ภาษีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลี
โดย มาดามลี ZmyHome
อันยองฮาเซโย สวัสดีค่ะ
ตามที่สัญญากันไว้ครั้งที่แล้ว วันนี้เราจะเม้าท์กันต่อเรื่องตัวเลขกับอสังหาริมทรัพย์ที่เกาหลี ซึ่งเมื่อต้องพูดถึงตัวเลขแล้ว ที่เกาหลีคงจะหนีไม่พ้นที่จะเม้าท์มอยเรื่องสิ่งที่เรียกว่า ภาษี กันก่อนนะคะเพราะที่นี่ ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ จริงจังมาก การจะได้มาซึ่งบ้านหนึ่งหลังเสียภาษีหลายสิ่งค่ะ ถ้าหนึ่งในสองสิ่งในโลกที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ภาษี แล้วล่ะก็
วันนี้มาทำความรู้จักภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันดีกว่าค่ะ ที่เกาหลี เมื่อมีการซื้อขายบ้าน ภาษีที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่ Registration Tax หรือ ภาษีการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 3% ของราคาซื้อขาย) Acquisition Tax หรือ ภาษีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 2% ของราคาซื้อขาย) Education Tax หรือ ภาษีเพื่อการศึกษา (ประมาณ 20% ของ Registration Tax) Stamp duty ค่าอากรแสตมป์ (ประมาณ 0.2% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์) และ สุดท้ายคือ Special tax for rural development หรือ Agriculture and Fisheries Tax (ประมาณ 10% ของ Acquisition Tax) ค่ะ อันที่จริงแล้ว ระบบการเก็บภาษีนั้นค่อนข้างซับซ้อน และมีเงื่อนไขเยอะค่ะ การคำนวณภาษีหรืออัตราภาษีไม่ได้ตายตัว มักเป็นแบบขึ้นบันได แล้วแต่สถานการณ์ค่ะ ส่วนใหญ่คนที่นี่มักจะเสียเงินจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูเรื่องภาษีให้ค่ะ
นอกจากภาษีด้านบนนี้แล้ว ผู้ซื้อยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะต้องรับผิดชอบด้วยนะคะ เงื่อนไขอันนึงก็คือ Housing Bonds ตอนที่ซื้อบ้าน รัฐบาลบังคับให้ผู้ซื้อบ้านซื้อพันธบัตรที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าเท่ากับมูลค่าประมาณ 5% ของราคาบ้าน ซึ่งหลายคน เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จ จะขายพันธบัตรทันทีที่ราคาลดที่ประมาณ 10% ของราคาหน้าตั๋วเพื่อเอาเงินออกมาใช่ก่อนจะหมดอายุสัญญา (เมื่อทำเช่นนี้ เท่ากับว่าการบังคับซื้อ Housing bond มีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.5%. ของราคาซื้อขายไปโดยไม่ตั้งใจ) นอกจากนั้นยังมี Legal Fee ค่าทนาย โดยปกติ การซื้อขายบ้านที่นี่จะต้องมีทนายมาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ โดยค่าว่าจ้างทนายจะอยู่ที่ 100,000-250,000 วอนต่อชั่วโมง หรือ 3,000-7,500 บาท โดยเมื่อเทียบกับมูลค่าบ้านแล้ว ค่าทนายที่ต้องจ่ายจะตกอยู่ที่จะอยู่ที่ 0.25% – 1% ของมูลค่าซื้อขายบ้าน
