CPN ทุ่มงบ 5 ปี 1.15 แสนล้านผุด 30 โปรเจ็กต์
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า บริษัทได้จับตาสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 อย่างใกล้ชิด และอยู่ระหว่างหามาตรการเพื่อเยียวยาคู่ค้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการลงทุนระยะยาวในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยจะใช้เม็ดเงินกว่า 1.15 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 2.2-2.4 หมื่นล้านบาทต่อปี ในการขยายกิจการ พัฒนาโครงการใหม่ ๆ รีโนเวตศูนย์การค้าเดิม ซึ่งจะสอดคล้องไปกับเติบโตของเศรษฐกิจ และจำนวนประชากรในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
โดยจะมีโปรเจ็กต์ใหม่เกิดขึ้นทั้งหมด มากกว่า 30 โปรเจ็กต์ คิดเป็นสัดส่วนโครงการรีเทล และมิกซ์ยูส 70% โครงการที่อยู่อาศัย 15% โรงแรม 7-8% และสำนักงานให้เช่าอีก 7-8%
สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวในปีหน้า ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และศรีราชา ส่วนปี 2564 ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซา จันทบุรี และภายในปี 2565 ได้แก่ โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มิกซ์ยูสขนาดใหญ่บริเวณหัวมุมถนนสีลม ที่มีทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ที่พักอาศัย และสำนักงานให้เช่า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีที่ดินอยู่อีกจำนวนมากที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของกลุ่มจี แลนด์ ในบริเวณพระราม 9 และพหลโยธิน ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส ส่วนที่ดินบริเวนดอนเมือง และถนนกำแพงเพชร มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย เป็นต้น
สำหรับโครงการในต่างประเทศ ขณะนี้ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในเวียดนาม 1 แห่ง และประเทศในอาเซียนอีก 1 แห่ง เพื่อต่อยอดการเติบโตของซีพีเอ็น หลังจากปีที่ผ่านมา ได้เปิดศูนย์แรกในต่างประเทศกับโครงการ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่กว่า 83% แล้ว คาดว่าภายในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 90%
ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2525 ซีพีเอ็น จะมีพื้นที่ค้าปลีกมากกว่า 2.6-2.7 ล้าน ตร.ม. และสามารถสร้างการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ได้ที่ 12% ต่อปี จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 38,104 ล้านบาท เติบโต 9% มีพื้นที่ค้าปลีกรวมกว่า 1.8 ล้าน ตร.ม. จาก 34 ศูนย์การค้า (ไทย 33 แห่ง มาเลเซีย 1 แห่ง) มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 93%
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจาก ซีพีเอ็นรายหนึ่งให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ในปีนี้จะมีพื้นที่เช่าบางส่วนซึ่งเป็นการเช่าระยะยาว (long-term lease) ของห้างอิเซตันที่กำลังจะหมดสัญญาลง และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาว่าจะต่อสัญญารูปแบบไหนอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
โดยหนึ่งในความต้องการของซีพีเอ็น ก็คือการขอพื้นที่คืน 50% จากพื้นที่ของอิเซตันทั้งหมด 2.7 หมื่น ตร.ม. เพื่อนำมาพัฒนาควบคู่ไปกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเซน ที่ปัจจุบันได้รีโนเวตปรับโฉมใหม่ และเปลี่ยนเป็น เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์