หนี้ที่มีผลต่อการกู้คอนโด
สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ซักชิ้น ส่วนมากนั้นจะเลือกการกู้กับธนาคาร เนื่องจากเมื่อมาคำนวณดูแล้ว การเลือกกู้กับธนาคารคุ้มค่ากว่าการเลือกใช้เงินสดเสียอีก
ดังนั้น เราจะมาบอกกล่าววิธีเตรียมความพร้อมในการกู้เงินกับธนาคารให้รับทราบว่า หนี้ประเภทใดบ้างที่จะส่งผลต่อการกู้เงินได้บ้าง โดยหนี้นั้น เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. หนี้ที่มองเห็นได้ ได้แก่ หนี้จากสถาบันการเงินหรือสินเชื่อต่างๆ เช่น ค่าผ่อนรถ ค่ากู้ยืมเพื่อการศึกษา ค่าบัตรเครดิต ค่าบัตรกดเงินสด เป็นต้น ซึ่งหนี้ที่ธนาคารมองเห็นนี้ สามารถตรวจสอบได้กับเครดิตบูโร และเมื่อเราต้องการกู้ยืมเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ธนาคารก็จะส่งข้อมูลไปที่เครดิตบูโรเพื่อตรวจสอบสถานะทางการเงินของท่านว่า มียอดที่ต้องชำระหรือมีประวัติการชำระเงินที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อต่อไป
ซึ่งในส่วนนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- หนี้ที่มียอดชำระต่อเดือนตายตัว เช่น ค่าผ่อนรถ ค่ากู้ยืมจากสถาบันทางการเงินหรือสินเชื่อต่างๆ ซึ่งหากท่านมีหนี้สิน ในส่วนนี้ ธนาคารจะสามารถตรวจสอบได้ โดยหนี้สินในส่วนนี้จะถูกนำมาหักลบกับรายได้ต่อเดือนของท่าน เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ต่อไป
- หนี้ที่มียอดชำระไม่ตายตัว เช่น ค่าบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด หนี้ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้กู้ยืมเอง โดยธนาคารไม่ได้คิดจากขั้นต่ำที่เราจ่ายในแต่ละเดือน แต่ธนาคารจะคิดจากยอดที่ค้างชำระใน 6 เดือนล่าสุดมาบวกกัน ดังนั้น ถ้าท่านต้องการกู้สินเชื่อได้เต็มอัตรา ควรชำระหนี้สินก่อนการยื่นกู้กับธนาคาร อย่างน้อย 6 เดือน
2. หนี้ที่มองไม่เห็น คือ หนี้ที่ไม่ได้มีการส่งข้อมูลเข้าเครดิตบูโร เช่น หนี้นอกระบบ เป็นต้น แม้ว่าหนี้สินในส่วนนี้ธนาคารจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ย่อมมีผลต่อการผ่อนชำระของผู้กู้เองด้วย ดังนั้น ตัวผู้กู้ก็ต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองด้วยเช่นกัน
จากข้างต้นเป็นข้อมูลคร่าวๆ ของการตรวจสอบเรื่องข้อมูลการเงิน โดยแต่ละธนาคารนั้นก็จะมีหลักการประเมินของธนาคารแตกต่างกันไปอีกเช่นกัน
ผู้เขียน: ดวงฤทัย
ดังนั้น เราจะมาบอกกล่าววิธีเตรียมความพร้อมในการกู้เงินกับธนาคารให้รับทราบว่า หนี้ประเภทใดบ้างที่จะส่งผลต่อการกู้เงินได้บ้าง โดยหนี้นั้น เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. หนี้ที่มองเห็นได้ ได้แก่ หนี้จากสถาบันการเงินหรือสินเชื่อต่างๆ เช่น ค่าผ่อนรถ ค่ากู้ยืมเพื่อการศึกษา ค่าบัตรเครดิต ค่าบัตรกดเงินสด เป็นต้น ซึ่งหนี้ที่ธนาคารมองเห็นนี้ สามารถตรวจสอบได้กับเครดิตบูโร และเมื่อเราต้องการกู้ยืมเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ธนาคารก็จะส่งข้อมูลไปที่เครดิตบูโรเพื่อตรวจสอบสถานะทางการเงินของท่านว่า มียอดที่ต้องชำระหรือมีประวัติการชำระเงินที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อต่อไป
ซึ่งในส่วนนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- หนี้ที่มียอดชำระต่อเดือนตายตัว เช่น ค่าผ่อนรถ ค่ากู้ยืมจากสถาบันทางการเงินหรือสินเชื่อต่างๆ ซึ่งหากท่านมีหนี้สิน ในส่วนนี้ ธนาคารจะสามารถตรวจสอบได้ โดยหนี้สินในส่วนนี้จะถูกนำมาหักลบกับรายได้ต่อเดือนของท่าน เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ต่อไป
- หนี้ที่มียอดชำระไม่ตายตัว เช่น ค่าบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด หนี้ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้กู้ยืมเอง โดยธนาคารไม่ได้คิดจากขั้นต่ำที่เราจ่ายในแต่ละเดือน แต่ธนาคารจะคิดจากยอดที่ค้างชำระใน 6 เดือนล่าสุดมาบวกกัน ดังนั้น ถ้าท่านต้องการกู้สินเชื่อได้เต็มอัตรา ควรชำระหนี้สินก่อนการยื่นกู้กับธนาคาร อย่างน้อย 6 เดือน
2. หนี้ที่มองไม่เห็น คือ หนี้ที่ไม่ได้มีการส่งข้อมูลเข้าเครดิตบูโร เช่น หนี้นอกระบบ เป็นต้น แม้ว่าหนี้สินในส่วนนี้ธนาคารจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ย่อมมีผลต่อการผ่อนชำระของผู้กู้เองด้วย ดังนั้น ตัวผู้กู้ก็ต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองด้วยเช่นกัน
จากข้างต้นเป็นข้อมูลคร่าวๆ ของการตรวจสอบเรื่องข้อมูลการเงิน โดยแต่ละธนาคารนั้นก็จะมีหลักการประเมินของธนาคารแตกต่างกันไปอีกเช่นกัน
ผู้เขียน: ดวงฤทัย