แอบดูซัพพลายเออร์ญี่ปุ่น
จากการที่ได้ให้บริการจัดหาที่พักให้กับผู้เช่าชาวญี่ปุ่น และให้ความช่วยเหลือผู้เช่าในด้านต่างๆเมื่อได้ย้ายเข้าที่พักไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทีมงานตุ๊กตาต้องทำคือ การติดต่อและประสานงานกับบริษัทที่ให้บริการด้านต่างๆ หรือ Supplier เช่น อินเตอร์เน็ต เคเบิลทีวีญี่ปุ่น เครื่องกรองน้ำ บริการน้ำดื่ม ฝาสุขภัณฑ์อัตโนมัติ และบริษัทขนย้าย เป็นต้น
ทำให้ได้เห็นมาตรฐานดีๆ ของผู้ให้บริการญี่ปุ่น ที่ดีกว่าซัพพลายเออร์ไทย เลยอยากจะมาแชร์วันนี้เพื่อที่พวกเราจะได้ช่วยกันยกระดับมาตรฐานการทำงานของเรานะคะ อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งที่ supplier ญี่ปุ่นสามารถให้บริการลูกค้าดูจะดีกว่า Supplier ไทย อาจเป็นเพราะจำนวนผู้ใช้บริการที่น้อยกว่า และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จำกัดนะคะ
1. รับเรื่องร้องเรียนและนัดหมายได้รวดเร็ว การนัดหมายเพื่อติดตั้งหรือแจ้งเรื่องซ่อมกับ Supplier ญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถนัดวันให้บริการได้ทันที แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ซีเรียสมากก็ตาม ต่างกับผู้ให้บริการของไทยทีต้องโอนไปให้หลายหน่วยกว่าจะถึงหน่วยที่รับผิดขอบ รวมทั้งการนัดวันทำได้ค่อนข้างช้า
2. ตรงต่อเวลาเสมอ Supplier ของญี่ปุ่นจะตรงต่อเวลาทุกครั้ง และไม่เคยไม่มา หากจำเป็นต้องมาสายก็จะติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งสาเหตุ เช่น หาสถานที่ตั้งไม่เจอ หรือติดปัญหากับคิวก่อนหน้านี้อยู่ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความพึงพอใจของลูกค้า เพราะลูกค้าญี่ปุ่นก็จะตรงต่อเวลาด้วยเช่นกัน
3. การคิดค่าบริการอย่างเป็นธรรม การให้บริการของ Supplier ญี่ปุ่น เช่น เคเบิล TV ถ้าไม่สามารถรับชมได้หลายวัน และสาเหตุมาจากระบบของทาง Supplier ลูกค้าจะไม่ถูกคิดค่าบริการตามจำนวนวันที่ลูกค้าไม่ได้รับบริการแม้ว่าจะเป็นการจ่ายแบบเป็นรายเดือนก็ตาม
4. บริการเปลี่ยนอุปกรณ์นอกสถานที่ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องมีการติดตั้ง ดังนั้น Supplier ญี่ปุ่นจะเข้ามาเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ถึงอพาร์ตเมนท์ของลูกค้าเมื่อเกิดปัญหา เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อบกพร่องและทดสอบอุปกรณ์ที่ติดตั้งใหม่ได้
5. ยกเลิกการใช้บริการทางโทรศัพท์ได้ Supplier ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ให้โทรแจ้งยกเลิกการใช้บริการต่างได้ โดยการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและจะคิดค่าใช้บริการตามจริง นอกจากนี้บริการบางประเภทหากมีการจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นรายปี ลูกค้าก็จะได้รับเงินคืน ตามเดือนที่ไม่ได้ใช้บริการ เช่น ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีญี่ปุ่น ซึ่งกรณีการยกเลิกก่อนหมดสัญญาสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ไม่ได้เป็นเจตนาของผู้เช่า เช่น บริษัท ให้ย้ายไปทำงานประเทศอื่น หรือกลับประเทศด่วน เป็นต้น
เป็นไงบ้างคะ ฟังดูน่าใช้บริการหรือเปล่า แต่แน่นอนค่าบริการของผู้ให้บริการญี่ปุ่น จะสูงกว่าของไทย ทำให้สามารถให้บริการอย่างมีคุณภาพได้ นอกจากนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะซื่อสัตย์ และเป็นลูกค้าที่ดีด้วยเช่นกัน ทำให้การรับและการให้บริการเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะฉะนั้นช่วยกันเป็นทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ดีกันนะคะ
