวยเริส อย่างชอนซองอี จากเรื่อง you who came from the star ต้องไปวิ่งที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันเพื่อที่จะได้เจอกับพระเอก แต่เหตุผลจริงๆ หาเป็นแบบนั้นไม่ค่ะแต่เป็นเพราะที่บ้านไม่มีที่ให้ออกกำลังกายต่างหาก ถึงแม้ว่า อพาทึ ของนางจะหรูเริส เว่อวังมากก็ตามค่ะ
นอกจากนี้ คนเกาหลีก็นิยมอยู่ “One room” หรือ “Studio” ตามชื่อเลยคือจะเป็นห้องแบบ one-bedroom” หรือ studio คือจะเป็นยูนิตขนาดเล็ก คนที่อยู่อาศัยเป็น นักศึกษาและผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่แถบบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัย และย่านธุรกิจ ที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งในเกาหลี คือ Officetels ซึ่งเป็นการรวมกันของ office และ พื้นที่อยู่อาศัย คือเป็นที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่บนตึกเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นไอเดียที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่
หลังจากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ค.ศ.1997 ช่วงฟองสบู่การแตกจากการเก็งกำไรในธุริจอสังหาริมทรัพย์รัฐบาลจึงได้ออกกฎหมายมาเพื่อไม่ให้เกิดการเก็งกำไรอีก Officetels จึงได้เกิดขึ้นมาหลังจากกฎหมายนี้ค่ะ (รายละเอียดไว้จะมาเล่าเพิ่มนะคะ) Officetels จะมีความทันสมัย เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาและผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่จะมีราคาแพงกว่า“One room” หรือ “Studio” สำหรับบางครอบครัวที่มีงบน้อยอาจจะเลือกอยู่ “Multi Family House” แทน “อพาทึ” ซึ่งเป็นจะมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับ “อพาทึ” โดยส่วนใหญ่จะเป็นตึก 4 ชั้นหรือน้อยกว่า และอาศัยอย่างน้อย 2 ครอบครัว เป็น ครอบครัว ที่ไม่ได้เป็นญาติกันนะคะคือเป็นคนมาอาศัยร่วมกัน แบบแชร์กันเช่าบ้านค่ะ และราคาจะถูกกว่า “อพาทึ” ที่ขนาดเท่ากัน
นอกจาก นี้ คนเกาหลีก็ยังมีบางส่วนที่อยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว “single family house” ซึ่ง บ้านเดี่ยวสำหรับหนึ่งครอบครัวบนพื้นที่ส่วนตัว บ้านแบบนี้จะพบน้อยมากๆในโซล ส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมืองไกลๆ เดินทางเข้าเมืองทีก็จะลำบากหน่อยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เกาหลีเริ่มสนุกขึ้นมารึยังคะไว้เดี๋ยวต่อจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดนะคะว่า บ้านที่เกาหลีมีหน้าตาเป็นอย่างไร ต่างจากในละครมากแค่ไหนนะคะ แล้วคนเกาหลี ถ้าเลือกได้ เค้าอยากอยู่บ้านแบบไหน หรือ อยู่ที่ไหน เพราะอะไร เค้าจ่ายค่าบ้านยังไง เค้าลงทุนในอสังหาไม๊ ผลตอบแทนเป็นอย่างไร แล้วถ้าคนไทยหรือคนต่างชาติสนใจลงทุนได้หรือไม่ ติดตามอ่าน เม้ามอยเรื่องตลาดที่อยู่อาศัยในเกาหลี ที่ ZmyHome นะคะ มาดามลี
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