เลี้ยงลูกในคอนโด ให้เติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัย
ในยุคที่หนุ่มสาวรุ่นใหม่เริ่มต้นมีครอบครัว หมุดหมายต่อไปหลังจากแต่งงานก็มักจะมีโซ่ทองคล้องใจ เป็นลูกชายลูกสาวมาให้ได้วัดฝีมือและความอดทนของคนเป็นพ่อเป็นแม่นะครับ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ยังติดพัน ทำให้ยังไม่สามารถย้ายออกจากคอนโดที่พักอาศัยอยู่ ไปหาบ้านที่มีพื้นที่มากขึ้นได้ในตอนนี้ แล้วเราจะสามารถเลี้ยงลูกเล็กให้อยู่ดีมีสุข ในห้องชุดพื้นที่จำกัดได้อย่างไร? วันนี้ ZmyHome มีข้อแนะนำดี ๆ มาฝากครับ
ลดปัญหาเสียงเด็กร้อง
ปัญหาที่พ่อแม่ทุกคนต้องเจอก็คือ ลูกน้อยร้องไห้จ้าไม่เป็นเวล่ำเวลา แถมดังลั่นห้อง ก้องรอบทิศไปถึงเพื่อนข้างห้อง ผู้อาศัยในชั้นเดียวกันและชั้นติดกัน จนกลายเป็นข้อพิพาทบาดหมางกันไปหมด ดังนั้นเราไม่แนะนำให้เลี้ยงเด็กอ่อนในอาคารชุดนะครับ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรเพิ่มวัสดุกันเสียง ดูดซับเสียงเข้าไปในห้องให้เต็มที่ และเตรียมคำขออภัยดี ๆ ไว้สำหรับเพื่อนบ้านด้วยครับ
ป้องกันอันตรายร้อยแปด
เมื่อเด็กโตขึ้นถึงวัยที่เริ่มเคลื่อนที่ไปมาเองได้ ก็อาจได้รับอันตรายจากการชน กระแทก ตก และอื่น ๆ ได้มากมาย อาจจะต้องทำที่กั้นที่ปลอดภัยให้กับลูกน้อย จุดอันตรายที่พ่อแม่ควรป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็อยางเช่น มุมโต๊ะ ตู้ ลิ้นชัก ชุดครัว รูปลั๊กไฟ เป็นต้น หมั่นตรวจเช็คประตูหน้าต่าง ปิดช่องบริเวณราวระเบียงไม่ให้ปีนหรือลอดได้ และอย่าลืมเก็บข้าวของมีคมและวัตถุไวไฟใส่ลิ้นชักล็อคให้เรียบร้อยเสมอครับ
จำกัดพื้นที่อย่างสร้างสรรค์
การจำกัดพื้นที่เคลื่อนไหวของเด็กอาจช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ แต่เพื่อพัฒนาการที่ดี เราก็ควรจัดอุปกรณ์ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไว้ให้ลูกด้วย เช่น ดินปั้น กระดาษและสี ของเล่นมีเสียง เพื่อให้ลูกเกิดความรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินได้โดยไม่รบกวนผู้ใหญ่
ใช้พื้นที่ส่วนกลางให้เป็นประโยชน์
เด็กเมื่ออยู่แต่ในห้อง ก็อาจรู้สึกอึดอัดอุดอู้และเบื่อหน่ายได้ ควรหาเวลาพาลูกออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สูดอากาศบริสุทธิ์นอกห้องบ้าง ตามพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เช่น สนามหญ้า สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ที่สำคัญพ่อแม่ต้องคอยดูแลใกล้ชิดเวลาเด็กเล่นเพื่อความปลอดภัย
พาไปสำรวจนอกพื้นที่
พ่อแม่ควรฝึกลูกให้รู้จักสภาพชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ โดยหาเวลาพาเด็กไปสำรวจและเรียนรู้โลกกว้างโดยรอบคอนโดด้วยกันบ้าง เช่น ตลาด ร้านค้า วัด โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมเด็กไปสู่สังคม และเรียนรู้การสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นที่อยู่รอบตัว เช่น ทักทายพี่ ๆ รปภ. แม่บ้าน แม่บ้าน หรือแม้แต่เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ
ฝึกลูกให้ช่วยเหลือตนเองตามวัย
เช่น แต่งตัว อาบน้ำ เก็บที่นอน รับประทานอาหาร รวมถึงการฝึกการป้องกันเชื้อโรคติดต่อยามออกนอกห้อง ได้แก่ การล้างมือ การใส่หน้ากาก เมื่อเด็กโตขึ้นก็สามารถฝึกให้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านง่าย ๆ เช่น กวาดบ้าน เช็ดโต๊ะ เป็นต้น
