• 7 ส.ค. 2562

'บีแลนด์'ลุยลงทุนอสังหาเช่า อานิสงส์ส่วนต่อสายสีชมพู

          บางกอกแลนด์รุกลงทุนอสังหาฯให้เช่า ทุ่ม 6 พันล้าน ต่อยอดอาณาจักรเมืองทองฯ บนที่ดิน 600 ไร่ เนรมิตพื้นที่ไมซ์ โรงแรม ช้อปปิ้งมอลล์ จ่อเปิดตัวปลายปี ตอกเสาเข็มปีหน้า รับอานิสงส์ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานี ตั้งเป้ารายได้แตะหมื่นล้านใน 3 ปี

          "เติมเต็มความสมบูรณ์ของอาณาจักรเมืองทองธานี" คือภารกิจหลักของ 2 พี่น้อง "ปีเตอร์-พอลล์ กาญจนพาสน์" ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)  หรือบีแลนด์ (BLAND) ในการสืบทอดวิสัยทัศน์ จากผู้พ่อ (อนันต์ กาญจนพาสน์) ซึ่งวางมือจากธุรกิจและคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับลูก ๆ หลังจากปั้นบางกอกแลนด์มากว่า 46 ปี และบริษัทลูกอย่าง อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งกำลังก้าวสู่ปีที่ 20 ในเดือน ต.ค.ปีนี้

          ล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญกับการประกาศแผนลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า รับอานิสงส์ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานีมาที่อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ และริมทะเลสาบเมืองทองธานี ที่ขณะนี้รอรัฐไฟเขียวให้ดำเนินการ

          นายปีเตอร์ กาญจนพาสน์ รองประธานกรรมการบริษัทและกรรมการบริหาร บางกอกแลนด์ กล่าวว่า เตรียมเงินสำหรับลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอาณาจักรเมืองทองธานี อีก 5,000-6,000 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดิน) บนที่ดินรอพัฒนาซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ 600 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่ของเมืองทองธานี เพื่อรองรับส่วนต่อขยายจากแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ซึ่งจะมีสถานีส่วนต่อขยาย 2 สถานีมาที่อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์และริมทะเลสาบเมืองทองธานี

          โดยโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 2 สถานีดังกล่าว บริษัทฯจะร่วมลงทุนกับบีทีเอส โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป เพื่อรองรับผู้เดินทางเข้า-ออกงานอีเวนท์ในอิมแพ็คฯเพิ่มขึ้น 30-40% จากปัจจุบันมีกว่า 10-15 ล้านคนต่อปี จากยอดการจัดงานอีเวนท์รวมกว่า 1,000 งานต่อปี

          ส่วนต่อขยายฯดันราคาที่ดินพุ่ง

          "บางกอกแลนด์คาดว่าเมื่อส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการ จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายในเมืองทองธานีได้ไม่ต่ำกว่า 3 เท่า ทำให้แนวโน้มราคาที่ดินในเมืองทองธานีเพิ่มจาก 1 แสนบาทต่อตารางวา เป็น 3 แสนบาทต่อตารางวา เท่ากับราคาที่ดินติดถนนแจ้งวัฒนะในปัจจุบัน" นายปีเตอร์ กล่าว

          สำหรับพื้นที่รอพัฒนาดังกล่าว แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนริมทะเลสาบเมืองทองฯ เตรียมพัฒนาโครงการอสังหาฯที่มีทั้งพื้นที่ไมซ์ (การจัดประชุมสัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และแสดงสินค้า) โรงแรม และชอปปิ้งมอลล์ ให้มีสีสัน โดยขณะนี้ยังรอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่เรื่องพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู เมื่อได้ความชัดเจน ก็เตรียมประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ริมทะเลสาบฯปลายปี 2562 นี้ คาดว่าจะลงเสาเข็มได้ในปี 2563 และก่อสร้างแล้วเสร็จราวปี 2565 ทันกับช่วงรถไฟฟ้า สายสีชมพูเปิดให้บริการในปี 2564
 


