ทาสีบ้าน คอนโดอย่างไรให้ถูกวิธี
เช็กสภาพสีก่อนทาสีใหม่ต้องเคลียร์สีเก่า
ตามหลักความเป็นจริงแล้วส่วนใหญ่คนที่เลือกทาสีบ้านด้วยตัวเองนั้นจะทาสีตอนที่อยู่บ้านมาเป็นเวลานานเป็นปี ทำให้สีเก่าที่ติดอยู่กับตัวบ้านยังคงอยู่ ดังนั้น เราจึงควรเริ่มจากการเช็กสภาพสีเดิมที่ติดอยู่ก่อน ซึ่งถ้าหากสภาพสีเดิมมีแค่รอยหมองคล้ำเล็ก ๆ ไม่มีอาการหลุดลอกก็สามารถเช็ดจุดที่จะทาสีให้สะอาด รอให้แห้ง และทาสีใหม่ทับไปได้อย่างง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าสีเก่ามีอาการหลุดลอกด้วยสภาพอายุการใช้งาน การเคลียร์สีเก่าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอาจต้องใช้เวลาในการทำหลายขั้นตอน โดยเริ่มจากการขูดสีด้วยเกรียง หรืออาจใช้ฟันเลื่อยขูดให้สีเก่าออกเป็นขุยและใช้กระดาษทรายขัดแต่งพื้นผิวให้เรียบ
ทว่าหากสีเก่านั้นติดแน่นฝังลึกเป็นจุด ๆ หลายคนอาจใช้วิธีทุ่นแรงด้วยการพ่นด้วยความร้อนจากเตาฟู่หรือการนำสารเคมีลอกสีมาช่วยด้วยได้ ซึ่งสารเคมีนั้นผู้ใช้งานควรสวมถุงมือป้องกันให้ดีด้วย ก่อนจะใช้เกรียงขูดสีขูดให้สีเก่าหลุดร่อนออกให้หมดเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป
ตรวจสอบพื้นผิวหลังขูดสี
การเกิดการชำรุดหากเกิดขึ้นตามผนังที่ชำรุด ควรซ่อมแซมด้วยการใช้ปูนทรายในการอุดทับรอยสึกหรอ หรือรอยแตกร้าว หรือใช้ยิปซัมพลาสเตอร์ในการแปะทับก่อนจะฉาบปูนและฉาบให้พื้นผิวผนังเรียบเสมอกัน ก่อนจะรอให้แห้งเพื่อรอให้สภาพพื้นผิวพร้อมสำหรับการทาสีใหม่
อย่างไรก็ตาม หากพื้นผิวที่จะทาสีใหม่นั้นเป็นโลหะ เช่น ขอบประตู หน้าต่างเหล็กดัด ควรตรวจสอบดูตามจุดต่างว่ามีสนิมขึ้นหรือไม่ ถ้าหากเกิดสนิมขึ้นให้ใช้น้ำยาขัดสนิมก่อน และขัดด้วยกระดาษทรายให้มีความราบเรียบ
ทาสีใหม่สดใสตามใจต้องการ
เมื่อเช็กสภาพพื้นผิวที่ต้องการจะทาสีเรียบร้อย ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์หรือผ้าคลุมสิ่งของเพื่อป้องกันการหยดเลอะเทอะของสีในจุดที่เราไม่ได้ต้องการจะทาทับโดยจุ่มสีให้พอหมาด ๆ ไม่เปียกชุ่ม เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สีสันของบ้านและคอนโดตามที่ใจคุณต้องการ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