สุดท้ายไม่ว่าเด็กจะถูกเลี้ยงดูอยู่ในสถานที่ใด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรักและความเอาใจใส่ของคนเป็นพ่อแม่ ที่จะทำให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง เติบโตสมวัย มีอารมณ์แจ่มใส เกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่ได้ครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : จเร ZmyHome
ภาพประกอบ : nastya_gepp on Pixabay
ลดปัญหาเสียงเด็กร้อง
ปัญหาที่พ่อแม่ทุกคนต้องเจอก็คือ ลูกน้อยร้องไห้จ้าไม่เป็นเวล่ำเวลา แถมดังลั่นห้อง ก้องรอบทิศไปถึงเพื่อนข้างห้อง ผู้อาศัยในชั้นเดียวกันและชั้นติดกัน จนกลายเป็นข้อพิพาทบาดหมางกันไปหมด ดังนั้นเราไม่แนะนำให้เลี้ยงเด็กอ่อนในอาคารชุดนะครับ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรเพิ่มวัสดุกันเสียง ดูดซับเสียงเข้าไปในห้องให้เต็มที่ และเตรียมคำขออภัยดี ๆ ไว้สำหรับเพื่อนบ้านด้วยครับ
ป้องกันอันตรายร้อยแปด
เมื่อเด็กโตขึ้นถึงวัยที่เริ่มเคลื่อนที่ไปมาเองได้ ก็อาจได้รับอันตรายจากการชน กระแทก ตก และอื่น ๆ ได้มากมาย อาจจะต้องทำที่กั้นที่ปลอดภัยให้กับลูกน้อย จุดอันตรายที่พ่อแม่ควรป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็อยางเช่น มุมโต๊ะ ตู้ ลิ้นชัก ชุดครัว รูปลั๊กไฟ เป็นต้น หมั่นตรวจเช็คประตูหน้าต่าง ปิดช่องบริเวณราวระเบียงไม่ให้ปีนหรือลอดได้ และอย่าลืมเก็บข้าวของมีคมและวัตถุไวไฟใส่ลิ้นชักล็อคให้เรียบร้อยเสมอครับ
จำกัดพื้นที่อย่างสร้างสรรค์
การจำกัดพื้นที่เคลื่อนไหวของเด็กอาจช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ แต่เพื่อพัฒนาการที่ดี เราก็ควรจัดอุปกรณ์ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไว้ให้ลูกด้วย เช่น ดินปั้น กระดาษและสี ของเล่นมีเสียง เพื่อให้ลูกเกิดความรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินได้โดยไม่รบกวนผู้ใหญ่
ใช้พื้นที่ส่วนกลางให้เป็นประโยชน์
เด็กเมื่ออยู่แต่ในห้อง ก็อาจรู้สึกอึดอัดอุดอู้และเบื่อหน่ายได้ ควรหาเวลาพาลูกออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สูดอากาศบริสุทธิ์นอกห้องบ้าง ตามพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เช่น สนามหญ้า สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ที่สำคัญพ่อแม่ต้องคอยดูแลใกล้ชิดเวลาเด็กเล่นเพื่อความปลอดภัย
พาไปสำรวจนอกพื้นที่
พ่อแม่ควรฝึกลูกให้รู้จักสภาพชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ โดยหาเวลาพาเด็กไปสำรวจและเรียนรู้โลกกว้างโดยรอบคอนโดด้วยกันบ้าง เช่น ตลาด ร้านค้า วัด โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมเด็กไปสู่สังคม และเรียนรู้การสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นที่อยู่รอบตัว เช่น ทักทายพี่ ๆ รปภ. แม่บ้าน แม่บ้าน หรือแม้แต่เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ
ฝึกลูกให้ช่วยเหลือตนเองตามวัย
เช่น แต่งตัว อาบน้ำ เก็บที่นอน รับประทานอาหาร รวมถึงการฝึกการป้องกันเชื้อโรคติดต่อยามออกนอกห้อง ได้แก่ การล้างมือ การใส่หน้ากาก เมื่อเด็กโตขึ้นก็สามารถฝึกให้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านง่าย ๆ เช่น กวาดบ้าน เช็ดโต๊ะ เป็นต้น
สุดท้ายไม่ว่าเด็กจะถูกเลี้ยงดูอยู่ในสถานที่ใด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรักและความเอาใจใส่ของคนเป็นพ่อแม่ ที่จะทำให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง เติบโตสมวัย มีอารมณ์แจ่มใส เกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่ได้ครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : จเร ZmyHome
ภาพประกอบ : nastya_gepp on Pixabay