ทำเลเพชรสุดล้ำค่า สถานีเพลินจิต จุดบรรจบธุรกิจและการใช้ชีวิตระดับไฮเอนด์
โซนเพลินจิต ถือว่าเป็นบริเวณที่ราคาที่ดินมีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศไทย โดยในระยะ 1-2 ปีมานี้ ได้มีการซื้อขายกันเปลี่ยนมือกันในราคา 2-3 ล้านบาทต่อตารางวาเข้าไปแล้ว ซึ่งสิ่งที่ทำให้พื้นที่นี้มีความโดดเด่นและมีมูลค่าสูงก็คือ “ถนนวิทยุ” ถนนประวัติศาสตร์ที่มีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ยืนให้ความร่มรื่นตลอดความยาว 2.6 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่าง ๆ มากมาย เช่น ญี่ปุ่น เนเธอร์เลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เวียดนาม และประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งครอบครองพื้นที่ดินกว้างใหญ่ที่สุดบนถนนวิทยุ รวมถึงสถานทูตสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนแยกเพลินจิตเป็นอย่างมากในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อถนนวิทยุถูกเลือกเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่าง ๆ แล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าของชาวต่างชาติก็ตามมา บนแยกเพลินจิตและถนนวิทยุ จึงเกิดมีอาคารสำนักงานชั้นดี เช่น มหาทุนพลาซ่า, Park Ventures, Wave Place, Q House Ploenchit, All Seasons Place, GPF Witthayu Towers, อาคารสินธร และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักเพลินจิต ไปจนถึงโรงแรมหรูหรามากมาย อาทิ The Athenee Hotel, Conrad Bangkok, The Okura Prestige Bangkok, Siwatel Bangkok, Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit, Oriental Residence Bangkok และที่เพิ่งเปิดใหม่อย่าง Hotel Indigo Bangkok และ Rosewood Bangkok
ปี พ.ศ.2549 กลุ่มเซ็นทรัลได้ชนะการประมูลที่ดินบริเวณด้านหน้าของสถานทูตอังกฤษ ในราคาตารางวาละ 900,000 บาท และพัฒนาเป็นโครงการศูนย์การค้า Central Embassy เปิดให้บริการในปี พ.ศ.2557 เป็นการเติมเต็มแยกเพลินจิตให้มีครบทุกองค์ประกอบของการเป็น CBD ที่หรูหราที่สุดของกรุงเทพฯ และหลังจากนั้นมา การพัฒนาที่ดินโซนเพลินจิต-วิทยุทุกครั้ง ก็ล้วนแต่เป็นโครงการใหญ่มูลค่ามหาศาลที่น่าจับตามองทั้งสิ้น ช่วงก่อนการมาของ Covid-19 เมื่อต้นปี 2563 ได้มีการปิดดีลการซื้อขายที่ดินราคาแพงหลายแปลง มีอะไรบ้างเรามาดูกันครับ
- ปี 2561 ที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษ หลัง Central Embassy พื้นที่กว่า 24 ไร่ ถูกซื้ออีกครั้งโดยกลุ่มเซ็นทรัลและฮ่องกงแลนด์ ด้วยราคาซื้อขาย 18,600 ล้านบาท ซึ่งตกตารางวาละเกือบ ๆ 1.9 ล้านบาท โดยเซ็นทรัลพัฒนา มีแผนพัฒนาเป็น Mixed-Use ประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานระดับ Premium ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ
- นอกเหนือจากที่ดินสถานทูตอังกฤษแล้ว ฮ่องกงแลนด์ก็ได้ร่วมทุนกับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ซื้อที่ดินตรงข้ามสถานทูตอังกฤษ เนื้อที่กว่า 3 ไร่ มีแผนการสร้างโครงการคอนโดมิเนียม High-Rise ระดับ Super Luxury ขายแบบ Freehold (ขายขาด) มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับทั้งการอยู่อาศัยและเติมเต็มโครงการ Mixed-Use กว่า 20 ไร่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 60,000 ตารางเมตรหรือคิดเป็นมูลค่าโครงการรวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในราคาเกือบ 3 แสนบาทต่อตร.ม.ในปี 2564
- ที่ดินเดิมที่เป็นโรงแรมปาร์คนายเลิศ อยู่ติดกับ “บ้านปาร์ค นายเลิศ” ใกล้กับสถานทูตอังกฤษ ทางเครือโรงพยาบาลกรุงเทพได้ซื้อที่ดินพื้นที่กว่า 15 ไร่นี้ในปี 2559 ด้วยราคา 10,800 ล้านบาท หรือประมาณ 1.8 ล้านบาทต่อตารางวา เพื่อพัฒนาเป็น Medical Hub ในชื่อ “BDMS Wellness Clinic”
- และถัดมาจากถนนวิทยุมาทางถนนเพลินจิต ตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ยังมี บมจ.ไรมอนด์แลนด์ ร่วมมือกับ Mitsubishi Estate พัฒนาโครงการอาคารสำนักงานเกรด A ขนาดใหญ่ ชื่อโครงการ ONE CITY CENTER มูลค่าโครงการประมาณ 9,000 ล้านบาท เป็นโครงการ Mixed-Use สูง 61 ชั้น บนสัญญา Leasehold 30 ปีบนเนื้อที่กว่า 6 ไร่เศษ โดยจะมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 65,000 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566
- ส่วนที่ดินอีกแปลงที่มีการซื้อขายระดับราคาสูงถึง 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอี ที่ทาง SC Asset ซื้อไปในปี 2561 และตอนนี้ก็ได้พัฒนาเป็นโครงการ Scope Langsuan คอนโดมิเนียมระดับ Ultra Luxury เปิดขายแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ดังนั้นในวันนี้ทาง Zmyhome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 จะมานำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจในโซนเพลินจิต ทั้งสิ้น 7 โครงการ โดยแยกตามถนนที่โครงการตั้งอยู่ ได้แก่ ถนนเพลินจิต ถนนวิทยุ ซอยต้นสน ซอยนายเลิศ และซอยร่วมฤดี รวมถึงรายงานสถานการณ์ราคาคอนโดมิเนียมใหม่ในโซนนี้ ว่าตั้งแต่เปิดตัวถึงปี 2563 ราคาเสนอขายเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรครับ
ถนนเพลินจิต
โครงการที่มีทำเลติด BTS เพลินจิตมากที่สุด นั่นคือ โครงการ โนเบิล เพลินจิต อยู่บนถนนเพลินจิตข้าง Wave Place โครงการนี้มีจุดเด่นที่ Sky Walk จากคอนโดมิเนียมเข้า BTS เพลินจิตได้โดยตรง มีอาคารทั้งสิ้น 3 อาคาร สูง 14-51 ชั้น มีจำนวนยูนิต 1,442 ยูนิต ช่วงที่มีการเปิดตัวในปี 2554 มีราคาขายที่ 160,000-200,000 บาท/ตารางเมตร และก่อสร้างเสร็จกินเวลากว่า 6 ปี โดยสร้างเสร็จในปี 2560 ราคา ณ ปัจจุบันมีช่วงราคาที่กว้างเนื่องจากโครงการมีหลายตึกและแต่ละชั้นมีช่วงราคาที่ต่างกันมาก โดยราคาต่อตารางเมตรอยู่ระหว่าง 240,000 ไปจนถึง 400,000 บาท/ตารางเมตร
ถนนวิทยุ
บนถนนวิทยุฝั่งเหนือ (เพลินจิต-เพชรบุรี) เป็นถนนที่มีข้อจำกัดเรื่องถนนที่เป็น One-Way ตลอดทั้งเส้น บนถนนเส้นนี้มี 2 โครงการ ที่อยู่ใกล้ๆ กัน โครงการแรก คือ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส จาก AP เป็นโครงการที่อยู่เยื้องที่ดินของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) เป็นโครงการที่ว่ากันว่า Affordable สำหรับคนที่มีรายได้ระดับปานกลาง เนื่องจากโครงการได้ทำห้องพักขนาดเริ่มต้น 24 ตารางเมตร และห้องพัก Typical Room (ห้องพักส่วนใหญ่) ขนาด 35 ตารางเมตร และด้วยราคา ณ ปัจจุบันที่ 145,000-180,000 ทำให้ห้องพักมีราคา 3 ล้านปลายๆ – 5 ล้านต้นๆ ผู้กู้ที่มีรายได้ประมาณ 7 หมื่น – 1 แสนบาท ก็สามารถเป็นเจ้าของได้
