• 9 ก.ค. 2563

‘ซีมายโฮม’กับเส้นทางสู่ยูนิคอร์นอสังหาฯ

‘ZmyHome’ แพลตฟอร์มการซื้อขายเช่าที่อยู่อาศัยสัญชาติไทยที่ให้เจ้าของ ลงประกาศขายเองแทนนายหน้า เพื่อเป็นเรียลไทม์ดาต้าเบสในตลาดเรียลเอสเตทไทย ตามรอยโมเดล Zillow ยูนิคอร์นอสังหาฯในสหรัฐอเมริกา

ณัฐพล อัศว์วิเศษศิวะกุล ผู้ก่อตั้ง ซีมายโฮม กล่าวว่า หลังจากเรียนจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ได้ทำงานวิจัยในซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติ 7 ปี จนได้เป็น ผู้จัดการอาวุโสแผนกวิจัยตลาดและที่ปรึกษาพัฒนาโครงการ ทำงานวิจัยเพื่อช่วยนักพัฒนาอสังหาฯในการทำโครงการ อาทิ โครงการ The Met (เดอะ เมท), สุโขทัย เรสซิเด้นซ์, มหานคร

จากนั้นเกิด ‘วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์’ หรือ ‘วิกฤติซับไพรม์’ เลยตัดสินใจ “เออร์รี่ รีไทร์” ออกมาทำธุรกิจด้วยการเปิดบริษัทรับทำงานวิจัยและบริษัทนายหน้าไปพร้อม ๆ กัน ระหว่างนั้นเองมองเห็นเทรนด์ของแพลตฟอร์มออนไลน์ ว่าจะเข้ามามีบทบาทในอนาคต เพราะเขาเป็นคนที่ลงทุนอสังหาฯ มาตั้งแต่ทำงานอยู่ที่ซีบีอาร์อี จึงมั่นใจว่า ต่อไปคนจะต้องใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อขายอสังหาฯมากขึ้น

จึงเริ่มทำธุรกิจเพื่อสะสมเงินทุนรองรับแผนการทำธุรกิจออนไลน์ในอนาคต ช่วงนั้นลองทำเว็บไซต์เพื่อเรียนรู้ พร้อมกันนั้นก็ทำงานนายหน้าเพื่อเรียนรู้การซื้อขายเพิ่มขึ้น รอจังหวะเวลาที่ทำแพลตฟอร์มอสังหาฯ ซึ่งใช้เวลา 7 ปีในการเตรียมตัวนานมาก

“ผมมองว่า ที่ผ่านมาอาจจะเป็นเพราะผมเป็นนักวิเคราะห์ และขี้กลัวจนเกินไปเลยไม่กล้าลงมือทำ”

จนกระทั่งรู้จัก ดิสรัป ยูนิเวอร์ซิตี้ ของ คุณกระทิง “เรืองโรจน์ พูนผล” ในตอนนั้น พอเรียนจบก็รู้ว่ามีโครงการดีแทค แอคเซลเลอเรทก็เลยสมัคร ที่ถูกคัดเลือก จึงก้าวเข้าสู่วงการสตาร์ทอัพ จากนั้นลดลงการทำงานเดิมลง หยุดรับงานที่ปรึกษา งานเอเจนท์ มาโฟกัส แพลตฟอร์ม ‘ZmyHome’ เต็มตัวตั้งแต่ปี 2558

ความแตกต่างของซีมายโฮม คือเป็นเว็บไซต์ขาย เช่าที่อยู่อาศัยที่ให้เจ้าของเป็นคนประกาศขายด้วยตัวเอง เพราะต้องการเป็นเว็บที่สร้างความน่าเชื่อถือด้วยข้อมูลที่อัพเดต ถูกต้อง ครบถ้วน ที่เป็น “Clean property platform” แตกต่างจากเว็บอสังหาฯในตลาดที่นายหน้าจะเป็นผู้ประกาศขาย ผ่านนายหน้าเป็นสิบๆ ราย ทำให้มีบ้าน หรือคอนโดหลังเดิมๆ ลงประกาศขายซ้ำ ๆอยู่บนเว็บไซต์เป็นจุดตั้งต้น แทนที่ทำแบบเดิม

“เราทำให้เจ้าของขายที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเว็บที่ผู้ซื้อสามารถเข้ามาเช็คหาบ้านที่ถูกใจทั้งเรื่องของทำเลและราคา คือได้ค้นเจอดีลที่ดีที่สุดก่อนตัดสินใจ และการได้ซื้อตรงจากเจ้าของก็ไม่ต้องเสียเงินค่าคอมมิชชั่นให้นายหน้า”

