• 5 มิ.ย. 2563

สำรวจ 5 คอนโดไฮไรส์ใหม่ สถานี 5 แยกลาดพร้าว The Next New CBD ของกรุงเทพฯ

          ทำเลห้าแยกลาดพร้าว เป็นทำเลที่ถูกจับตาว่าจะกลายเป็น The Next New CBD ที่ถัดมาจากทำเลพระราม 9 ด้วยกับเหตุผลหลายประการที่ทำให้ทำเลนี้เพียบพร้อมในการใช้ชีวิต ตั้งแต่เรื่องของแหล่งงานขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใหม่รอบ ๆ บริเวณนี้ สถานีรถไฟฟ้า Interchange สายสีน้ำเงินตัดกับสายสีเขียวส่วนต่อขยายทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย จุดตัดของถนนสายสำคัญหลายสายบริเวณห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงยังเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่มีตั้งแต่อาหารข้างทางธรรมดายันอาหารระดับดีในศูนย์การค้าและยังมีสวนขนาดใหญ่ใกล้เคียงพื้นที่โซนนี้ ทำให้พื้นที่นี้เหมาะทั้งแก่การอยู่อาศัยและทำงาน โดยรายละเอียดของแต่ปัจจัยเกื้อหนุนเป็นอย่างไร Zmyhome ได้สรุปเหตุผลหลักๆ 4 ประการ ดังต่อไปนี้

          1. จุด Interchange รถไฟฟ้า 2 สาย และจุดตัดถนนเส้นสำคัญ 3 เส้น – ทำเลห้าแยกลาดพร้าวเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้า 2 สายที่เป็น Interchange กัน คือรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) และสายสีน้ำเงิน โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียว(ส่วนต่อขยาย) เริ่มต้นจากสถานีห้าแยกลาดพร้าววิ่งไปยังโซนกรุงเทพตอนเหนือตามถนนพหลโยธินไปสุดที่สถานีคูคต ซึ่งสถานีห้าแยกลาดพร้าวจะเชื่อมต่อจากสถานี BTS หมอชิต (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) ที่เป็นสายที่วิ่งเข้าสู่โซน อารีย์ อนุสาวรีย์ พญาไท สยาม สาทร ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็เป็นสายที่เดินทางเข้าตัวเมืองในโซนพระราม 9 ได้โดยตรง ด้านพื้นที่ใกล้เคียงอย่างบริเวณบางซื่อก็จะกลายเป็น Transportation Hub แห่งใหม่ทำให้การเดินทางไปสู่ต่างจังหวัดง่ายยิ่งขึ้น
 
สถานีกลางบางซื่อ (ภาพจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

          ด้านถนนสายสำคัญนั้น ในบริเวณห้าแยกลาดพร้าวเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญ 3 เส้นทาง ซึ่งเป็นถนนที่สำคัญของกรุงเทพตอนเหนือที่เป็นที่ตั้งของแหล่งงาน แหล่งชุมชนมากมาย ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ที่เชื่อมต่อไปยังดอนเมืองและรังสิตได้โดยตรง ถนนพหลโยธินที่เชื่อมไปยังโซนสะพานใหม่ และถนนลาดพร้าวที่เชื่อมไปยังโซนรัชดา พระราม 9

          2. อาคารสำนักงาน และ Mixed Used เกิดใหม่ – ในช่วง 1-5 ปีข้างหน้า จะมีอาคารสำนักงานและโครงการ Mixed Used ในทำเลนี้ โดยแต่ละโครงการมีรายละเอียดดังนี้

          2.1 Oasis - โครงการมิกซ์ยูส ความสูง 36 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่กว่า 53,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564 
          2.2 Ratchayothin Hills โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์จัดการประชุม ฟิตเนส และพื้นที่ค้าปลีก บนพื้นที่กว่า 3.5 ไร่ บริเวณปากซอยพหลโยธิน 31 มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 49,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2566 
          2.3 โครงการจาก BTS + CPN เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาด 48 ไร่ บริเวณซอยพหลโยธิน 19/1 ข้างโครงการ Supalai Park พหลโยธิน ที่ตอนนี้โครงการอยู่ในระหว่างรอการพัฒนา คาดว่าในโครงการจะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม 
          2.4 Mochit Complex โครงการมิกซ์ยูส ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามสวนจตุจักร ข้าง ๆ The Line จตุจักร-หมอชิต เป็นโครงการประกอบด้วย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่กว่า 75,000 ตร.ม. คาดแล้วเสร็จปี 2564
 

