สามีไม่ยอมหย่า ภรรยากู้ซื้อบ้านใหม่ไม่ได้!
เรื่องคู่ชีวิตกับการซื้อบ้านนี่ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร
เพราะปัจจุบันการเลือกใช้ชีวิตคู่ทั้งพฤตินัยและนิตินัยมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมรสจดทะเบียน หย่า สมรสไม่จดทะเบียน (ไม่มีบุตร) สมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตร) สมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตรและแยกกันอยู่) โสด (จริง) โสด (ไม่จริง) หม้าย …หลายสถานะจริงๆ อย่าคิดว่าเราเขียนไปเรื่อยเปื่อยถึง 8 สถานะ แต่ละสถานะก็จะทำให้การเตรียมเอกสารส่วนตัวต่างกัน เงื่อนไขต่างกัน
ขอยกตัวอย่าง คือ คุณพัชวี(นามสมมติ) หน้าเศร้าหมองมากโหงวเฮ้งต่างจากคนมากู้ซื้อบ้านคนอื่นๆ ที่ดูดีมีออร่าเป็นส่วนใหญ่ มายื่นเอกสารเพิ่มเติม เพราะเคยติดต่อขอซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 16 ตารางวา ราคาย่อมเยาไม่เกิน 1 ล้านจากผู้ขายที่รู้จักกันอาทิตย์ก่อน
ตรวจเอกสารพบว่ามีคำนำหน้า “นาง” แต่ติ๊กในเอกสารว่า “โสด” มีบุตร 1 คน คุณพัชวีมีแนบใบแจ้งความจากสถานีตำรวจมาพร้อมกันด้วยว่าเคยสมรสกับนายดาบดนัยและมีบุตรด้วยกัน 1 คน
**ถ้าสถานะสมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตรและแยกกันอยู่) ธนาคารจะขอใบแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน**
แต่ในที่นี้ คำนำหน้าว่า “นาง” บอกแล้วว่าเคยผ่านการจดทะเบียนสมรสมาก่อนแน่นอน แต่ไม่มีใบหย่าแนบเพื่อขอกู้ซื้อบ้านแบบโสดๆ
ปรากฏว่าคุณพัชวีไม่มีให้ จึงชี้แจงรายละเอียดว่า ถ้างั้นคุณดาบดนัย (สามีจดทะเบียน) ต้องเซนต์หนังสือยินยอมให้ทำนิติกรรมก่อนยื่นสินเชื่อและเมื่อสินเชื่ออนุมัติมีการจดจำนองก็ต้องไปเซนต์สัญญาจำนองที่สำนักงานที่ดินด้วย
แล้วความดราม่าก็บังเกิดว่า....
“พี่แยกกันอยู่กับเค้ามาหลายปีแล้วค่ะ เค้าไปมีเมียใหม่ 2-3 คน ซื้อบ้านใหม่หลายหลังพี่ก็ไม่เคยไปยุ่ง ไปฟ้องร้องหรือขอแบ่งอะไรกับเค้า ที่ทำงานเค้าก็รู้กันทุกคนว่าเค้ามีเมียใหม่แล้วก็เลิกกับพี่แล้ว ก็ไม่เห็นพี่ต้องไปเซ็นต์อะไรให้เค้าเลยเวลาเค้าซื้อบ้านกับเมียใหม่”
….อืมมม เค้าใช้ชื่อเมียใหม่กู้ซื้อบ้านคนเดียวรึเปล่าคะคุณพัชวี? (คิดเฉย ๆ ไม่ได้ถามจริง) หน้าเราคงมีเครื่องหมายคำถามคุณพัชวีจึงเล่าต่อว่า
“พี่เคยขอให้เค้ามาเซ็นต์หย่าแล้วแต่เค้าไม่ยอม พี่ก็อยู่ของพี่ เค้าก็อยู่ของเค้าแบบนี้เป็นสิบปีแล้ว ใบแจ้งความพี่ก็ขอมาแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา น้องรับเอกสารดูไปก่อนได้ไหม”
เอางี้นะคะคุณพัชวีเดี๋ยวลองวิเคราะห์เบื้องต้นก่อนว่ารายได้ หักค่าใช้จ่าย หักภาระหนี้เพียงพอเงินงวดมั้ย พอดีน้องอีกคนรับเอกสารตรวจบูโรของคุณพัชวีไว้วันก่อน
เราก็ไปพิมพ์บูโรออกมาจากในระบบ…
.
.
.
ผ่าง! หนี้เสียเพียบ
.
หนี้เสียคือ blacklist ที่ผ่านการ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย หลายปีและยังไม่ปิดบัญชี เพียบคือ มากกว่า 1 บัญชีหนี้ในประวัติเครดิตบูโร ก็โอเคตอกประตูปิดฝาโลงได้เลย ถึงว่าหน้าหมองคล้ำเหมือนคนมีหนี้ท่วมหลายๆ ท่าน
สรุปคือ สามีภรรยาแยกกันอยู่ สามีไม่ยอมหย่า ทำเรื่องกู้ซื้อบ้านได้ แต่สามีต้องมาเซนต์ยินยอม หรือไม่ก็หย่าให้เรียบร้อยแล้วยื่นใบหย่า สามีไม่ต้องเซนต์ ไม่ต้องมาปรากฏตัวให้ไม่สบายใจ
แต่ blacklist มีหนี้เสียหนี้ท่วม สามีเก่าหรือใหม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะจ๊ะเธอจ๋า ????
