ทุนจีนยึด'บางแสน' ผุดคอนโดยักษ์ 4,000 หน่วย
จังหวัดชลบุรี เมืองขึ้นชื่อในแง่การท่องเที่ยวติดริมทะเล ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว ส่งผลให้มีความคึกคักสูงในช่วงวันหยุดยาวและวันเสาร์-อาทิตย์ จากนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ เช่น กลุ่มคนจีน ประกอบกับเป็นทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยบูรพา ส่งเสริมให้กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดย่อมที่น่าจับตามองเรื่อยมา โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย
แต่พบว่าปัจจุบันด้วยข้อจำกัดเรื่องราคาและที่ดินที่หาได้ยาก จำนวนนิสิตลดน้อยลง ประกอบกับปัจจัยกดดันกำลังซื้อกลุ่มนักลงทุน เงื่อนไขแอลทีวี ส่งผลตลาดซึมโดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม ที่เหลือขายนับ 40% อย่างไรก็ตาม นายกเล็กบางแสนเริ่มเห็นแนวโน้มตลาดดีขึ้น หลังพบกลุ่มทุนจีนเตรียมพัฒนาพื้นที่ 20 ไร่ จ่อส่งซัพพลายใหม่เข้าตลาดนับ 4 พันหน่วย ลุ้นฟื้นการท่องเที่ยว นิสิตเพิ่มทำตลาดกลับมาคึกคัก
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข (บางแสน) จังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ยอมรับว่า ปัจจุบันมีซัพพลายคงค้างโดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไปประมาณ 30-40% หรือ 2 พันหน่วย หลังจากช่วงที่ผ่านมา กลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าเฉลี่ย 7-8 พันบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพานั้น ลดจำนวนลงไปมาก จากนโยบายของรัฐและมหาวิทยาลัย ปรับลดจำนวนนิสิต เหลือเพียง 3 หมื่นคน จากปกติ 5 หมื่นคนต่อปี ไม่ต่างจากปัญหากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลงด้วย
นอกจากนี้กลุ่มนักลงทุนเองยังต้องเผชิญกับหลักเกณฑ์การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (แอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซ้ำเติมอีก ทำให้การกู้ทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่กล้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด จากเดิมที่จะมีหน่วยใหม่เกิดขึ้นในแต่ละปีประมาณ 500-600 หน่วย ขณะที่ตลาดแนวราบ กลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ตั้งแต่ระดับราคา 1.5-3.5 ล้านบาทยังคงไปได้ หลายโครงการขายดี เนื่องจากความต้องการหลักยังเป็นคนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวลมากนัก หลังจากพบว่ามหาวิทยาลัยบูรพา มีนโยบายใหม่เตรียมเปิดรับนิสิตเพิ่มในปีการศึกษาหน้า ซึ่งจะเอื้อต่อธุรกิจหอพักและคอนโดฯปล่อยเช่า ขณะเดียวกับการที่รัฐเดินหน้าพัฒนาเกี่ยวกับอีอีซีอย่างต่อเนื่อง น่าจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯได้มาก ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนใหญ่เตรียมเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ร่วมกับบริษัทอสังหาฯของไทย รวมทั้งสิ้นมากกว่า 4 พันหน่วย จำนวน 5 อาคาร สูง 46 ชั้น ภายใต้ชื่อ "ทรีโอเนส" บนพื้นที่เกือบ 20 ไร่ติดหาดวอนนภา ขณะนี้ยื่นขอเปิดเฟสแรกแล้วจำนวน 850 หน่วย
ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้พัฒนาอสังหาฯ ทั้งที่เป็นรายใหญ่ของท้องถิ่นประมาณ 10 ราย และบริษัทอสังหาฯรายใหญ่จาก กทม. เช่น พฤกษา, ศุภาลัย และแสนสิริ เข้ามาแข่งขันในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่มีข้อจำกัดเรื่องที่ดินที่ปรับตัวสูงและหาได้ยากขึ้น โดยเฉพาะริมชายหาดที่เป็นที่ต้องการของผู้พัฒนาพบมีราคาสูงตั้งแต่ 7 หมื่น-1.5 แสนบาทต่อตารางวา ขณะที่ติดถนนสุขุมวิทมีการซื้อขายเริ่ม 5 หมื่นบาทต่อตารางวา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์