ทำให้ได้เห็นมาตรฐานดีๆ ของผู้ให้บริการญี่ปุ่น ที่ดีกว่าซัพพลายเออร์ไทย เลยอยากจะมาแชร์วันนี้เพื่อที่พวกเราจะได้ช่วยกันยกระดับมาตรฐานการทำงานของเรานะคะ อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งที่ supplier ญี่ปุ่นสามารถให้บริการลูกค้าดูจะดีกว่า Supplier ไทย อาจเป็นเพราะจำนวนผู้ใช้บริการที่น้อยกว่า และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จำกัดนะคะ
1. รับเรื่องร้องเรียนและนัดหมายได้รวดเร็ว การนัดหมายเพื่อติดตั้งหรือแจ้งเรื่องซ่อมกับ Supplier ญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถนัดวันให้บริการได้ทันที แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ซีเรียสมากก็ตาม ต่างกับผู้ให้บริการของไทยทีต้องโอนไปให้หลายหน่วยกว่าจะถึงหน่วยที่รับผิดขอบ รวมทั้งการนัดวันทำได้ค่อนข้างช้า
2. ตรงต่อเวลาเสมอ Supplier ของญี่ปุ่นจะตรงต่อเวลาทุกครั้ง และไม่เคยไม่มา หากจำเป็นต้องมาสายก็จะติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งสาเหตุ เช่น หาสถานที่ตั้งไม่เจอ หรือติดปัญหากับคิวก่อนหน้านี้อยู่ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความพึงพอใจของลูกค้า เพราะลูกค้าญี่ปุ่นก็จะตรงต่อเวลาด้วยเช่นกัน
3. การคิดค่าบริการอย่างเป็นธรรม การให้บริการของ Supplier ญี่ปุ่น เช่น เคเบิล TV ถ้าไม่สามารถรับชมได้หลายวัน และสาเหตุมาจากระบบของทาง Supplier ลูกค้าจะไม่ถูกคิดค่าบริการตามจำนวนวันที่ลูกค้าไม่ได้รับบริการแม้ว่าจะเป็นการจ่ายแบบเป็นรายเดือนก็ตาม
4. บริการเปลี่ยนอุปกรณ์นอกสถานที่ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องมีการติดตั้ง ดังนั้น Supplier ญี่ปุ่นจะเข้ามาเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ถึงอพาร์ตเมนท์ของลูกค้าเมื่อเกิดปัญหา เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อบกพร่องและทดสอบอุปกรณ์ที่ติดตั้งใหม่ได้
5. ยกเลิกการใช้บริการทางโทรศัพท์ได้ Supplier ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ให้โทรแจ้งยกเลิกการใช้บริการต่างได้ โดยการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและจะคิดค่าใช้บริการตามจริง นอกจากนี้บริการบางประเภทหากมีการจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นรายปี ลูกค้าก็จะได้รับเงินคืน ตามเดือนที่ไม่ได้ใช้บริการ เช่น ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีญี่ปุ่น ซึ่งกรณีการยกเลิกก่อนหมดสัญญาสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ไม่ได้เป็นเจตนาของผู้เช่า เช่น บริษัท ให้ย้ายไปทำงานประเทศอื่น หรือกลับประเทศด่วน เป็นต้น
เป็นไงบ้างคะ ฟังดูน่าใช้บริการหรือเปล่า แต่แน่นอนค่าบริการของผู้ให้บริการญี่ปุ่น จะสูงกว่าของไทย ทำให้สามารถให้บริการอย่างมีคุณภาพได้ นอกจากนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะซื่อสัตย์ และเป็นลูกค้าที่ดีด้วยเช่นกัน ทำให้การรับและการให้บริการเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะฉะนั้นช่วยกันเป็นทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ดีกันนะคะ
