อนันดา จ่อปรับแผนเปิดโครงการ
นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธาน เจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า บริษัทมีโอกาสที่จะปรับลดจำนวนโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ลง จากเดิมมีแผนเปิด 10 โครงการ ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายยอดขายและรายได้ให้ลดลงตามไปด้วย หากภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวตลาดต่างชาติไม่เติบโต ทำให้การดำเนินธุรกิจค่อนข้างยากลำบากในช่วงที่เหลือของปี
เดิมบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 36,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน ยอดโอน 36,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จาก ช่วงเดียวกันปีก่อน และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 37,000 ล้านบาท แต่ด้วยผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ มาตรการคุมเข้มสินเชื่อ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ครึ่งปีแรกเปิดตัวโครงการไปเพียง 2 โครงการ
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากออกโครงการจำนวนมาก ในช่วงที่ลูกค้ายังชะลอการซื้อ จะมีโครงการเหลือขายจำนวนมาก แต่ต้นทุนยังเท่าเดิม ทำให้เงินสดในมือตึงตัว ซึ่งเป็นประเด็นที่บริษัทให้ความสำคัญ เพราะมีผลต่อฐานะการเงินได้โดยเฉพาะอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ตึงไว้ระดับไม่เกิน 2 เท่า
"ตอนนี้ยังตอบได้ยากว่าจะปรับเป้าหมายลดลงเหลือเท่าไร เพราะต้องรอดูตัวเลขไตรมาส 2 ที่ใกล้ปิดงบก่อนและประเมินปัจจัยอื่น หากทุกอย่างแย่ลง 8 โครงการที่เหลือต้องลดลง แต่ถ้ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่เข้ามาเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทำให้ตลาดไม่ได้แย่มาก"
ทั้งนี้บริษัทต้องรับมือกับปัจจัยที่เกิดขึ้น ด้วยการปรับกลยุทธ์ตลาดจากเดิมเน้นตลาด 3-5 ล้านบาทเป็นหลัก ต้องมาดูตลาดที่ไม่เคยลงมาเล่นคือราคา 1-2 ล้านบาท เพื่อกระจายพอร์ตและความเสี่ยง รวมทั้งตลาดในต่างประเทศที่มีสัดส่วน 20% เป็นคนจีน เนื่องจากตลาดนี้ยังมีโอกาส แม้มีการชะลอการซื้ออสังหาฯในไทย แต่เทียบกับประเทศอื่นไทยยังมีราคาถูกกว่า อัตราผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่าหรืออยู่ในระดับ 4-5%"
ปัจจุบัน บริษัทได้ตั้งสายงานขึ้นมาดูแลการขายในต่างประเทศโดยตรง จากเดิมขายผ่านตัวกลาง เน้นตลาดเมืองรองของจีนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในไทยจำนวนมาก ในราคาระดับ 3-5 ล้านบาท ซึ่งตรงกับพอร์ตโครงการของบริษัทที่เน้นตลาดนี้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กระจายรายได้ไปยังธุรกิจบริการด้วย เช่น เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรม โดยเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตร มิตซุย ฟูโดะซัน เอเชีย (ไทยแลนด์) จะเห็นรายได้เข้ามาไตรมาส 1 ปี 2563 หากรายได้เป็นไปตามแผน อาจจะตั้งกองทรัสต์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดในมือเพียงพอ ประมาณ 5-6 พันล้านบาท ที่ผ่านมาออกหุ้นกู้ 5 พันล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่ครบอายุ 7 พันล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์