          เน้นลงทุน"อสังหาฯให้เช่า"

          นอกจากนี้ยังมีที่ดินรอพัฒนาโซนรอบ อิมแพ็ค และโซนรอบคอสโม บาซาร์ แหล่งช้อปปิงและศูนย์รวมความบันเทิงใจกลางเมืองทองธานี โดยคาดว่าทั้ง 600 ไร่จะใช้เวลาพัฒนาจนครบภายใน 7-8 ปีนับจากนี้

          "เราอยากทุ่มเทให้เมืองทองธานีเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ โดยทิศทางหลักได้มูฟจากอสังหาฯเพื่อขายขาดมาเป็นอสังหาฯเพื่อเช่ามากขึ้น เน้นสร้างรายได้จากธุรกิจให้เช่าพื้นที่คอมเมอร์เชียล (Commercial Property) และเพิ่มการเติบโตของกำไรจากค่าเช่า คาดเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาทภายใน 3 ปีนับจากนี้ จาก 1,000 ล้านบาทในปัจจุบัน"

          นายปีเตอร์ ยังกล่าวว่า เหตุผลที่ บางกอกแลนด์โฟกัสรายได้ค่าเช่าพื้นที่คอมเมอร์เชียลจากการลงทุนเองแล้ว ปล่อยเช่า เพราะจะช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินโดยรอบ หลังจากเมื่อเดือน มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการ คอสโมบาซาร์ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกว่า 8 หมื่นตารางเมตร คิดเป็นเฉพาะพื้นที่ค้าปลีกราว 4 หมื่นตารางเมตร ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในเมืองทองธานีที่มีกว่า 3 แสนคน และพนักงานออฟฟิศอีกกว่า 3 หมื่นคน โดยคอสโมบาซาร์ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินอีก 3 เท่า และทำให้มีผู้สนใจเช่าคอสโมออฟฟิศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 50% ขณะที่ก่อนหน้านี้ ได้เริ่มก่อสร้างสะพานเชื่อมอาคารต่าง ๆ ของเมืองทองธานี ระยะทางรวม 2 กิโลเมตร ลงทุนรวม 500 ล้านบาท แล้วเสร็จปลายปีนี้

          ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 1 หมื่นล้าน 3 ปี

          ทั้งนี้ คาดว่าบางกอกแลนด์จะมีรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี เพิ่มจากปีงบฯ 2562 (ตั้งแต่ 1 เม.ย.2561- 31 มี.ค.2562) ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 7,974 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีงบฯ 2562 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,816 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบฯ 2561 ซึ่งมีกำไร 1,231 ล้านบาท

          นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ทิศทางการสร้างรายได้ของอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นฯ นอกจากจะมุ่งเพิ่มการใช้พื้นที่จัดงานไมซ์ 15-20% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากอัตราการใช้พื้นที่ปัจจุบัน 57% เพิ่มเป็น 70% โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่ใช้งานห้องประชุมขนาดเล็กแล้ว ยังรุกผลักดันรายได้ ในส่วนธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มให้มีรายได้ 2,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือเติบโตเกือบ 3 เท่าจากรายได้ปัจจุบัน 700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์จากครัวหลักของ อิมแพ็คฯ ซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เจาะธุรกิจจัดเลี้ยงของลูกค้าทั้งภายในและภายนอกอิมแพ็คฯ

          เตรียมเปิดร้านกาแฟแบรนด์ใหม่

          ทั้งนี้ เตรียมเปิดตัวร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ในไทย ชื่อ "เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์" (The Coffee Academics) ซึ่งเป็นเชนร้านกาแฟระดับพรีเมียมจากฮ่องกง มีตำแหน่งทางการตลาดเป็น Special Coffee of Asia ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ สาขาแรกคือที่ซอยหลังสวน ชิดลม ตามแผนจะเปิด 8-10 สาขาภายใน 3 ปีนี้


ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
บทความอื่นๆ
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