'เรียลแอสเสท'เบรก 2 โครงการพิษโควิด ชะลอแผนเข้าตลาด
นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายเป็นลำดับ แต่ผลกระทบกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น คาดว่าจะยังคงยืดเยื้อต่อไป แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกจากยอดขายและยอดเข้าชมโครงการที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค.และมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ในระยะยาวคงต้องลุ้นกันต่อกับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะกลับมาระบาดในระลอกที่ 2 หรือไม่หลังคลายล็อกดาวน์
"ในสภาวการณ์เช่นนี้จึงจำเป็นที่ต้องเลื่อนเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการ คือ โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ วีรัณยา จำนวน 150 ยูนิต รวมทั้ง 2 โครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮม แบรนด์ สตอรี่ส์ ย่านลำลูกกา คลอง5 ออกไปก่อน เพื่อให้เหมาะกับดีมานด์และกำลังซื้อในแต่ละทำเล ส่วนโครงการทาวน์โฮมบริเวณสุขาภิบาล 2 ภายใต้แบรนด์ เพล็กซ์ จำนวน 227 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท กำลังจะเปิดพรีเซล 11 มิ.ย.นี้ เพื่อรองรับกับความต้องการผู้ที่ต้องการบ้านแนวราบมากขึ้นหลังจากที่เกิดโควิด-19"
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "เดอะ สเตจ" มูลค่า 4,000 ล้านบาทในย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุนอสังหาฯระดับกลางจากเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการเปิดตัว คาดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 27 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.
ส่วนผลการดำเนินการปีนี้ ประเมินว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยจะปรับตัวลดลง 50% จากยอดขาย 4,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ชะลอแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างไม่มีกำหนดไปก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการระดมทุน
นายบดินทร์ธร ยังคาดว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯปีนี้ ตัวเลขยอดขายและยอดการเปิดตัวโครงการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี จากปกติที่ยอดการเปิดตัวเฉลี่ย ปีละ 8-9 หมื่นยูนิต แต่ในปีนี้คาดการณ์ว่า ลดลงเหลือแค่ 5 หมื่นยูนิต ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 คาดว่าต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว 2-3 ปีกว่าตลาดจะกลับมา ขณะเดียวกันรูปแบบการทำตลาดต้องปรับเปลี่ยนไปให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย อาทิ การให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัยในโครงการมากขึ้น นอกเหนือจากฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ต้องมีอยู่แล้ว
"แนวทางการทำตลาดในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร จำเป็นที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมกับการสร้างการจดจำแบรนด์ เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ในกลุ่มลูกค้าทั้งวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยผ่านช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสื่อสาร ไปยังคนใกล้ชิด ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และความคุ้นเคยมากขึ้น การทำงานในรูปแบบดังกล่าวช่วยทำให้ได้ไอเดียที่แปลกใหม่พร้อมกับการสร้างแบรนด์ไปด้วย"
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์