กู้ซื้อบ้านทำไมต้องทำประกัน?
โดย เกศรา
นั่นสิ ทำไมต้องทำประกันด้วยคะคุณขา นี่ทุกวันนี้ก็มีเซลโทรมาขาย เข้าธนาคารก็ขาย มีหลายกรมธรรม์อยู่แล้ว จะกู้บ้านต้องทำประกันอีกหรือคะ ใช้ที่มีอยู่แล้วนี่ได้มั้ยคะ?……… แหม สวัสดีปีใหม่ 2559 ค่ะทุกท่าน เวลาผู้กู้คับข้องใจมาอย่างนี้ก็ลำบากใจเหมือนกันนะคะ แต่วันนี้ฤกษ์ดีปีใหม่จะพยายามมาไขข้อข้องใจให้ผู้กู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยกับธนาคารให้เข้าใจกันที่ละเปลาะดีกว่าค่ะ ประกันในโลกเรานี่แบ่งกันง่ายๆ 2 ประเภทเลยนะคะ นั่นก็คือ
ประกันภัยกับประกันชีวิต คิดประเภทอื่นกันออกมั้ยคะ ถ้าคิดออกเราจะจัดไว้ในประกันประเภทอื่นๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นไม่ประกันภัยกับประกันชีวิตนี่ล่ะค่ะทุกท่าน ยกตัวอย่างประกันภัยที่เราคุ้นเคยก็คือ ประกันรถยนต์ที่เราจ่ายกันทุกๆปี ประกันอัคคีภัย (พระเอกของการกู้ซื้อบ้าน) ส่วนประกันชีวิตก็คือประกันออมเงิน ประกันเพื่อรักษาพยาบาลที่เราถูกขายกันบ่อยๆทางโทรศัพท์หรือโฆษณาทีวี กล่าวสั้นๆประกันก็คือการจ่ายเงินไปเพื่อลดความเสี่ยงในชีวิต (ประกันชีวิต) และ ทรัพย์สิน (ประกันภัย) เพื่อให้เราจ่ายน้อยลงในกรณีเราเสียชีวิตหรือทรัพย์สินได้รับความเสียหายนั่นเอง
ตอบคำถามว่าทำไมกู้ซื้อบ้านต้องทำประกัน เนื่องจากสินเชื่อบ้านเป็นหนี้ก้อนใหญ่และระยะเวลาผ่อนเงินงวดหลายสิบปีเพื่อให้ผู้กู้ลดความเสี่ยงให้จ่ายน้อยลงในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นจึงต้องมีการทำประกันค่ะ เรื่องไม่คาดฝันที่ธนาคารผู้เป็นเจ้าหนี้ให้ความสำคัญก็คือ
ไฟไหม้บ้านและผู้กู้เสียชีวิตค่ะ ประกันอัคคีภัย ธนาคารบังคับให้ผู้กู้ที่กู้ซื้อบ้านหรือใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันทำประกันอัคคีภัยทุกรายน่าจะมาจากบทเรียนที่ว่า “โจรปล้นร้อยครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” ซึ่งก็จริงเพราะโจรไม่ได้ปล้นเอาหลังคา ฝ้า ผนังบ้านไปด้วย ประกันอัคคีภัยจึงคุ้มครองเฉพาะตัวบ้านหรืออาคารไม่รวมที่ดิน ธนาคารแต่ละธนาคารจะมีบริษัทประกันที่ทำข้อตกลงกันไว้แล้วซึ่งผู้กู้สามารถเลือกจำนวนปีที่จะให้คุ้มครองได้ค่ะ (ขั้นต่ำ 3 ปี เผื่อ refinance)
ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ ธนาคารจะขอร้องให้ทำ กรณีลดความเสี่ยงเมื่อผู้กู้เสียชีวิต จากคำถามว่ามีประกันชีวิตอยู่แล้วใช้กรมธรรม์ที่มีอยู่ได้มั้ย? คำตอบคือ ใช้ได้ยากค่ะ เพราะผู้ร้บผลประโยชน์โดยตรงไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นเจ้าหนี้สินเชื่อบ้าน การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะช่วยลดความเสี่ยงการให้สามี/ภรรยา หรือบุตรรับมรดกหนี้บ้านเมื่อผู้กู้เสียชีวิตและไม่สามารถหาเงินมาโปะหนี้ได้หมด
ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับเพศ อายุ วงเงินคุ้มครองและระยะเวลาคุ้มครองค่ะ (เพศหญิง อายุน้อยเบี้ยจะถูก) สามารถผ่อนเบี้ยประกันนี้กับธนาคารได้ จ่ายสดได้ ดังนั้นหากทำประกันประเภทนี้ความเสี่ยงจะลด ทำให้กู้เพิ่มได้ จาก 90% เป็น 95% จาก 95% เป็น 100% อีกทั้งดอกเบี้ยก็ลดลงด้วยค่ะ
สรุปคือ การกู้ซื้อบ้านมีประกัน 2 อย่างที่ต้องรู้จักคือ ประกันไฟไหม้ จ่ายครั้งเดียว จำนวนปีคุ้มครองแล้วแต่ตกลง วงเงินคุ้มครองเท่ากับราคาประเมินบ้าน กับ ประกันผู้กู้เสียชีวิต ผ่อนจ่ายได้ จำนวนวงเงินกับปีที่คุ้มครองแล้วแต่ตกลง ทำแล้วความเสี่ยงลด สบายใจทั้งสองฝ่าย ไฟไหม้บ้านบังคับ ประกันชีวิตไม่บังคับค่ะ แต่มีสิทธิ์กู้เพิ่มกับดอกเบี้ยพิเศษ รู้จักประกันเมื่อต้องกู้ซื้อบ้านแล้วก็เอาไปพิจารณากันนะคะ อยากให้ทุกท่านซื้อบ้านแบบคุ้มค่าไม่รู้สึกโดนหลอกค่ะ
นั่นสิ ทำไมต้องทำประกันด้วยคะคุณขา นี่ทุกวันนี้ก็มีเซลโทรมาขาย เข้าธนาคารก็ขาย มีหลายกรมธรรม์อยู่แล้ว จะกู้บ้านต้องทำประกันอีกหรือคะ ใช้ที่มีอยู่แล้วนี่ได้มั้ยคะ?……… แหม สวัสดีปีใหม่ 2559 ค่ะทุกท่าน เวลาผู้กู้คับข้องใจมาอย่างนี้ก็ลำบากใจเหมือนกันนะคะ แต่วันนี้ฤกษ์ดีปีใหม่จะพยายามมาไขข้อข้องใจให้ผู้กู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยกับธนาคารให้เข้าใจกันที่ละเปลาะดีกว่าค่ะ ประกันในโลกเรานี่แบ่งกันง่ายๆ 2 ประเภทเลยนะคะ นั่นก็คือ
ประกันภัยกับประกันชีวิต คิดประเภทอื่นกันออกมั้ยคะ ถ้าคิดออกเราจะจัดไว้ในประกันประเภทอื่นๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นไม่ประกันภัยกับประกันชีวิตนี่ล่ะค่ะทุกท่าน ยกตัวอย่างประกันภัยที่เราคุ้นเคยก็คือ ประกันรถยนต์ที่เราจ่ายกันทุกๆปี ประกันอัคคีภัย (พระเอกของการกู้ซื้อบ้าน) ส่วนประกันชีวิตก็คือประกันออมเงิน ประกันเพื่อรักษาพยาบาลที่เราถูกขายกันบ่อยๆทางโทรศัพท์หรือโฆษณาทีวี กล่าวสั้นๆประกันก็คือการจ่ายเงินไปเพื่อลดความเสี่ยงในชีวิต (ประกันชีวิต) และ ทรัพย์สิน (ประกันภัย) เพื่อให้เราจ่ายน้อยลงในกรณีเราเสียชีวิตหรือทรัพย์สินได้รับความเสียหายนั่นเอง