สุดท้ายคือ Real Estate Agent’s Fee ค่าธรรมเนียมของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นี่โดยส่วนใหญ่ยังคงซื้อขายผ่านนายหน้า โดยค่าธรรมเนียมนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 0.2%-0.9% ของราคาที่อยู่อาศัย เมื่อการซื้อขายจบลงแต่การเสียภาษียังไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้ ในแต่ละปี เจ้าของบ้านก็มีหน้าที่เสียภาษีที่อยู่อาศัย อันนี้เสียในอัตราก้าวหน้านะคะ โดยเรทเริ่มที่ 0.1% ไปจนถึง 0.4% กันเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณ สมมุติว่าคุณมีบ้านมูลค่า 700 ล้านวอน หรือ 21 ล้านบาท คุณต้องเสียภาษีปีละประมาณ 30,000 กว่าบาทค่ะ ส่วนผู้ขายนั้น แน่นอนที่สุดจะต้องเสียภาษีเช่นกันนะคะ โดยภาษีนั้นคือภาษีรายได้จากการขาย มากน้อยขึ้นอยู่กับกำไรที่ได้รับจาการขายและระยะเวลาการถือครองค่ะ
ที่เกาหลี เมื่อศึกษามาที่ระบบภาษีแล้วจะเห็นว่าที่นี่เน้นให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมากนะคะ คนเกาหลีบอกกว่าบ้านเมืองเค้ามีทรัพยากรธรรมชาติน้อย ไม่ได้อุดมสมบูรณ์แบบประเทศอื่น การที่ประเทศเค้าจะสามารถแข่งขันบนเวทีโลกได้ ทางเดียวคือเพิ่มศักยภาพของคนนั่นเอง
จึงเป็นที่มาของ ภาษีเพื่อการศึกษาค่ะ และก็เป็นไปตามวิชั่นของประเทศเค้า คุณภาพการศึกษาที่เกาหลีติดอันดับต้นๆของโลก ประเทศเค้าจึงพัฒนาอย่างรวดเร็วเพราะนโยบายการศึกษาที่ไม่ใช่แค่ปริมาณแต่เน้นที่คุณภาพมากกว่าค่ะ การพัฒนาประเทศที่ดีเริ่มต้นจากการเสียภาษีของคนในประเทศและวิชั่นของรัฐบาลในการนำภาษีที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศนั่นเอง
แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้านะคะ อันยองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก globalpropertyguide.com
จากใจ
ZmyHome
กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยค่ะ
อันยองฮาเซโย สวัสดีค่ะ
ตามที่สัญญากันไว้ครั้งที่แล้ว วันนี้เราจะเม้าท์กันต่อเรื่องตัวเลขกับอสังหาริมทรัพย์ที่เกาหลี ซึ่งเมื่อต้องพูดถึงตัวเลขแล้ว ที่เกาหลีคงจะหนีไม่พ้นที่จะเม้าท์มอยเรื่องสิ่งที่เรียกว่า ภาษี กันก่อนนะคะเพราะที่นี่ ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ จริงจังมาก การจะได้มาซึ่งบ้านหนึ่งหลังเสียภาษีหลายสิ่งค่ะ ถ้าหนึ่งในสองสิ่งในโลกที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ภาษี แล้วล่ะก็
วันนี้มาทำความรู้จักภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันดีกว่าค่ะ ที่เกาหลี เมื่อมีการซื้อขายบ้าน ภาษีที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่ Registration Tax หรือ ภาษีการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 3% ของราคาซื้อขาย) Acquisition Tax หรือ ภาษีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 2% ของราคาซื้อขาย) Education Tax หรือ ภาษีเพื่อการศึกษา (ประมาณ 20% ของ Registration Tax) Stamp duty ค่าอากรแสตมป์ (ประมาณ 0.2% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์) และ สุดท้ายคือ Special tax for rural development หรือ Agriculture and Fisheries Tax (ประมาณ 10% ของ Acquisition Tax) ค่ะ อันที่จริงแล้ว ระบบการเก็บภาษีนั้นค่อนข้างซับซ้อน และมีเงื่อนไขเยอะค่ะ การคำนวณภาษีหรืออัตราภาษีไม่ได้ตายตัว มักเป็นแบบขึ้นบันได แล้วแต่สถานการณ์ค่ะ ส่วนใหญ่คนที่นี่มักจะเสียเงินจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูเรื่องภาษีให้ค่ะ
