• 1 ต.ค. 2564

ทุบทิ้ง 200 โรงหนังสแตนด์อโลน สู่บิ๊กโปรเจ็กต์-มิกซ์ยูสกลางกรุง

โรงหนังสแตนด์อโลนเกือบ 200 แห่งทั่วกรุงสูญพันธุ์ ทุบทิ้ง!พลิกโฉมขึ้นตึกสูงมิกซ์ยูส 3 แห่งยังเปิดฉาย บิ๊กทุนจ้องตาเป็นมัน 'พหลเธียเตอร์'บอกขาย 2,000 ล้าน 'งามวงศ์วานรามา'รอรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล หลัง'สกาลา สยามสแควร์'ที่ดินจุฬาโรงสุดท้ายปิดตำนานเป็นย่านช็อปปิ้งโลก  
 
“สกาลา” ราชาโรงภาพยนต์ของสำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ย่านสยามสแควร์ ถูกพลิกโฉมสู่ช็อปปิ้งสตรีทระดับโลก โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN ปิดฉากโรงหนังสแตนด์อโลนแห่งสุดท้ายกลางใจเมืองบนแยกปทุมวัน สะท้อนว่าความรุ่งเรืองของโรงหนังดังกล่าวจะเหลือเพียงซากความทรงจำ อาคารและที่ดินทำเลทองรอบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เปลี่ยนโฉมเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์มิกซ์ยูสทันสมัยตามความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเมืองเปลี่ยนแปลงมีรถไฟฟ้าผ่าน ที่ดินมีราคาสูง ผังเมืองเพิ่มความคุ้มค่าการใช้ประโยชน์ที่ดิน จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันโรงหนังในลักษณะดังกล่าวจะถูกทุบทิ้งกลายเป็นย่านพาณิชยกรรมสำคัญ

ย้อนไปในอดีต ก่อนห้างสรรพสินค้าจะมีอิทธิพล ดึงโรงหนังเข้าไปอยู่ในตัวอาคาร เฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร มีโรงหนังสแตนด์อโลนเกือบ 200 แห่ง ล้วนตั้งอยู่กลางย่านชุมชน ปัจจุบันเหลือเพียงตำนาน จากการสำรวจของ“ฐานเศรษฐกิจ”พบว่า ในจำนวนนี้ยังเปิดกิจการ 3 แห่ง ทำเลสะพานควาย, กลางใจเยาวราช และชินเขต งามวงศ์วาน บางแห่งปิดการให้บริการลงแล้วแต่ไม่ต้องการขายที่ดิน แม้นายทุนจะทาบอย่างต่อเนื่องก็ตาม

สอบถามผู้ดูแลโรงหนังพหลเธียเตอร์ ติดสถานี BTS สะพานควาย ตรงข้ามมงคลรามาเดิม ที่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ซื้อไปก่อนหน้า โดยระบุว่า เจ้าของบอกขายในราคากว่า 2,000 ล้านบาท ที่ดินพร้อมอาคาร 5 ไร่ ที่ผ่านมามีบริษัทพัฒนาที่ดินทุกแบรนด์ชั้นนำติดต่อขอซื้อ แต่ติดตึกแถวซึ่งเป็นที่ดินคนละเจ้าของล้อมอยู่ ทำให้ต้องเจรจาซื้อตึกแถวอาคารพาณิชย์บริเวณด้านหน้า เจาะทะลุเพื่อทำทางเช้าออก แต่มองว่าเป็นเรื่องยากเพราะเจ้าของอาคารไม่ต้องการขาย เช่นเดียวกับโรงหนังงามวงศ์วานรามา บริเวณหน้าปากซอยชินเขต ที่หากมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลพาดผ่าน อาจขายขึ้นตึกสูงหรือไม่เจ้าของที่ดินอาจพัฒนาเอง

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า การพัฒนาที่ดินเปลี่ยนไปตามความนิยม ดังนั้นโรงหนังสแตนด์อโลนจึงเป็นเป้าที่นักลงทุนให้ความสนใจเพราะ 1.ตั้งอยู่กลางชุมชนขนาดใหญ่ 2.ทำเลติดรถไฟฟ้า-ถนนสายหลัก 3.อาคารเตี้ย 1-2 ชั้น ง่ายต่อการรื้อถอนใช้ต้นทุนน้อย 4.มีเนื้อที่พอเหมาะพัฒนาโครงการ 5.ผังเมืองปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ขึ้นตึกสูงเพิ่มความหนาแน่น ที่สำคัญคนไม่สนใจใช้บริการ เพราะดูหนังผ่านสมาร์ทโฟน ไม่มีที่จอดรถ อีกทั้งยังเป็นแหล่งมั่วสุมที่เจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอดส่องตรวจตราทำให้อยู่ยาก และถูกบีบจากนายทุนไล่ซื้อ


ขณะการพัฒนาเมือง กทม.ต้องการเน้นใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความคุ้มค่า โดยเฉพาะรอบสถานีรถไฟฟ้าต้องเกิดความหนาแน่นสูง เพื่อให้สอดคล้องราคาที่ดินที่ปัจจุบันย่านใจกลางเมืองราคาไปที่กว่า 3 ล้านบาทต่อตารางวา และไม่มีทำเลไหนที่รถไฟฟ้าผ่านจะต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวา ดังนั้นจึงเห็นตึกสูงสไตล์การพัฒนาแบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูสเต็มเมือง

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างทำเลแยกปทุมวัน สยามสแควร์ สร้างสร้างตึกสูงอย่างไร้ข้อจำกัด เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจศูนย์กลางเมือง ผังเมืองกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สร้างได้ 10 เท่าของแปลงที่ดิน ไม่มีข้อบัญญัติควบคุมอาคารของกทม.ควบคุมจำกัดความสูง เช่นเดียวกับสะพานควาย ผังเมืองฉบับปัจจุบันกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง บางบริเวณสร้างตึกขนาดใหญ่พิเศษได้ เช่นเดียวกับย่านชินเขต งามวงศ์วาน หากรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลก่อสร้าง ตัวสถานีจะอยู่บริเวณโรงหนังงามวงศ์วานรามา ที่นี่จะเป็นอีกทำเลที่น่าจับตา เพราะที่ดินแปลงค่อนข้างใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 10 ไร่
 
อีกทำเลที่โรงหนังสแตนด์อโลนหายไปคือ ย่านพระโขนง 6 โรงหนังดังในอดีตที่เคยรุ่งเรือง โดยเฉพาะพระโขนงเธียเตอร์ สามแยกพระโขนง และโรงหนังเอเซียรามา อยู่ด้านในซอยสุขุมวิท 71 ปัจจุบันกลายเป็นเมืองขนาดย่อมของชาวญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่ขยายตัวออกมาจาก มินิโตเกียว ย่านทองหล่อ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ภาพประกอบ : โรงหนังมงคลรามา สะพานควาย (ปัจจุบันถูกรื้อถอนไปแล้ว)
บทความอื่นๆ
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