พิษเศรษฐกิจสะเทือนอสังหาฯมือสอง แนวโน้มปรับราคาลง 20%
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ต่างเริ่มปรับตัวเพื่อรองรับกำลังซื้อผู้บริโภคภายในประเทศที่อาจชะลอกำลังซื้อทรัพย์ ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่ในปีนี้ จากราคาอสังหาริมทรัพย์มือหนึ่งประเภทต่าง ๆ ทั้งแนวราบและแนวสูงมีการปรับราคา ส่งผลให้ทรัพย์มือสองปรับราคาลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
สอดคล้องกับข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า บ้านมือสองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 มีจำนวนประมาณ 65,000 หน่วย (จากในปี 2561 อยู่ที่ 72,000 หน่วย) มีสัดส่วนราว 40% ของที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้มีมูลค่าราว 143,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของมูลค่าที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 จากในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าที่อยู่อาศัยพร้อมโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 470,000 ล้านบาท (มูลค่ารวมทรัพย์มือหนึ่งและมือสอง)
ขณะที่ตลาดบ้านมือสอง หรือ ทรัพย์สินรอการขายของธนาคารพาณิชย์ (NPA) เมื่อสิ้นปี 2561 มีมูลค่าราว 93,065 ล้านบาท โดยครึ่งแรกของปีนี้ที่ผ่านมามีมูลค่ารวม 92,528 ล้านบาท ขณะที่ NPA (แนวราบและแนวสูง) ที่อยู่ในบริษัทบริหารสินทรัพย์มูลค่าราว 40,227 ล้านบาท
# 7 ปัจจัย หนุนตลาดบ้านมือสองมาแรง
โดยมี 7 ปัจจัยหลักที่เอื้อต่อการซื้อและลงทุนบ้านมือสอง คือ
- บ้านมือสองมีราคาที่ต่ำกว่าบ้านใหม่ 30-50% ทำให้เป็นทางเลือกในการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และการซื้อเพื่อลงทุนในราคาที่ถูกกว่า
- บ้านมือสองอยู่ในทำเลที่หาซื้อบ้านใหม่ได้ไม่ยาก และการมีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้บ้านมือสองที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้ามีให้เลือกมากขึ้น
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลง ช่วยเอื้อต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสินทรัพย์รอการขาย ซึ่งเป็นของธนาคารย่อมจะได้เงื่อนไขพิเศษในการซื้อและขอสินเชื่อ
- การปรับเงื่อนไข LTV ผ่อนปรนให้กับผู้กู้ร่วม จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ รวมทั้งทรัพย์สินรอการขายของธนาคาร เช่นกัน
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะนำมาใช้ช่วยเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 3.1 แสนล้านบาท จะช่วยดึงความเชื่อมั่นให้กลับมาดีขึ้น
- การซื้อทรัพย์สินรอการขายที่เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมีเนียม ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ถ้าโอนภายใน 31 ธันวาคม 2562 สามารถนำเงินจากการซื้อไม่เกิน 200,000 บาทไปหักลดหย่อนภาษีได้ กรณีซื้อบ้านสร้างใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนหนึ่งไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเวลาที่กำหนด และ
- หากเป็นทรัพย์สินรอการขายราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท จะได้ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% ไปถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2563
"ตลาดบ้านมือสองในปีนี้จะมีโอกาสเติบโตขึ้นไปอีกหรือไม่นั้น ยังอยู่ที่ธนาคารหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ ซึ่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์รอการขาย ซึ่งหากหันมาทำราคาลดลง ก็จะช่วยกระตุ้นความต้องการในการซื้อได้อีก" นายกิตติ กล่าว
# บ้านมือสองปรับราคาลง 20% - ธนาคาร ขยายวงเงินกู้ 95%
ด้านนางสาวอัญชนา วัลลิภากร กรรมการที่ปรึกษา สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว สมาคมฯ ได้จัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี 2562" (NPA Grand Sale & Home Loan 2019) ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.2562 ณ อิมแพค เมืองทองธานี โดยภายในงานมี NPA รอการขายทุกขนาดรวมกว่า 20,000 รายการ
ทั้งนี้ จากการนำเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data) ยังพบว่าแนวโน้ม NPA มีราคาปรับลดลงไปอีกประมาณ 20% เทียบจากช่วงปกติภายในการจัดงานครั้งนี้ ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ไม่ต่ำกว่า 5 รายในเบื้องต้นยังเตรียมจัดแคมเปญะยะสั้น ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน พร้อมขยายวงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 95% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อบ้านมือ 2 ในครั้งนี้
สำหรับกลุ่มเป้าหมายภายในงานฯ จะเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยเอง สัดส่วน70% และกลุ่มซื้อเพื่อลงทุน 30% ซึ่งทางผู้จัดงานฯ ได้เปิดลงทะเบียนออนไลน์ล่วงสำหรับผู้สนใจเพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งพบว่าแนวโน้มผู้สนใจสินทรัพย์รอการขาย อันดับแรก คือ กลุ่มอายุ 35-45 ปี กลุ่มอายุ 25-30 ปี และกลุ่มอายุ 54-65 ปีตามลำดับ โดยสมาคมฯ วางเป้าหมายมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ภายในงานฯ เบื้องต้นอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1,000 หน่วย
ที่มา : Posttoday.com, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์