'พีทีเอฟ'รุกอสังหา เปิดคอนโดเจาะกทม.
นายถงหยุ่ย โทนี่ ยิ่ง กรรมการผู้บริหาร บริษัท พีทีเอฟ เรียลตี้ (2018) จำกัด ในเครือพีทีเอฟ เรียลตี้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยยังคงมีโอกาส แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาอาจมีการชะลอตัวไปบ้าง แต่จากผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยเฉพาะในส่วนของโครงการ ดีไฟน์ บาย เมย์แฟร์ ปัจจุบันมียอดขายกว่า 60% โดยมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2563 สะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีดีมานด์ เพียงแต่ว่าต้องศึกษาเพื่อจับกลุ่มหรือเซ็กเมนต์ที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกันบริษัทยังมองว่า ตลาดอสังหาทริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ยังมีการเติบโตที่ดีสุดแห่งหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงมองหาโอกาสการขยายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำเลย่านลาดพร้าว เพื่อพัฒนาโครงการที่พักแนวราบ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวสูงหรือคอนโดมิเนียมค่อนข้างชะลอตัว รวมถึงปัจจัยด้านคมนาคมของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเตรียมเปิดให้บริการในอนาคต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่บริษัทสนใจเข้าไปลงทุนในย่านลาดพร้าว
พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมรุกหนักในทำเลแยกดินแดงติดถนน ใหญ่ฝั่งถนนวิภาวดี (ขาออก) ภายใต้ชื่อโครงการเมย์แฟร์ เพลส วิคทอรี่ โมนูเมนต์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1-17.7 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 28 ชั้น จำนวน 194 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอ EIA คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2563 แล้วเสร็จในปี 2565 โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 140,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาเริ่มต้นที่ 129,000 บาทต่อตารางเมตร
อย่างไรก็ดี โครงการเมย์แฟร์ เพลส วิคทอรี่ โมนูเมนต์ เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าระยะยาว เป็นการขายพร้อมการันตีผลตอบแทน (Yield) 5% นาน 2 ปี โดยจากประสบการณ์บริหาร และนำห้องของลูกค้าที่ซื้อไปแล้วมาปล่อยเช่ารวมทุกโครงการกว่า 250 ห้องชุด โดยผลตอบแทนที่ลูกค้ากลุ่มนักลงทุนได้ หรือได้ Yield อยู่ประมาณ 4-5% ต่อปี โดยทุกโครงการที่เปิดขายมีสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนอยู่ที่ประมาณ 30%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์