MBK สร้างพอร์ตอสังหาฯ 2 หมื่นล้าน แผนปั้น 1,500 ไร่สู่เมืองขนาดใหญ่
นายสมบูรณ์ หวังโชคดำรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท เอ็ม บี เค เรียลเอสเตท จำกัด กลุ่มธุรกิจในเครือ เอ็มบีเค กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาที่ดินและโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงไฮเอนด์มานานกว่า 15 ปี กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2562 ว่า การจัดทำงบประมาณปี 2563 น่าจะไม่ทัน และคิดว่าเม็ดเงินของภาครัฐคงไม่มา เนื่องจากคาดว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)ใหม่น่าจะเห็นภาพชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 และกระบวนการในการขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐน่าจะเริ่มเห็นผลประมาณไตรมาสแรกของปี 2563 อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีประเด็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของโลกที่ทรง ๆ ตัวไม่ปรับขึ้นในระยะนี้
"จริง ๆ เราก็มีความหวัง เราอยู่บ้านของเรา แต่ฟันเฟืองหลักของการรันเศรษฐกิจมาจากภาคเอกชน ภาครัฐขับเคลื่อนไม่ได้เต็มที่ ทำให้การวิ่งของเศรษฐกิจลดลง ขณะที่คอนโดมิเนียมในเมือง พอมีปัญหาก็มีการจัดโปรโมชั่นกันเยอะไปหมด มีเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ก็จะมีผลต่อตลาดคอนโดมิเนียมไปด้วย" นายสมบูรณ์กล่าว
สำหรับทิศทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ หลัก ๆ จะมุ่งการบริหารและพัฒนาแปลงที่ดินขนาดใหญ่ของบริษัทฯ บนเนื้อที่ 1,500 ไร่บนย่านถนนติวานนท์ ต.บางกะดี จ.ปทุมธานี เพื่อให้เป็นสังคมที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้ชื่อ "Riverdale District" ซึ่งจะเป็นเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งได้เปิดบริการสนามกอล์ฟระดับพรีเมียม 2 สนาม บนเนื้อที่รวม 800 ไร่ มีลูกค้าตรงจากประเทศจีนและเกาหลี เข้ามาใช้บริการ มีโรงแรม Tinee Dee สปอร์ตคลับ
ในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยบนเนื้อที่ 700 ไร่นั้น จะเป็นมิกซ์ยูสที่มีแบบบ้านตอบโจทย์ทุกระดับลูกค้าตั้งแต่กลุ่มกลางไปจนถึงระดับบน โดยโครงการแรกที่ดำเนินการไปคือ โครงการบ้านเดี่ยว พาร์ค ริเวอร์เดล ราคา 7-15 ล้านบาท เนื้อที่โครงการ 120 ไร่ แบ่งพัฒนาออกเป็น 4 เฟส ซึ่งในเฟสแรกมียอดขายไปแล้ว 80% เฟส 2 เริ่มสร้างและทยอยขายให้กับลูกค้า ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ "เดอะ ริเวอร์เดล เรสซิเด้นท์" บนเนื้อที่ 180 ไร่ แบ่งเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกบนพื้นที่โครงการ 64 ไร่ ในสนามกอล์ฟริเวอร์เดล ในรูปแบบบ้านพร้อมที่ดิน 14 แปลง และที่ดินเปล่า 42 แปลง จำนวน 56 ยูนิต มูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มี 3 แบบบ้านที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว ระดับราคา 59 ล้านบาท 73 ล้านบาท จนสูงสุด 109 ล้านบาท
"ปีนี้คาดว่ารายได้เฉพาะของโครงการแนวราบจะประมาณ 300-400 ล้านบาท จากสัดส่วนมูลค่าโครงการแนวราบที่มีอยู่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าใน 1-2 ปี รายได้แนวราบจะเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นการเติบโตที่สม่ำเสมอ ไม่เน้นความหวือหวา"
นายปราโมทย์ เกตุทอง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายออกแบบและวางผัง บริษัท เอ็ม บี เคฯ กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวซื้อมาเมื่อ 10 ปี เฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อไร่ ปัจจุบันราคาซื้อขายประมาณ 3-4 ล้านบาท ซึ่งตามแผนมาสเตอร์แพลนแล้ว ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 จนไปถึง ปี 2570 ซึ่งเมื่อพัฒนาจนครบตามโมเดลที่วางไว้ ทั้งโครงการจะมีมูลค่า 20,000 ล้านบาท โดยโครงการที่จะเกิดขึ้น จะสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ด้านหน้า ภายใต้ชื่อ เดอะไนท์ ติวานนท์ จัดสรรพื้นที่ไว้ 40 ไร่ คาดจะให้บริการปี 2563
โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ ระดับราคา 20 ล้านบาทบวกลบ ขนาดโครงการไม่ใหญ่ประมาณ 20-30 ไร่ โครงการศึกษาสร้างท่ารองรับที่จอดเจ็ตสกีและเรือ speed boat และโครงการสร้างโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับ 3-4 แบรนด์โรงเรียนนานาชาติที่มีไลเซนส์ในประเทศ
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์