          หากว่าโครงการเหล่านี้สร้างเสร็จก็จะทำให้ทำเลนี้มีพื้นที่อาคารสำนักงาน/แหล่งงานมากกว่า 100,000 – 200,000 ตารางเมตร รองรับพนักงานได้อีกหลายหมื่นคน

           3. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แหล่งจับจ่ายใช้สอย – พื้นที่ห้าแยกลาดพร้าวเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าอย่าง เซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall, ห้างสรรพสินค้าอย่าง Tesco Lotus, Big C Extra ร้านอาหารมากมายตั้งแต่ร้านอาหาร Street Food บริเวณต้นซอยลาดพร้าวและรอบๆ ห้างสรรพสินค้า, ของสดต่าง ๆ ในตลาด เช่น ตลาด อตก. และยังใกล้กับแหล่งช๊อปปิ้งขวัญใจขาช๊อปอย่าง ตลาดนัดจตุจักร ที่นั่งรถไฟฟ้าเพียง 1 สถานี  

          4. พื้นที่สวนขนาดใหญ่ – พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่หรือพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ในฝันของใครหลายๆคน เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับผู้รักการออกกำลังกายแล้วยังเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ คลายเครียด อีกด้วย ทำเลห้าแยกลาดพร้าวใกล้กับสวนขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานครในเขตจตุจักร อย่าง สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนวชิรเบญจทัศน์ โดยทั้ง 3 สวนนี้มีพื้นที่รวมกันกว่า 740 ไร่ ถือว่าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และในอนาคตก็มีแผนที่จะรวมสวนทั้ง 3 สวนเข้าด้วยกัน

          จากปัจจัยข้างต้นทำให้ทำเลนี้มีความน่าสนใจ ส่วนโครงการรอบๆ BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ MRT พหลโยธินมีโครงการใดบ้าง วันนี้ทาง Zmyhome จะมาแนะนำคอนโดมิเนียม High Rise โครงการใหม่ทั้ง 5 โครงการ ให้ผู้อ่านประกอบการพิจารณาเลือกซื้อครับ
 

          ไลฟ์ ลาดพร้าว – โครงการจากบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP นั่นเอง โครงการรูปแบบ High Rise ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินเยื้องเซ็นทรัลลาดพร้าวแถมด้านข้างยังมี Tesco Lotus ตัวโครงการห่างจาก BTS ห้าแยกลาดพร้าวซึ่งเป็น BTS ส่วนต่อขยายประมาณ 150 เมตร ถือว่าใกล้มากๆเดินเข้า-ออกได้อย่างสบาย โครงการสร้างเสร็จแล้วในปี พ.ศ. 2563 บนที่ดิน 7 ไร่เศษ เป็นอาคารชุดพักอาศัย 45 ชั้น (อาคาร A) และ 46 ชั้น (อาคาร B) มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 713 ยูนิตสำหรับตึก A และ 909 ยูนิตสำหรับตึก B รวม 1,615 ยูนิต ที่จอดรถ 44% (723 คัน) โครงการมีห้องพักหลักๆ 4 รูปแบบ คือ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms, ขนาดห้องพัก 26-74 ตารางเมตร และยูนิตพิเศษยูนิตเดียว คือ Duplex ขนาด 342 ตารางเมตร ราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 135,000-142,000 บาท ทำให้ห้องพักขนาดเริ่มต้นใช้งบประมาณที่ 3 ล้านปลายๆ หรือ หากหาดีๆอาจเจอห้องพักที่ขายใบจองในราคา 3 ล้านกลาง ๆ

