LALIN มั่นใจรายได้ปีนี้พุ่ง 13% ครึ่งปีหลังจ่อเปิด 4-6 โครงการ
นายเสรี สินธุอัสว์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงินและเลขานุการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 2563 ไว้ที่ 5,250 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,640.93 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,257.81 ล้านบาท จากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปี 2563 ขณะเดียวกัน ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมีสินค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขายและโอนกรรมสิทธิ์ (Inventory) รวมมูลค่า 10,441 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการรวม จำนวน 59 โครงการ แบ่งเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 41 โครงการ และโครงการในเขตต่างจังหวัด จำนวน 18 โครงการ ได้แก่ ในจังหวัดชลบุรี, จังหวัดระยอง, จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งแต่ละโครงการจะมีโครงการพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รองรับการขายในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 2563 ไว้ที่ 6,200 ล้านบาท และยังคงแผนเปิดตัวโครงการใหม่ไว้ที่ 9-11 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,000-5,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม) บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่แล้ว จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,500 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการ LIO Bliss–Rangsit-Bangpoon จำนวน 240 ยูนิต มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท
- โครงการ Lalin Town LIO Bliss–Bangna-Teparak จำนวน 466 ยูนิต มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท
- โครงการ Lalin Town Lanceo Crib–Bangna-Teparak จำนวน 243 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท
- โครงการ LIO Bliss–Rattanatibeth-Bangyai จำนวน 457 ยูนิต มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และ
- โครงการ LIO Bliss–Wongwan Pinklao Rama V จำนวน 283 ยูนิต มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีการบริหารจัดการฐานะทางการเงินอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ที่ระดับ 142 ล้านบาท มีวงเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงินที่สามารถเบิกใช้ได้ทันทีอีกว่า 2,700 ล้านบาท และมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.78 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่มี D/E อยู่ที่ระดับ 1.50 เท่า และบริษัทมีการรักษามีอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 38-39% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 19.7%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์