'คมนาคม'หนุนแลนด์บริดจ์ ดันผุด 2 ท่าเรือ ชุมพร-ระนอง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge) โดยระบุว่า ที่ประชุมได้เร่งรัดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เร่งกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกทำเลที่ตั้ง โครงการพัฒนาท่าเรือชุมพรและระนอง เพื่อเชื่อมการเดินทางฝั่งอันดามันและอ่าวไทย
โดยการคัดเลือกทำเลที่ตั้งโครงการพัฒนาท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ คาดว่าจะสามารถสรุปผลการคัดเลือกได้ในช่วงประมาณเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนที่กรมทางหลวง (ทล.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบเบื้องต้นแนวเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษ และทางรถไฟตามกรอบการดำเนินการ โครงการ MR-MAP เชื่อมต่อท่าเรือสองฝั่ง
สำหรับเป้าหมายของการเร่งรัดศึกษาทำเลก่อสร้างท่าเรือดังกล่าว เนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการแลนด์บริดจ์ ต้องคำนึงถึงภาพรวมในการขนส่งทางทะเลของโลก ซึ่งในปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกใช้เส้นทางผ่านช่องแคบมะละกาเป็นเส้นทางหลัก
โดยจากสถิติการขนส่งสินค้าประเภทน้ำมันดิบในปี 2559 พบว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตจากพื้นที่ตะวันออกกลาง ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมระหว่างอ่าวเปอร์เซียกับอ่าวโอมาน ประมาณ 19.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน และผ่านทางช่องแคบมะละกา ประมาณ 16.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อขนส่งไปยังประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลให้ท่าเรือสิงคโปร์กลายเป็นท่าเรือที่มีคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือน้ำมันใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์