ส่วนโครงการที่ 2 คือ อมัน นายเลิศ เรสซิเดนเซส กรุงเทพฯ ที่สร้างบนที่ดินของปาร์คนายเลิศขนาด 20 กว่าไร่ ข้างที่ดินของ BDMS เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 เป็นโครงการที่ประกอบด้วยส่วนเรสซิเดนเซสและโรงแรม สูง 36 ชั้น มีจำนวนยูนิต 50 สำหรับคอนโดมิเนียมและ 52 ยูนิตสำหรับโรงแรม ในส่วนห้องพักมีขนาด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ เริ่มต้น 104 ตารางเมตร ส่วนของโรงแรมเป็นห้องสวีททั้งหมด ราคาเปิดตัวมีราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท และโครงการคาดว่าจะเสร็จปลายปี 2566
98 Wireless เป็นโครงการ flagship ของแสนสิริ บนถนนวิทยุ (เพลินจิต-สารสิน) ไม่ใช่ถนน One-Way เหมือนฝั่งเหนือ เป็นโครงการรูปแบบ Freehold สร้างเสร็จก่อนขาย ในวันเปิดตัวปี 2560 มีราคาต่อตารางเมตรประมาณ 580,000 บาท ทำให้ห้องพักมีราคาระหว่าง 70-250 ล้านบาท เรียกได้ว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาทำเลนี้และสูงที่สุดที่มีมาในประเทศไทย ณ เวลานั้น ในปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นมาที่ 730,000 บาท/ตารางเมตร ทำให้ห้องพักเริ่มต้นสูงเกือบ 90 ล้านบาท และ ณ เวลานี้ก็ยังเป็นโครงการที่แพงที่สุดในทำเลวิทยุเหมือนเดิม
ซอยต้นสน
ข้อดีของซอยต้นสนคือเป็นซอยที่สวนกันได้และโครงการใหม่ในซอยต้นสนที่น่าจับตามอง คือ โครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการ Freehold ที่เปิดตัวไปเมื่อ 9 มิ.ย.2562 โดยในช่วงเปิดตัวมีราคาขายเริ่มต้น 20 ล้านบาท มีห้องพักเพียง 80 ยูนิตเท่านั้นและทุกห้องจะเป็นห้องมุมที่เปิดรับวิวได้เต็มพื้นที่ โครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จปี 2566 ส่วนราคา ณ ปัจจุบันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก ก็จะอยู่ราว ๆ 20-21 ล้านในห้องเริ่มต้น 57 ตารางเมตรครับ
ซอยนายเลิศ
คราฟท์ เพลินจิต – เป็นโครงการใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2563 ในซอยนายเลิศซึ่งเป็นซอยที่มีข้อจำกัดเรื่อง One-way เข้ามาจากซอยวิทยุ ทะลุออกถนนเพลินจิต แต่ก็เป็นซอยที่มีรถผ่านตลอดเพราะสามารถเลี้ยวขึ้นทางด่วนที่ด่านเพลินจิตฝั่งเหนือได้เลย โครงการนี้อยู่ห่างจาก BTS เพลินจิตประมาณ 220 เมตร เป็น Low-Rise ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงที่มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมถือว่าค่อนข้าง Challenge สำหรับคนออกแบบแต่ก็ได้ Palmer and Turner ทำให้การออกแบบมีจุดขายที่ห้อง Duplex โครงการมียูนิตเพียง 90 ยูนิต ห้องพักมีหลากหลายเริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปถึง 3 ห้องนอนและมี Duplex กับ Penthouse อีกด้วย ช่วง Presale มีราคาที่ 200,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนราคา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 200,000-220,000 บาท/ตารางเมตร สำหรับห้องเริ่มต้นก็จะประมาณ 7 ล้านกลาง ๆ
