ต้นทุนสร้างบ้านพุ่ง แนะผู้ประกอบการเจาะกลุ่มมีกำลังซื้อ
“แม้จะมีหลายสิ่งที่เป็นอุปสรรคภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่แต่ก็ยังพบว่ายังคงมีความต้องการสร้างบ้าน ในกลุ่มกำลังซื้อปานกลางและรายได้สูง ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ และวางแผนสร้างบ้านอยู่แล้ว”
เมื่อพิจารณาถึงตัวเลขการรับงานบริษัทสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ พบว่า ความต้องการสร้างบ้านไม่ได้ลดลง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ตัวเลขรับงานจะอยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท โดยลูกค้าที่มีความพร้อมยังเดินหน้าปลูกสร้างบ้าน เพราะหากดำเนินการล่าช้าออกไปจะทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นจากต้นทุนต่างๆ ที่ปรับตัว ทำให้ในภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะยังไปได้ดี และเติบโตมากกว่าปี 2564
"ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะตลาดกลางและบ้านหรู แต่จากต้นทุนที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาต้นทุนของการก่อสร้างบ้านในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นเทียบกับครึ่งปีแรกประมาณ 3% แต่ในยุคที่ต้นทุนการก่อสร้างบ้านสูงเป็นจังหวะที่ดีของการปลูกสร้างบ้าน เพราะครึ่งปีหลังบริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เร่งทำการตลาด จัดโปรโมชั่นแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายจึงเป็นโอกาสของผู้ซื้อจะได้บ้านในราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับต้นทุนจริงที่สูงขึ้น"
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ตลาดรับสร้างบ้านเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบโปรโมชั่นที่คุ้มค่าให้ผู้บริโภค รวมถึงตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ตลาดเติบโตสูง หลายบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถทำยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกได้ถึงเป้าหมายของทั้งปี ซึ่งปัจจัยความสำเร็จมาจากการที่ผู้สร้างบ้านในปัจจุบันต้องการสร้างบ้านกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน สร้างบ้านแล้วต้องได้บ้าน ไม่ถูกทิ้งงาน
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