นอกจากภาษีด้านบนนี้แล้ว ผู้ซื้อยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะต้องรับผิดชอบด้วยนะคะ เงื่อนไขอันนึงก็คือ Housing Bonds ตอนที่ซื้อบ้าน รัฐบาลบังคับให้ผู้ซื้อบ้านซื้อพันธบัตรที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าเท่ากับมูลค่าประมาณ 5% ของราคาบ้าน ซึ่งหลายคน เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จ จะขายพันธบัตรทันทีที่ราคาลดที่ประมาณ 10% ของราคาหน้าตั๋วเพื่อเอาเงินออกมาใช่ก่อนจะหมดอายุสัญญา (เมื่อทำเช่นนี้ เท่ากับว่าการบังคับซื้อ Housing bond มีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.5%. ของราคาซื้อขายไปโดยไม่ตั้งใจ) นอกจากนั้นยังมี Legal Fee ค่าทนาย โดยปกติ การซื้อขายบ้านที่นี่จะต้องมีทนายมาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ โดยค่าว่าจ้างทนายจะอยู่ที่ 100,000-250,000 วอนต่อชั่วโมง หรือ 3,000-7,500 บาท โดยเมื่อเทียบกับมูลค่าบ้านแล้ว ค่าทนายที่ต้องจ่ายจะตกอยู่ที่จะอยู่ที่ 0.25% – 1% ของมูลค่าซื้อขายบ้าน
สุดท้ายคือ Real Estate Agent’s Fee ค่าธรรมเนียมของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นี่โดยส่วนใหญ่ยังคงซื้อขายผ่านนายหน้า โดยค่าธรรมเนียมนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 0.2%-0.9% ของราคาที่อยู่อาศัย เมื่อการซื้อขายจบลงแต่การเสียภาษียังไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้ ในแต่ละปี เจ้าของบ้านก็มีหน้าที่เสียภาษีที่อยู่อาศัย อันนี้เสียในอัตราก้าวหน้านะคะ โดยเรทเริ่มที่ 0.1% ไปจนถึง 0.4% กันเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณ สมมุติว่าคุณมีบ้านมูลค่า 700 ล้านวอน หรือ 21 ล้านบาท คุณต้องเสียภาษีปีละประมาณ 30,000 กว่าบาทค่ะ ส่วนผู้ขายนั้น แน่นอนที่สุดจะต้องเสียภาษีเช่นกันนะคะ โดยภาษีนั้นคือภาษีรายได้จากการขาย มากน้อยขึ้นอยู่กับกำไรที่ได้รับจาการขายและระยะเวลาการถือครองค่ะ
ที่เกาหลี เมื่อศึกษามาที่ระบบภาษีแล้วจะเห็นว่าที่นี่เน้นให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมากนะคะ คนเกาหลีบอกกว่าบ้านเมืองเค้ามีทรัพยากรธรรมชาติน้อย ไม่ได้อุดมสมบูรณ์แบบประเทศอื่น การที่ประเทศเค้าจะสามารถแข่งขันบนเวทีโลกได้ ทางเดียวคือเพิ่มศักยภาพของคนนั่นเอง
จึงเป็นที่มาของ ภาษีเพื่อการศึกษาค่ะ และก็เป็นไปตามวิชั่นของประเทศเค้า คุณภาพการศึกษาที่เกาหลีติดอันดับต้นๆของโลก ประเทศเค้าจึงพัฒนาอย่างรวดเร็วเพราะนโยบายการศึกษาที่ไม่ใช่แค่ปริมาณแต่เน้นที่คุณภาพมากกว่าค่ะ การพัฒนาประเทศที่ดีเริ่มต้นจากการเสียภาษีของคนในประเทศและวิชั่นของรัฐบาลในการนำภาษีที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศนั่นเอง
แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้านะคะ อันยองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก globalpropertyguide.com
จากใจ
ZmyHome
กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยค่ะ
