หลับเต็มอิ่ม ยิ้มเมื่อตื่น ด้วยวิธีดูแลที่นอนให้สะอาด
เพราะความเป็นจริงคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเรามักจะใช้เวลา 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ของวันในการพักผ่อนบนที่นอน เพื่อรักษาสมดุลการใช้ชีวิต นั่นจึงทำให้ 6-8 ชั่วโมงที่คนเราทิ้งตัวลงบนที่นอนจึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขเล็ก ๆ ในการพักผ่อน แต่สิ่งเหล่านี้คงจะดีมากกว่าหากคุณหมั่นทำความสะอาดที่นอนของคุณที่ต้องใช้ระยะเวลาอยู่กับมันนานหลายชั่วโมง ซึ่งการทำความสะอาดหรือการดูแลรักษาอาจจะมีหลายขั้นตอน และอาจจะเสียเวลาไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่า หากคุณหมั่นดูแลรักษาเป็นกิจวัตรแล้วล่ะก็ คุณจะหลับเต็มอิ่ม ยิ้มเมื่อตื่นกับที่นอนสะอาด ๆ กับหลายวิธีดูแลรักษาที่จะทำให้ที่นอนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นด้วย
วิธีการดูแลรักษาที่นอนให้หลับสบายและใช้งานได้นาน
- เบื้องต้นเริ่มจากตรวจสอบที่นอนของเราก่อนว่า ที่นอนที่เราใช้สามารถใช้งานได้ทั้งสองด้านหรือไม่ ซึ่งถ้าหากทำได้ควรพลิกหรือกลับด้านที่นอน พร้อมกับสลับด้านที่นอนหัว-ท้าย อย่างน้อย 1 ครั้งทุก 3 เดือน เพื่อรักษาความคงตัวและสมดุลของที่นอน และไม่ให้ด้านใดด้านหนึ่งยุบตัวลงไปถาวร
- การดึงผ้าปูที่นอนออกทุกสัปดาห์และนำที่นอนไปผึ่งแดด นอกจากจะได้กลิ่นแดดอุ่น ๆ ที่หอมบริสุทธิ์แล้ว ยังเป็นการถ่ายเทอากาศภายในที่นอนอีกด้วย ซึ่งควรผึ่งทิ้งไว้ครั้งละหลาย ๆ ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากห้องนอนอยู่ใกล้หน้าต่างให้เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องถึงที่นอน เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วยแต่ถ้าหากที่นอนเป็นที่นอนยางพาราให้ใช้วิธีตากลมแทนนำไปตากแดด
- นอกจากผ้าปูที่นอนแล้ว หากมีผ้ารองกันเปื้อนด้วยจะช่วยให้ที่นอนสะอาดและดูใหม่อยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากเกิดรอยเปื้อนขึ้นให้น้ำสบู่ขัดตรงบริเวณรอยเปื้อนเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด และนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิทก่อนการใช้งาน
- หมั่นตรวจสอบฐานรองและขาตั้งที่นอนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อความปลอดภัย
- สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หากใช้ที่นอนที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ ควรใช้ปลอกที่นอนพลาสติกหรือไวนิลหุ้มไว้ก่อนจะปูทับด้วยผ้าปูที่นอนอีกหนึ่งชั้น
อย่างไรก็ตาม ที่นอนก็มีอายุการใช้งานตามสภาพกาลเวลาของมันเช่นกัน ซึ่งอาจจะมีระยะเวลา 8-10 ปี ดังนั้น การดูแลรักษาก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ แต่พอเมื่อถึงเวลาก็ควรจะเปลี่ยนเพื่อสุขภาพการนอนหลับอย่างสบาย
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