จาก: นักเขียนในเครือ ZmyHome
เพราะปัจจุบันการเลือกใช้ชีวิตคู่ทั้งพฤตินัยและนิตินัยมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมรสจดทะเบียน หย่า สมรสไม่จดทะเบียน (ไม่มีบุตร) สมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตร) สมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตรและแยกกันอยู่) โสด (จริง) โสด (ไม่จริง) หม้าย …หลายสถานะจริงๆ อย่าคิดว่าเราเขียนไปเรื่อยเปื่อยถึง 8 สถานะ แต่ละสถานะก็จะทำให้การเตรียมเอกสารส่วนตัวต่างกัน เงื่อนไขต่างกัน
ขอยกตัวอย่าง คือ คุณพัชวี(นามสมมติ) หน้าเศร้าหมองมากโหงวเฮ้งต่างจากคนมากู้ซื้อบ้านคนอื่นๆ ที่ดูดีมีออร่าเป็นส่วนใหญ่ มายื่นเอกสารเพิ่มเติม เพราะเคยติดต่อขอซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 16 ตารางวา ราคาย่อมเยาไม่เกิน 1 ล้านจากผู้ขายที่รู้จักกันอาทิตย์ก่อน
ตรวจเอกสารพบว่ามีคำนำหน้า “นาง” แต่ติ๊กในเอกสารว่า “โสด” มีบุตร 1 คน คุณพัชวีมีแนบใบแจ้งความจากสถานีตำรวจมาพร้อมกันด้วยว่าเคยสมรสกับนายดาบดนัยและมีบุตรด้วยกัน 1 คน
**ถ้าสถานะสมรสไม่จดทะเบียน (มีบุตรและแยกกันอยู่) ธนาคารจะขอใบแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน**
แต่ในที่นี้ คำนำหน้าว่า “นาง” บอกแล้วว่าเคยผ่านการจดทะเบียนสมรสมาก่อนแน่นอน แต่ไม่มีใบหย่าแนบเพื่อขอกู้ซื้อบ้านแบบโสดๆ
ปรากฏว่าคุณพัชวีไม่มีให้ จึงชี้แจงรายละเอียดว่า ถ้างั้นคุณดาบดนัย (สามีจดทะเบียน) ต้องเซนต์หนังสือยินยอมให้ทำนิติกรรมก่อนยื่นสินเชื่อและเมื่อสินเชื่ออนุมัติมีการจดจำนองก็ต้องไปเซนต์สัญญาจำนองที่สำนักงานที่ดินด้วย
แล้วความดราม่าก็บังเกิดว่า....
“พี่แยกกันอยู่กับเค้ามาหลายปีแล้วค่ะ เค้าไปมีเมียใหม่ 2-3 คน ซื้อบ้านใหม่หลายหลังพี่ก็ไม่เคยไปยุ่ง ไปฟ้องร้องหรือขอแบ่งอะไรกับเค้า ที่ทำงานเค้าก็รู้กันทุกคนว่าเค้ามีเมียใหม่แล้วก็เลิกกับพี่แล้ว ก็ไม่เห็นพี่ต้องไปเซ็นต์อะไรให้เค้าเลยเวลาเค้าซื้อบ้านกับเมียใหม่”
….อืมมม เค้าใช้ชื่อเมียใหม่กู้ซื้อบ้านคนเดียวรึเปล่าคะคุณพัชวี? (คิดเฉย ๆ ไม่ได้ถามจริง) หน้าเราคงมีเครื่องหมายคำถามคุณพัชวีจึงเล่าต่อว่า
“พี่เคยขอให้เค้ามาเซ็นต์หย่าแล้วแต่เค้าไม่ยอม พี่ก็อยู่ของพี่ เค้าก็อยู่ของเค้าแบบนี้เป็นสิบปีแล้ว ใบแจ้งความพี่ก็ขอมาแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา น้องรับเอกสารดูไปก่อนได้ไหม”
เอางี้นะคะคุณพัชวีเดี๋ยวลองวิเคราะห์เบื้องต้นก่อนว่ารายได้ หักค่าใช้จ่าย หักภาระหนี้เพียงพอเงินงวดมั้ย พอดีน้องอีกคนรับเอกสารตรวจบูโรของคุณพัชวีไว้วันก่อน
เราก็ไปพิมพ์บูโรออกมาจากในระบบ…
.
.
.
ผ่าง! หนี้เสียเพียบ
.
หนี้เสียคือ blacklist ที่ผ่านการ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย หลายปีและยังไม่ปิดบัญชี เพียบคือ มากกว่า 1 บัญชีหนี้ในประวัติเครดิตบูโร ก็โอเคตอกประตูปิดฝาโลงได้เลย ถึงว่าหน้าหมองคล้ำเหมือนคนมีหนี้ท่วมหลายๆ ท่าน
สรุปคือ สามีภรรยาแยกกันอยู่ สามีไม่ยอมหย่า ทำเรื่องกู้ซื้อบ้านได้ แต่สามีต้องมาเซนต์ยินยอม หรือไม่ก็หย่าให้เรียบร้อยแล้วยื่นใบหย่า สามีไม่ต้องเซนต์ ไม่ต้องมาปรากฏตัวให้ไม่สบายใจ
แต่ blacklist มีหนี้เสียหนี้ท่วม สามีเก่าหรือใหม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะจ๊ะเธอจ๋า ????
จาก: นักเขียนในเครือ ZmyHome