• 16 เม.ย. 2564

จับตาทำเลสุดไพรม์ MRT ลุมพินี เดินสวนเขียวขจี ดูอภิมหาโปรเจ็คท์หมื่นล้าน

          ขื้นชื่อว่าเป็นทำเล Prime Location ที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และเป็นทำเลอุดมคติของใครหลาย ๆ คนไปแล้วกับ “ลุมพินี” ชื่อนี้คงคุ้นชินกับคนกรุง เป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องคุณภาพการอยู่อาศัย การเดินทาง การทำงาน อาหารการกิน ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิตใจกลางเมือง

           ทำเลนี้เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน “สถานีลุมพินี” ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 บริเวณทิศตะวันออกของสี่แยกวิทยุ จุดบรรจบของถนนวิทยุและถนนสาทรเหนือ-ใต้ เยื้องสวนลุมพินี สถานีนี้เปิดใช้งานเมื่อปี 2547 และด้วยที่ตั้งบริเวณหัวมุมถนนวิทยุ ศักยภาพของสถานีจะรองรับพนักงานออฟฟิศ พนักงานสถานทูตทื่ทำงานอยู่ต้นถนนสาทรและต้นถนนวิทยุได้ดีทีเดียว
 

           อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า สถานีลุมพินี เป็นทำเลในฝันในการพักอาศัยของหลาย ๆ คน ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังต่อไปนี้

           1. ด้านการเดินทาง – ทำเลนี้มีบริการสาธารณะหลากหลายทั้งทางถนนและทางรางอย่าง MRT สถานี “ลุมพินี” สามารถขึ้น MRT ไป 1 สถานีก็ถึง MRT สีลมเป็นสถานี Interchange กับ BTS ศาลาแดง เดินทางเข้าสู่ถนนสีลม สาทร หรือ สยามได้ง่ายมาก ๆ

           2. ด้านการทำงาน – รายล้อมไปด้วยออฟฟิศและสถานทูตหลายแห่งทั้งบนถนนสาทรและถนนวิทยุ รวมถึงจะมีโครงการ Mega Project ติด MRT ลุมพินี ที่จะกล่าวถัดไป

           3. ด้านอาหารการกินและสถานบันเทิง – มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย ทั้งไทย ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน และอาหารนานาชาติ ใกล้ Life Center เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ด้านสุขภาพ ในโครงการอาคารสำนักงาน Q House Lumpini

           4. ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม –  ใกล้กับที่ตั้งของโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น และยังมีสวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะขนาดกว่า 300 ไร่ เปิดให้บริการตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นทั้งพื้นที่สีเขียวและสถานที่สันทนาการของคนกรุง

           ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวถึงข้างต้น ทำให้พื้นที่นี้มีความต้องการพื้นที่พักอาศัยเป็นอย่างมาก ประกอบกับทำเลลุมพินีโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จะหาแปลงที่ดินรูปแบบ Freehold ได้ไม่มาก ส่งผลให้ราคาที่ดินต่อตารางวาของทำเลลุมพินีปรับตัวสูงขึ้นตลอดมา โดยปัจจุบันมีราคากว่า 1.8-2.5 ล้านบาทต่อตารางวาเข้าไปแล้ว
 

          และสิ่งที่ยิ่งทำให้ทำเลลุมพินีนี้ร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือ Mega Project อย่างโครงการ ONE BANGKOK ที่พัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด อัตราส่วนร่วมลงทุน 80.1% ต่อ 19.9% ด้วยงบลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาท พัฒนาบนที่ดิน Leasehold สิทธิการเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ระยะเวลา 60 ปี ขนาดกว่า 104 ไร่ที่เดิมเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหารและสวนลุมไนท์บาซาร์

          โครงการนี้เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2561 คาดว่าเฟสที่ 1 จะสร้างเสร็จปี 2566 ส่วนเฟส 2 คาดว่าสร้างเสร็จปี 2569 จุดเด่นของโครงการเป็น Smart City ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทลชั้นนำ โรงแรมระดับลักชัวรี่ ที่พักอาศัย และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อทั่วถึงกันทั้งโครงการ รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ 

