แคปปิตอล วัน ร่วมสหรัฐอเมริกา พาตลาดคอนโดสู่นานาชาติ
"จากประสบการณ์กว่า 10 ปี มองว่า เรียลเอสเตทเอเยนต์ในไทยน่าสนใจ แรกๆ ก็มาบริหารโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่ซอยอารี และต่อเนื่องมาอีกหลายโครงการ รวมถึงโครงการแนวสูงที่จังหวัดศรีราชา จนมาเจอวิกฤติการเมือง เจออีกจนชิน และปรับตัวได้ ทำให้เรารู้ว่า เราต้องรู้จักเตรียมพร้อมรองรับธุรกิจ และคิดว่าตอนนี้ คนไทยชินกับวิกฤติการเมือง แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น จะตัดกำลังซื้อของลูกค้า ทำให้ชะลอตลาดลงด้วย "นายวิทย์กล่าว
นายวิทย์กล่าวต่อไปว่า ด้วยศักยภาพของ แคปปิตอล วัน สามารถรับบริหารต่อโครงการ ได้มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ เราคาดว่าจะมีอัตราเติบโตระดับ 20% แต่จริงๆ แล้ว ที่ผ่านมา จะมียอดขายเกินมา 50% ทุกปี เนื่องมาจากการที่ลูกค้าบอกต่อ มุ่งมั่น พัฒนาระบบฐานข้อมูล(ดาต้าเบส) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะรักษาและควบคุมไม่ให้ บริษัทโตก้าวกระโดด เพื่อจะได้สามารถดูแลลูกค้าให้ทั่วถึง ทำธุรกิจได้ยาว ซึ่งในมุมมองแล้ว ธุรกิจโบรกเกอร์ในปัจจุบันต้องปรับตัวให้มาก เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในขณะนี้ อย่าไปคิดเก็บกินบุญเก่า แต่ต้องมีในเรื่องของยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจ มีบริการการขายที่ดี มีพนักงานที่ดี มีฐานะข้อมูลที่ดี และต้องเป็นข้อมูลที่เป็นจริง และสภาพตลาดที่เป็นอยู่ ขณะนี้ ผมว่าดี ดีตรงที่คู่แข่งน้อย และมีโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ
นายวิทย์กล่าวตอไปว่า ตลาดคอนโดมิเนียมมีพัฒนาการไปสู่รอบนอกชานเมือง มากขึ้น ตามการขยายตัวของเมือง แต่กลับพบว่า โครงการที่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อยูนิต ออกมาค่อนข้างมาก อย่างเช่น โซนสุขุมวิทตอนปลายไปถึงสมุทรปราการ หรือโซนรังสิต เริ่มมีสัญญาณสินค้าเกินความต้องการ จากข้อมูลพบว่า ในครึ่งปีแรก หน่วยที่อยู่อาศัยสร้าง เสร็จจดทะเบียนในกรุงเทพฯและปริมณฑล อาคารชุด กว่า 31,000 หน่วย คาดทั้งปี 60,000 หน่วย ขณะที่ ตัวเลขค่าธรรเนียมจดนิติกรรมของกรมที่ดินในปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีงบประมาณที่ผ่านมา ต่างกับปี 59-60 การจัดเก็บเพิ่มขึ้น 20% นั่น อาจจะแสดงให้เห็นถึง สภาพตลาดได้ว่า ตอนนี้ ซัพพลายคอนโดนเยอะ แต่ดีมานด์ลดลง ดังนั้น การวัดจาก โครงการเปิดใหม่ยาก ต้องวัดจากสร้างเสร็จจดทะเบียน และอีกอย่าง คอนโดฯต่ำกว่า 2 ล้านบาท ปกติแล้ว มีคู่แข่งจากโครงการแนวราบ เนื่องจากไลฟ์สไตล์คนอยู่ชานเมือง อยากอยู่ แนวราบ ทาวน์เฮาส์ ทั้งนี้ หากซัพพลายเยอะ เพราะราคาเพิ่มขึ้น ตามหลักเศรษฐกิจ ตัวดีมานด์ต้องเติบโต แต่ตอนนี้ นิ่ง ผลก็คือ มาจากราคาที่แพงเว่อร์ คนไทยซื้อไม่ได้ ลูกค้าต่างชาติ จึงเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ให้น้ำหนักในการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้า" นายวิทย์ กล่าวต่อว่า
แคปปิตอล วัน เตรียมขยายไลน์การบริการไปยังโครงการแนวราบ เพื่อเป็นขยายฐานลูกค้าให้ กว้างมากขึ้น จากการเปิดโครงการของผู้ประกอบการจำนวนมาก ทั้งสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ โดยจะเข้าไปบริหารจับกลุ่มลูกค้าเกรด A ราคา 5-20 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มเติบโต และมีกำลังซื้อที่สูง
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ( 19 October 2018 )
ที่มา : http://www.reic.or.th/news/News_Detail.aspx?newsid=57641
ติดตามข่าวสาร บ้าน คอนโค บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ที่ดิน อสังหาฯ เเละอัพเดท ราคาบ้าน ราคาคอนโด เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด และตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนใครที่ ZmyHome