ตอบคำถามว่าทำไมกู้ซื้อบ้านต้องทำประกัน เนื่องจากสินเชื่อบ้านเป็นหนี้ก้อนใหญ่และระยะเวลาผ่อนเงินงวดหลายสิบปีเพื่อให้ผู้กู้ลดความเสี่ยงให้จ่ายน้อยลงในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นจึงต้องมีการทำประกันค่ะ เรื่องไม่คาดฝันที่ธนาคารผู้เป็นเจ้าหนี้ให้ความสำคัญก็คือ
ไฟไหม้บ้านและผู้กู้เสียชีวิตค่ะ ประกันอัคคีภัย ธนาคารบังคับให้ผู้กู้ที่กู้ซื้อบ้านหรือใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันทำประกันอัคคีภัยทุกรายน่าจะมาจากบทเรียนที่ว่า “โจรปล้นร้อยครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” ซึ่งก็จริงเพราะโจรไม่ได้ปล้นเอาหลังคา ฝ้า ผนังบ้านไปด้วย ประกันอัคคีภัยจึงคุ้มครองเฉพาะตัวบ้านหรืออาคารไม่รวมที่ดิน ธนาคารแต่ละธนาคารจะมีบริษัทประกันที่ทำข้อตกลงกันไว้แล้วซึ่งผู้กู้สามารถเลือกจำนวนปีที่จะให้คุ้มครองได้ค่ะ (ขั้นต่ำ 3 ปี เผื่อ refinance)
ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ ธนาคารจะขอร้องให้ทำ กรณีลดความเสี่ยงเมื่อผู้กู้เสียชีวิต จากคำถามว่ามีประกันชีวิตอยู่แล้วใช้กรมธรรม์ที่มีอยู่ได้มั้ย? คำตอบคือ ใช้ได้ยากค่ะ เพราะผู้ร้บผลประโยชน์โดยตรงไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นเจ้าหนี้สินเชื่อบ้าน การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะช่วยลดความเสี่ยงการให้สามี/ภรรยา หรือบุตรรับมรดกหนี้บ้านเมื่อผู้กู้เสียชีวิตและไม่สามารถหาเงินมาโปะหนี้ได้หมด
ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับเพศ อายุ วงเงินคุ้มครองและระยะเวลาคุ้มครองค่ะ (เพศหญิง อายุน้อยเบี้ยจะถูก) สามารถผ่อนเบี้ยประกันนี้กับธนาคารได้ จ่ายสดได้ ดังนั้นหากทำประกันประเภทนี้ความเสี่ยงจะลด ทำให้กู้เพิ่มได้ จาก 90% เป็น 95% จาก 95% เป็น 100% อีกทั้งดอกเบี้ยก็ลดลงด้วยค่ะ
สรุปคือ การกู้ซื้อบ้านมีประกัน 2 อย่างที่ต้องรู้จักคือ ประกันไฟไหม้ จ่ายครั้งเดียว จำนวนปีคุ้มครองแล้วแต่ตกลง วงเงินคุ้มครองเท่ากับราคาประเมินบ้าน กับ ประกันผู้กู้เสียชีวิต ผ่อนจ่ายได้ จำนวนวงเงินกับปีที่คุ้มครองแล้วแต่ตกลง ทำแล้วความเสี่ยงลด สบายใจทั้งสองฝ่าย ไฟไหม้บ้านบังคับ ประกันชีวิตไม่บังคับค่ะ แต่มีสิทธิ์กู้เพิ่มกับดอกเบี้ยพิเศษ รู้จักประกันเมื่อต้องกู้ซื้อบ้านแล้วก็เอาไปพิจารณากันนะคะ อยากให้ทุกท่านซื้อบ้านแบบคุ้มค่าไม่รู้สึกโดนหลอกค่ะ
