ตลาดบ้านหรูคึก ยันแบงก์ชาติไม่กระทบ เชื่อลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายสด
บริษัท ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล ยันเกณฑ์แบงก์ชาติไม่กระทบ อสังหาตากอากาศ
บ้านหรูคึกท้ายปี ไม่หวั่นผลกระทบจากมาตรการกู้ อสังหาฯ หรูไม่กระทบเกณฑ์แบงก์ชาติเข้มปล่อยสินเชื่อ ตระกูลภิรมย์ภักดี บุกบ้านตากอากาศเขาใหญ่เล็งพัฒนาซีเนียร์ ลิฟวิ่ง รับสังคมสูงวัย ด้านนายบูรณิศ ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล ของตระกูลภิรมย์ภักดี เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทบ้านหรู และบ้านพักตากอากาศนั้น ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้ที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ใช้เงินสด และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการขอสินเชื่อจากธนาคาร
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด ซึ่งตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ บนเนื้อที่ 800 ไร่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ประกอบด้วย เฟสแรกมีมูลค่าการขาย 1,300 ล้านบาท โดยเริ่มพัฒนาช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แบ่งแปลงที่ดินในการพัฒนาออกเป็น 22 แปลง ขนาดแปลงละ 1 ไร่ครึ่ง-4 ไร่ ปัจจุบันเหลือขาย 8 แปลง ราคาขายเฉลี่ย 5 หมื่นบาท/ตารางวา โดยผู้ซื้อจะต้องก่อสร้างบ้านภายในเวลา 3 ปีนับจากการซื้อ โดยมีลูกค้าสร้างบ้านแล้ว 5 หลัง
สำหรับเฟส 2 มีมูลค่าขายประมาณ 900 ล้านบาท จำนวน 50 แปลง แปลงละ 1 ไร่ ราคาแปลงละ 10 ล้านบาท จำนวน 50 แปลง ปัจจุบันขายไปได้แล้ว 14 แปลง โดยเน้นเจาะกลุ่มคนมีรายได้สูง อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดว่าทั้งสองเฟสจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2563 โดยบริษัทตั้งเป้าว่าหลังจากเฟส 2 สามารถทำยอดขายได้ 60% จึงจะเริ่มเปิดขายในเฟส 3 ซึ่งมีที่ดิน 60 ไร่ จำนวน 45 แปลง จะแบ่งขายขนาด 300 ตารางวา
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการเพื่อรองรับกับสังคมสูงวัย หรือซีเนียร์ ลิฟวิ่ง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเวลา 5 ปี เนื่องจากต้องการพัฒนาให้เป็นรูปแบบครบวงจรรองรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งโครงการในส่วนนี้อาจจะต้องมีพันธมิตรร่วมทุน
ด้านนางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในเขาใหญ่ยังมีความต้องการมากกว่าอุปทานที่ออกมา โดยเฉพาะบริเวณถนนเส้นผ่านศึก-กุดคล้า เนื่องจากจำนวนที่ดินมีจำกัด และที่ดินในเขาใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นจากการที่รัฐบาลเดินหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน โดยราคาที่ดินปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 300% และคาดว่าจะขยับขึ้นแรงในช่วงอีกรอบ ปัจจุบันกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งในไทยหรือมีสินทรัพย์เกิน 35 ล้านบาทมีสัดส่วน 12.7% ของประชากร
ไซมิส แอสเสท ปั้นแบรนด์เดอะ คอลเลคชั่น ท็อปเซ็กเมนต์เจาะตลาดหรูลักซ์ชัวรี่ปักธงสุขุมวิท 16 ผุดแฟล็กชิปโปรเจกต์ 4,800 ล้าน
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนารวม 3 โครงการ มูลค่าการพัฒนารวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแผนงานในปีนี้ 2 โครงการซึ่งล่าสุดเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นท็อปเซ็กเมนต์ของบริษัท ภายใต้แบรนด์ใหม่ เดอะ คอลเลค ชั่น ทำเลใจกลางสุขุมวิท-อโศก ถือว่าเป็นแฟล็กชิปโปรเจกต์ มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ บริเวณสุขุมวิท ซอย 16 เป็นอาคารสูง 2อาคาร อาคารหลักสูง 41 ชั้น จำนวน 443 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 6.2-45 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราว 2.4 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.)
ทั้งนี้ ได้แบ่งการขายออกเป็น 2 รูปแบบ ตั้งแต่ชั้น 1-20 จะเป็นคอนโดมิเนียมพักอาศัย และชั้น 20 ขึ้นไปจะขายใน รูปแบบการลงทุนปล่อยเช่า โดยบริษัท จะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญและเชนโรงแรมเข้ามาบริหารรวมทั้งปล่อยเช่า ซึ่งในช่วง 2 ปีแรกจะการันตีผลตอบแทน 5% ต่อปี หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับการปล่อยเช่าจริง โดยประเมินว่าโครงการนี้จะสามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 3 หมื่นบาท/เดือน สำหรับขนาด 34ตร.ม. สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่บริษัทการันตีผลตอบแทนการเช่าให้กับลูกค้า
อย่างไรก็ดี บริษัทได้เปิดจองโครงการดังกล่าวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีลูกค้าวางเงินจองแล้วกว่า 100 ยูนิต ทั้งนี้บริษัทเตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ในราคาขายต่ำกว่าคู่แข่ง 15%คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 60-70% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด จากนั้นจะปรับราคาขายขึ้นอีก 10% โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2562 และแล้วเสร็จในปี 2564
นอกจากนั้น มีแผนเปิดอีก 1 โครงการปลายปีนี้ คือ ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ รัชดาฯติดเอ็มอาร์ทีสถานีรัชดาภิเษก มูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มี 3 อาคาร แบ่งเป็นคอนโด 2 อาคาร สูง 35-40 ชั้น จำนวน 500-600 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 1.5 แสนบาท/ตร.ม. และอีก 1 อาคารจะเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ
สำหรับปี 2562 มีแผนเปิด 1 โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนพระราม 9 พื้นที่ 13 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 8,000 ล้านบาท มีทั้งคอนโด 3 อาคาร ออฟฟิศคอมเมอร์เชียล โครงการนี้อาจพัฒนาใน รูปแบบร่วมกับพาร์ตเนอร์ คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสแรก ปี 2562
ปัจจุบันภาพรวมตลาดอสังหาฯ นั้นยังมีการเติบโตดีแม้จะมีมาตรการจาก แบงก์ชาติที่ส่งสัญญาณออกมาแต่เชื่อว่าจะไม่กระทบภาพรวมตลาดมากนัก โดย ในส่วนของบริษัทเองมีการเก็บเงินดาวน์ สูงอยู่แล้ว อีกทั้งยังลดสัดส่วนขายลูกค้า ต่างชาติเพราะค่าใช้จ่ายสูงตอนนี้ล็อกไม่เกิน 8% โดยหันมาเน้นลูกค้าคนไทยมากขึ้น
สำหรับในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายราว 7,000 ล้านบาท และคาดมียอดรับรู้รายได้ราว 4,000 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ( 10 October 2018 )
ที่มา : http://www.reic.or.th/news/News_Detail.aspx?newsid=57588
ติดตามข่าวสาร บ้าน คอนโค บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ที่ดิน อสังหาฯ เเละอัพเดท ราคาบ้าน ราคาคอนโด เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด และตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนใครที่ ZmyHome