          จุดเด่นของโครงการนี้ คือ จะเป็นเรื่องของทำเลที่อยู่ใกล้ BTS ห้าแยกลาดพร้าวเพียง 150 เมตรและอยู่ใกล้ทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส และ Union Mall ด้านของ Function การใช้งานหรือ Facilities ก็ออกแบบมาตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่, กลุ่ม Start Up, Freelance, กลุ่มคนที่ Work From Home และนักศึกษา/นักเรียน ด้วยกับพื้นที่ Iconic Lobby ที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงาน หรือนั่งพักผ่อนได้, พื้นที่ Co-Working Space, Social Lounge ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำงานหรือนัดคุยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงห้องประชุมที่มีระบบ Digital อย่างเต็มรูปแบบ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผ่อนคลายจะมี สวนส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และซาวน่า ที่มีการแยก Facilities ทั้ง 2 ตึกออกจากกันเพื่อลดความแออัดจากการใช้งาน ส่วนด้านการออกแบบห้องพักในห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนขนาด 35 ตารางเมตรที่มีมากที่สุดในโครงการ ทางโครงการก็ออกแบบให้มีห้องอเนกประสงค์ติดระเบียงเพื่อให้ในอนาคตสามารถปรับเป็นห้องนอนที่ 2 ได้
 

          ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลี่ย์ – อีกหนึ่งโครงการจากบริษัท AP ที่เปิดตัวหลังจาก โครงการไลฟ์ ลาดพร้าว โครงการ ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลี่ย์ เป็นโครงการรูปแบบ High Rise ตั้งอยู่เยื้องเซ็นทรัลลาดพร้าว ทางเข้าโครงการแม้ว่าจะเป็นทางเดินลึกประมาณ 350 แต่ทางโครงการได้จัดให้มี Shuttle Bus บริการ รวมถึงทำทางเท้าที่สร้างบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การเดินให้ลูกบ้าน ตัวโครงการห่างจาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว ประมาณ 350 เมตร หรือหากพูดให้เห็นภาพคือหน้าทางเข้าโครงการแทบติดทางขึ้นรถไฟฟ้าเลย ตัวโครงการคาดว่าสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2564 บนที่ดิน 5 ไร่ครึ่ง เป็นอาคารชุดพักอาศัย 45 ชั้น 1 อาคารพร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้นและชั้นลอย 1 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 1,140 ยูนิต ที่จอดรถ 42% (478 คัน) โครงการมีห้องพัก 7 รูปแบบ  คือ Studio, 1 Bedroom Type A และ Type B, 1 Bedroom Executive, 2 Bedrooms D,E,F,G, ขนาดห้องพัก 28.8-66.5 ตารางเมตร ราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 145,000-160,000 บาท ห้องพักขนาดเริ่มต้นใช้งบประมาณที่ 4 ล้านกลางๆ ก็เป็นเจ้าของห้องขนาด 28-29 ตารางเมตรได้


          จุดเด่นของโครงการนี้ คือ เรื่องของแนวคิดการออกแบบใน Concept “Adventurous Spirit” ที่สะท้อนผ่านโครงการตั้งแต่ทางเข้าโครงการที่สร้างทางเดินระยะ 350 เมตร แต่มีการสร้าง Landscape สร้างความรู้สึกเหมือนเข้าไปในหุบเขา การสร้างสวน The Valley Passage ที่เชื่อมซอยพหลโยธิน 22 ทำให้เดินทางออกสู่ถนนพหลโยธินได้ในระยะ 200 เมตร พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบได้อย่างน่าสนใจ อาทิ พื้นที่ส่วนกลางชั้น 6 ที่ลดระดับลงมา 3 เมตรและสร้างสวนทางลาดเพื่อให้ลูกบ้านเดินลงมาใช้งาน แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวสำหรับห้องพักชั้น 6 การทำสระว่ายน้ำเล่นระดับในชั้น 44 และชั้นลอย และทำทางขึ้นไปสู่ชั้นลอยโดยเดินผ่านสวนที่ออกแบบคล้ายการผจญภัย อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ Crystal Alley ที่เป็นทางเดินใต้สระชั้นลอยไปยังสระว่ายน้ำชั้น 44 โดยด้านบนจะเห็นสระว่ายน้ำบางส่วนของชั้นลอย ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินไปใน Aquarium รวมถึงมี Facilities ที่เยอะมากและมีการจัดวางเหมือนเราผจญภัยในโครงการ ส่วนด้านการออกแบบห้องพักใช้การออกแบบให้มีการ Interlock ในห้อง 1 Bedroom เพื่อทำให้พื้นที่ในห้องพักมีสัดส่วนมากขึ้น ทำให้เกิด Function การใช้งานที่ดีกว่าห้องพักรูปแบบธรรมดา ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ห้องพักแต่ละรูปแบบได้อย่างน่าสนใจ
 

          เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค – โครงการร่วมทุนจากแสนสิริและ BTS ตัวโครงการเป็นรูปแบบ High Rise ตั้งอยู่หลัง Tesco Lotus โดยทางเข้าโครงการเป็นทางเข้าเดียวกับ Tesco Lotus และโครงการ Abstracts พหลโยธิน พาร์ค โครงการห่างจาก BTS ห้าแยกลาดพร้าวประมาณ 400 เมตร ตัวโครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2565 บนที่ดินที่เป็นที่ตั้งตัวโครงการขนาด 2 ไร่ เป็นอาคารชุดพักอาศัย 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิตพักอาศัย 880 ยูนิต ที่จอดรถ 60% (520 คัน) โครงการมีห้องพักหลักๆ 3 รูปแบบ คือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms, และ Duplex ขนาด 31.75-82.25 ตารางเมตร ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 92,000-110,000 บาท และด้วยงบประมาณ 3 ล้านต้นๆ ก็พอเป็นเจ้าของได้

          จุดเด่นของโครงการ คือ การออกแบบด้วยแนวคิด “Magical Tress” โดยตัวโครงการนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ถึง 21 ไร่ ที่มีแผนจะสร้างอาคารทั้งหมด 3 อาคาร ซึ่งตอนนี้ได้มีโครงการ Abstract พหลโยธิน-พาร์ค ที่สร้างไปแล้ว และ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ที่กำลังก่อสร้าง ด้านหน้าอาคารจะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางสำหรับ 3 อาคารมีขนาดใหญ่ถึง 8 ไร่ ส่วนภายในตัวโครงการก็มีการใช้วัสดุทดแทน เช่น ใช้เศษหินมาทำเป็น Terrazzo เป็นต้น ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนอกสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานแล้วก็มีพื้นที่ Co-Working, Co-living, Co- Cooking Space ที่มาอำนวยความสะดวกลูกบ้าน ด้านห้องพักมีการออกแบบห้องพักรูปแบบ 1 ห้องนอนให้มีหลาย Types ตอบรับ Lifestyle ที่แตกต่างกัน เช่น ห้องพักระเบียงกว้าง ห้องพักที่แยกห้องอาบน้ำและห้องสุขาออกจากกัน ห้องพักที่จัดสัดส่วนให้มีพื้นที่ Walk-in Closet ห้องที่มีห้องนอนอยู่ชิดริมหน้าต่าง ห้องที่มีห้องครัวกับ Zone นั่งเล่นเชื่อมต่อกัน เป็นต้น
 

          เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร – โครงการจาก พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ Pruksa ตัวโครงการเป็นรูปแบบ High Rise ตั้งอยู่ติดถนนวิภาวดีรังสิตใกล้แยกลาดพร้าว ตัวโครงการห่างจาก MRT พหลโยธิน (เส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) ประมาณ 500 เมตร โครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2564 บนที่ดินขนาด 3 ไร่เศษ เป็นอาคารชุดพักอาศัย 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิตพักอาศัย 847 ยูนิต ที่จอดรถ 37% หากรวมจอดซ้อนคันประมาณ 43% โครงการมีห้องพักหลักๆ 4 รูปแบบ คือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms 1 Bath, 2 Bedrooms 2 Bath, และห้องเพดานสูง (ห้อง Loft ในชั้น 30 และ 32) ขนาด 26-53 ตารางเมตร ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 115,000-130,000 บาท ทำให้ต้องใช้เงินประมาณ 3 ล้านต้นๆ สำหรับห้องพักเริ่มต้น