          อีกหนึ่งโครงการ Mixed-Used ขนาดใหญ่บนที่ดินโรงแรมดุสิตธานี ตอนนี้มีการก่อสร้างโครงการดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค มิกซ์ยูสหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดถนนสีลม (แยกศาลาแดง) ตรงข้ามกับสวนลุมพินี ซึ่งเป็นโครงการที่กลุ่มโรงแรมดุสิตธานีร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา โดยโครงการนี้จะอยู่ใกล้ MRT สีลม มากกว่า MRT ลุมพินี รายละเอียดหากใครอยากทราบอดใจรอ เดี๋ยวเราไปคุยกันบทความถัดไปครับ

         ด้านที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม มีโครงการใหม่ ๆ อะไรน่าสนใจบ้างวันนี้เราทาง ZmyHome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 จะพาไปทำความรู้จักโครงการต่าง ๆ เช่นเคยครับ
 

         เริ่มต้นด้วยโครงการแรก “ศุภาลัย ไอคอน สาทร” เป็นโครงการของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดินของสถานทูตออสเตรเลียในปี 2560 ด้วยราคาที่ดิน 4.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 1.45 ล้านบาทต่อตารางวา และกลางปี 2562 ก็ได้เริ่ม Pre-Sale โครงการนี้พัฒนาขึ้นมาบนที่ดินขนาด 7-3-82 ไร่ ถือว่าเป็นแปลงใหญ่มากที่ติดกับถนนสาทร เป็นรูปแบบ Mixed-Use ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่พาณิชยกรรม อาคารสำนักงานอยู่ด้านหน้าโครงการและพื้นที่พักอาศัยสูง 56 ชั้น เริ่มต้น 1 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร ไปถึง Penthouse ขนาด 438 ตารางเมตร

 

         จุดเด่นของโครงการ ตั้งแต่เรื่องทำเล แม้ว่าจะอยู่ห่าง MRT ลุมพินี 800 เมตร แต่ขึ้นชื่อว่าอยู่ติดถนนสาทรใต้ก็ถือว่าทำเล Prime อยู่ดี แถมยังได้อยู่“ฝั่งเลขคี่” มีจุดเด่นที่รถติดน้อยกว่าฝั่งเลขคู่ตัวโครงการได้พื้นที่สีเขียวกว่า 3 ไร่ ทางด้าน Landscape ได้บริษัทชื่อดังอย่าง “Beaumont” มาสรรค์สร้างสวนสวยตามแนวคิด Rain Forest ในออสเตรเลีย ทั้งเรื่องพรรณไม้และ Sculpture ต่าง ๆ ทั้ง จิงโจ้ นกอีมูและสัตว์พื้นถิ่นของประเทศออสเตรเลีย มาตกแต่งสวน ตัวอาคารใช้กระจกแบบ Double Glazing คือ เป็นกระจก 2 ชั้นประกบกันโดยมีช่องอากาศอยู่ข้างใน ช่วยเรื่องกันความร้อนได้ดีกว่ากระจกปกติ มีการนำเอาระบบ Home Automation ของ Schneider มาใช้ ส่วนโถสุขภัณฑ์ได้จาก Kohler รุ่น Top อย่าง Smart Toilet รุ่น Veil ส่วนเรื่องส่วนกลางก็ถือว่าจัดเต็มเช่นกันนับได้เกือบ 20 อย่าง สระว่ายน้ำถูกจำลองให้เป็นเหมือนกับหาดทรายและทะเลของประเทศออสเตรเลีย มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอย่าง Hydrotherapy ที่ออกแบบให้สามารถใช้น้ำในการนวดบำบัดได้จริง เรียกได้ว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จก็จะเป็น Icon หนึ่งของสาทร และของศุภาลัยเลยครับ

         ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2567 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านบาทสำหรับห้อง 1 Bedroom 42 ตารางเมตร หรือเริ่มต้นประมาณ 200,000-220,000 บาท/ตารางเมตร
 