ซอยร่วมฤดี
โนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี – เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขายในราคาที่ผู้บริหารระดับกลาง/นักธุรกิจ SMEs ที่ต้องการคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิตจับต้องได้ ด้วยราคาเปิดตัวเริ่มต้น 130,000 บาท/ตารางเมตร ในห้องขนาด 54 ตารางเมตร ทำให้มีราคาเริ่มต้นที่ 7 ล้านกว่าบาท โครงการเป็น Low-Rise ในซอยร่วมฤดี ทำการ Renovate เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์แล้วมาทำเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขายขาด โดยยังคงเก็บโครงสร้างและการแบ่งห้องแบบเดิมไว้อยู่ จึงทำให้โครงการยังคงมีกลิ่นอายของความร่วมสมัย ลักษณะโครงการจะไม่ Modern และ Traditional เกินไป ตัวโครงการเปิดขายพร้อมเข้าอยู่ช่วงปี 2562 ประกอบด้วย 2 ตึก 8 ชั้น รวม 104 ยูนิต และมีที่จอดรถ หรือประมาณ 74 คัน หรือ 71% ราคา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 130,000-150,000 บาท/ตารางเมตร
โดยสรุปแล้ว ภาพรวมราคาคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิตไม่ได้ลดลงจากสถานการณ์ที่มีความพิเศษอย่าง Covid 19 เท่าใดนัก อาจเป็นเพราะว่าที่ดินที่จะใช้พัฒนาโครงการในโซนเพลินจิตหาได้ยากและยิ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Freehold ก็ถือว่าเป็น Rare Items ผู้เป็นเจ้าของเป็นชนชั้นนำในสังคมที่มีฐานะทางการเงินดี มองว่าในอนาคตหลังจากสถานการณ์ Covid 19 บรรเทาลงราคาจะขึ้น ส่งผลให้ได้รับ Capital Gain ในระดับที่น่าพึงพอใจ (ในสถานการณ์ปกติจะอยู่ที่ 3.6% ต่อปี) จึงทำให้ไม่มีคนมาขายตัดขาดทุน และอีกส่วนหนึ่งคงมองว่าการลงทุนในคอนโดระดับนี้เป็นการสนอง Emotional Needs ซึ่งหาไม่ได้ในโครงการระดับ Luxury ทั่ว ๆ ไป จึงเก็บไว้เป็นทรัพย์สินเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ทางสังคมและสนองความชอบส่วนตัว
สุดท้ายทาง Zmyhome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 ได้สรุปราคาต่อตารางเมตรของคอนโดมิเนียมทั้ง 7 โครงการ (พ.ย.63) ดังนี้
- โนเบิล เพลินจิต – ราคาปัจจุบัน 240,000 – 400,000 บาท/ตารางเมตร
- ไลฟ์ วัน ไวร์เลส - ราคาปัจจุบัน 145,000 – 180,000 บาท/ตารางเมตร
- อมัน นายเลิศ เรสซิเดนเซส กรุงเทพฯ – 450,000 บาท/ตารางเมตร
- 98 Wireless - ราคาปัจจุบัน 730,000 บาท/ตารางเมตร
- ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ - ราคาปัจจุบัน 360,000 – 400,000 บาท/ตารางเมตร
- คราฟท์ เพลินจิต - ราคาปัจจุบัน 200,000 – 220,000 บาท/ตารางเมตร
- โนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี - ราคาปัจจุบัน 130,000 – 150,000 บาท/ตารางเมตร
คราวหน้าอยากให้ ZmyHome ไปแนะนำโครงการน่าอยู่ในทำเลไหน ส่งข้อความทักทายเข้ามาได้ทางเฟสบุ๊ค ZmyHome.com บ้าน คอนโด เจ้าของขายเองอันดับ 1 นะครับ
จากใจ
Zmyhome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : ปวีณ Zmyhome