          จุดเด่นของโครงการ คือ ทำเลที่ติดถนนวิภาวดีรังสิตที่เลี่ยงพื้นรถติดอย่างถนนพหลโยธินและถนนลาดพร้าวได้ แต่ก็มีซอยย่อยลัดเลาะเข้าไปโซนลาดพร้าวและพหลโยธินได้สะดวก ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในแง่การเดินทางจะมี Shuttle Bus รับส่งในเวลาเร่งด่วนไปยัง MRT พหลโยธิน ส่วนกลางที่ให้มาค่อนข้างหลากหลายและจัดเป็นสัดส่วนง่ายต่อการใช้งาน ภายในให้เพดานสูงถึง 2.75 เมตรในบางห้องและทุกห้องจะให้วัสดุมาค่อนข้างดี เช่น Digital Door Lock ที่ใช้ได้ทั้งสแกนลายนิ้วมือ บันทึกได้ถึง 100 ลาย, Password, Key Card, กุญแจ, OTP ชั่วคราว และยังมีระบบเชื่อมต่อกับ Application สำหรับประตู, และสำหรับห้องขนาดใหญ่จะได้สุขภัณฑ์แบบระบบอัตโนมัติ เป็นต้น
 

          เมทริส ลาดพร้าว – โครงการจากบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตัวโครงการเป็นรูปแบบ High Rise ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวติดปากซอยลาดพร้าว 8 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อซอยวิภาวดีรังสิต 22ได้ ตัวโครงการห่างจาก MRT พหลโยธิน (เส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) ประมาณ 400 เมตร โครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเมื่อพฤษภาคมปี พ.ศ.2563 บนที่ดินที่ขนาด 1 ไร่เศษ เป็นอาคารชุดพักอาศัย 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิตพักอาศัย 193 ยูนิต ที่จอดรถแบบ Automatic Parking 58% (112 คัน) โครงการมีห้องพักหลักๆ 3 รูปแบบ คือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms 1 Bath, และ 2 Bedrooms 2 Bath ขนาด 30-61 ตารางเมตร ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 130,000-145,000 บาท ด้วยงบประมาณ 3 ล้านปลายๆ - 4 ล้านต้น ๆ ก็พอจะเป็นเจ้าของห้องพัก 1 ห้องนอนขนาดเริ่มต้นได้

          จุดเด่นของโครงการ คือ เป็นโครงการ High Rise ที่มีความ Privacy สูงกว่าโครงการอื่นๆ เพราะโครงการใหม่อื่นๆ มีจำนวนยูนิตหลัก 800 ยูนิตขึ้นไปแต่โครงการนี้มีเพียง 193 ยูนิต โครงการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นข้อเด่นของโครงการจาก Major Development ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็ให้ตามมาตรฐานทั่วไป ข้อด้อยคือเป็นโครงการ High Rise สูงเพียง 29 ชั้น ทำให้ไม่ได้ Take View และได้ Facilities ชั้นสูง ๆ เหมือนโครงการใหญ่ ๆ แต่ก็ได้ความ Privacy มาแทน

          โดยสรุปแล้วทำเลห้าแยกลาดพร้าว ถือว่าเป็น Compact Location ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน ทั้งแหล่งงาน แหล่งของกิน สวนสาธารณะ โดยแทบไม่ต้องไปใช้ Facilities ในโซนอื่นๆเลย และยังเป็นพื้นที่ที่มีแผนพัฒนาทั้งพื้นที่สำนักงานและด้านคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่รอบ ๆ นี้ ส่วนคอนโดมิเนียมใหม่รูปแบบ High Rise รอบ ๆ BTS ห้าแยกลาดพร้าวและ MRT พหลโยธิน จะมีราคาในช่วง 95,000-160,000 บาท โดยแต่ละโครงการก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน อาทิ โครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียว โครงการที่มี Concept การผจญภัยและเน้น Facilities ที่หลากหลาย/แปลกตา โครงการเลี้ยงสัตว์ได้ โครงการที่เน้นความ Privacy เป็นต้น ส่วนใครที่ต้องการเป็นเจ้าของคอนโดใหม่ในย่านนี้ก็ต้องมีงบประมาณเริ่มต้นที่ 3-4 ล้านบาทครับ   

          คราวหน้าอยากให้ ZmyHome ไปแนะนำโครงการน่าอยู่ในทำเลไหน ส่งข้อความทักทายเข้ามาได้ทางเฟสบุ๊ค ZmyHome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 นะครับ 


จากใจ
Zmyhome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ

ผู้เขียน : ปวีณ Zmyhome
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