ณัฐพล ตัดสินใจเทหน้าตักจากเงินสะสมส่วนตัวมาลงทุนหลักล้านบาทรวมทั้งเงินสมทบที่ได้จากโครงการดีแทค แอคเซลเลอเรท ใช้เวลา 1-2 ปีกว่าเริ่มมีรายได้กลับเข้ามา 4 ที่ผ่านมา ซึ่งแพลตฟอร์มมีการเติบโตทั้งในด้านผู้ใช้งานและรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยแพลตฟอร์มมีผู้เข้าใช้มากกว่า 1 ล้านครั้งต่อเดือน และมีรายได้เติบโตถึง 5 เท่าเทียบจากก่อนได้รับเงินลงทุน แต่ยังไม่คืนทุน เพราะต้องมีการลงทุนขยายธุรกิจต่อไปเรื่อย ๆ

“ที่ผ่านมาตัวช่วยสำคัญมาจากการระดมทุน ล่าสุดรอบนี้สามารถระดมทุนได้ 20 ล้านบาท จากนักลงทุนเกาหลี สิงคโปร์ และกองทุนในไทยด้วย เพื่อขยายตลาดในกรุงเทพฯ พัฒนาเครื่องมือให้แม่นยำขึ้น”


จากที่ก่อนหน้าการซื้อขายบ้านหลังหนึ่งต้องกินเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน-1 ปี แต่ที่ผ่านมาซีมายโฮมสามารถปิดการขายได้เร็วที่สุดในเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น และมีค่าเฉลี่ยระยะเวลาที่ใช้ในการขายได้ประมาณ 1-3 เดือน แต่ที่สำคัญ ซีมายโฮม ‘ไม่ใช่’ แพลตฟอร์มที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังมองหาบ้านหรือคอนโด ทั้งเพื่อเช่าหรือซื้อ ผู้ขายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเอง หรือแม้แต่ผู้ประกอบการสามารถได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ได้เช่นเดียวกัน

ณัฐพล ระบุว่า ปัจจุบันซีมายโฮมมีสัดส่วนรายได้จากรายย่อย 70% และนักพัฒนาอสังหาฯ 20% นายหน้า10% ซึ่งกำลังก้าวต่อไปอีกสเต็ปจากเงินลงทุนที่ได้รับจากการระดมทุนในรอบนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง Bon Angel Venture Partner, KK Fund ซึ่งเป็นนักลงทุนของซีมายโฮมในรอบที่แล้ว และ Angel Investor ของไทยด้วยเม็ดเงิน 20 ล้านบาท

ด้วยการเปิดให้นายหน้าที่เป็นตัวแทนอย่างถูกต้อง สามารถลงประกาศขาย เช่า บน ซีมายโฮม เพื่อเป็นตัวต่อให้ ‘จิ๊กซอว์’ให้ซีมายโฮมสมบูรณ์ จากการกระจายไปสู่นายหน้า ที่สามารถนำไปใช้งานทั่วไปประเทศ เหมือนกับแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา อย่าง Zillow สตาร์ทอัพด้านอสังหาฯที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งโมเดลธุรกิจเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน (marketplace)ของอสังหาริมทรัพย์ โดยหารายได้จากโฆษณา เจ้าของหรือนายหน้า (ที่มีใบอนุญาต) ซึ่งเป็นโมเดลที่ยั่งยืน

ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาธุรกิจตัวแทน ในนาม “อยู่เย็น” ซึ่งมีที่มาจาก “อยู่เย็นเป็นสุข” เพื่อให้ผู้ซื้อผู้เช่ามั่นใจได้ว่า จะได้ที่อยู่อาศัยคุ้มค่าที่สุด โดยจะนำร่องทำเลแยกพระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับนายหน้าในการใช้แพลตฟอร์ม ซีมายโฮม เพื่อให้เข้าถึงทรัพย์ทุกรายการในพื้นที่ และผู้ที่กำลังซื้อเช่าทุกคน โดย “อยู่เย็น” จะช่วยเป็นศูนย์กลางในการทำการตลาดแทนเจ้าของและตัวแทนทั้งหมด แทนที่แต่ละคนจะต้องลงทุนการตลาดเพื่อแข่งขันกันเอง

ณัฐพล กล่าวว่า โมเดลการทำธุรกิจของซีมายโฮม การเข้าไปแก้ปัญหาของวงการอสังหาฯไทย โดยมีเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางจากนั้นเพิ่มบริการอื่นๆเข้ามาในอนาคต โดยเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยที่แอคทีฟ 1 ล้านยูนิตจากปัจจุบันมีอยู่ 3 หมื่นยูนิต และมีคนเข้ามาดูในเว็บไซต์ 1.5 ล้านคนจากเดิม1ล้านคนต่อเดือน

"กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ผมมีแรงบันดาลใจที่แรงกล้าในการไม่ย่อท้อกับอุปสรรคที่เข้ามาเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของอิทธิบาท 4 ซึ่งประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา ที่ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก"


ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผู้เขียน : บุษกร ภู่แส

 
บทความอื่นๆ
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