         ถัดมาเป็นโครงการที่อยู่ระหว่าง MRT ลุมพินี และ MRT คลองเตย ชื่อ เดอะ คราวน์ พระราม 4-สาทร เป็นโครงการจากบริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด ที่เคยพัฒนาโครงการ เดอะ เชดด์ สาทร 1 โครงการใหม่นี้ห่างจาก MRT ลุมพินี 450 เมตร และ MRT คลองเตย 400 เมตร รูปแบบเป็น High-Rise 32 ชั้น 183 ยูนิต บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ด้านรูปแบบห้องเริ่มต้นขนาดค่อนข้างเล็กที่ 26 ตารางเมตร ทำให้ราคาห้องพักเริ่มต้นอยู่ 6 ล้านบาท ห้องที่ใหญ่สุดเป็น Penthouse 119 ตารางเมตร ภายในห้องพักได้กระจกเข้ามุมบานใหญ่ทำให้ได้รับแสงและมุมมองขณะ Take View กว้างมากขึ้น
 
         จุดเด่นด้านตำแหน่งที่ตั้งคือ ติดถนนใหญ่พระราม 4 เหมือนกับโครงการเพื่อนบ้านอย่าง อมันตา ลุมพินี และ ลุมพินี พาร์ควิว อยู่ใกล้กับทางด่วนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านเก็บเงินพระราม 4 ตรงแยกบ่อนไก่ ห่างจากโครงการ ประมาณ 1.5 กม. โดยจะต้องกลับรถที่แยกวิทยุ โครงการมี facility เป็นสระว่ายน้ำ Sky Garden Fitness และ Sky Lounge ตั้งอยู่ชั้น 32 สามารถ take view ได้ 180 องศา มองเห็นพื้นที่สีเขียวที่โดดเด่น ทั้งสวนลุมพินี, สวนเบญจกิติ และ บางกระเจ้า

         ปัจจุบันโครงการยังไม่เปิด Pre-Sale คาดว่าจะเปิดในไตรมาส 3 ของปี 2564 นี้ โดยโครงการระบุว่าเริ่มต้นที่ 5.9- 6 ล้านบาท หรือประมาณ 200,000 ต้น ๆ ต่อตารางเมตรสำหรับห้อง 26-27 ตารางเมตรครับ ก็ต้องรอดูช่วงเปิดตัวครับว่าราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่
 

          ส่วนใครที่อยากอยู่ทำเลนี้ แต่ไม่อยากรอคอนโดติดริมถนนใหญ่สร้างเสร็จไปอีกหลายปี ลองเลี้ยวเข้ามาดูในซอยสาทร 1-งามดูพลี-ศรีบำเพ็ญ คุณจะพบกับคอนโด low-rise ทั้งเก่าและใหม่อยู่มากมายให้เลือก ซอยย่อยเหล่านี้ถูกใช้เป็นทางลัดไปถนนสาทร, ถนนพระรามที่ 4, ถนนพระรามที่ 3 ได้ไม่ยาก และมีร้านค้าร้านอาหารอยู่มากมายเพราะเป็นพื้นที่ย่านพักอาศัยดั้งเดิม ซึ่งวันนี้เราจะแนะนำก็คือโครงการ เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี ตั้งอยู่ห่าง MRT ลุมพินี ประมาณ 1.3 กม. รูปแบบอาคารเป็น Low-Rise 8 ชั้นในสไตล์ Urban City Life ให้ความเป็นส่วนตัวเพียง 78 ยูนิต บนพื้นที่ 236.2 ตารางวา มาพร้อมกับสระว่ายน้ำดาดฟ้า ฟิตเนส และ smart locker

          ด้านรูปแบบห้อง มีขนาดตั้งแต่ 25.1-44.3 ตร.ม. จัดอย่าง compact เหมาะกับคนทำงานยุคใหม่ ขายแบบ fully furnished พร้อม home automation ราคาหน้าโครงการปัจจุบันเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท หรือ 125,000 บาท/ตร.ม.เท่านั้น สามารถดูประกาศห้องโปรโมชั่นได้ที่นี่ครับ >> https://th.zmyhome.com/property/V155615

          คราวหน้าอยากให้ ZmyHome ไปแนะนำโครงการน่าอยู่ในทำเลไหน ส่งข้อความทักทายเข้ามาได้ทาง เฟสบุ๊ค ZmyHome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 นะครับ 


จากใจ
Zmyhome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ

ผู้เขียน : ปวีณ Zmyhome
ภาพประกอบ : L49
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