เทคนิคการเลือกคอนโดน่าลงทุน (2)
หลังจบพาร์ทแรกไปแล้ว มีใครลองเอาเทคนิค 5 ข้อแรกไปใช้คัดเลือกคอนโดที่อยากลงทุนไว้กันบ้างรึยังคะ ^^ ถ้ายังเลือกไม่ได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้เราไปต่อกันเลยค่า ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านพาร์ทแรก คลิกที่นี่ค่ะ >> เทคนิคการเลือกคอนโดน่าลงทุน (1)
6. ใช้เงินเย็นมาลงทุน ไม่รีบร้อนขาย
แม้ว่าคอนโดถือเป็นอสังหาฯที่มีสภาพคล่องสูงสุด แต่ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาคนเช่าหรือหาคนซื้อต่อ ไม่ง่ายเหมือนหุ้นที่สั่งขายปุ๊บก็ทำได้ทันที ดังนั้น การใช้เงินเย็นมาลงทุนทำให้ไม่จำเป็นต้องรีบขาย สามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมให้ได้รับกำไรสูงสุด แต่หากไม่มีเงินก้อนใหญ่หรือไม่อยากใช้เงินเย็นลองใช้เทคนิคข้อต่อไปดูค่ะ
7. หาดอกเบี้ยเงินกู้ถูกสุด เทียบหลายธนาคาร
ดอกเบี้ยเงินกู้ถือเป็นต้นทุนหลักสำหรับการลงทุน เราควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้อย่างน้อย 5 ธนาคาร แล้วยื่นกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่เสียดอกเบี้ยต่ำสุด วงเงินกู้ได้ตามต้องการ และมีเงื่อนไขรับได้ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก โดยการซื้อคอนโดใหม่กับแบรนด์ดังมีข้อดีตรงที่มักได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคาร
8. ผลตอบแทนแบบไม่มโน ต้องคุ้มกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ครอบคลุมดอกเบี้ยเงินกู้
อย่าลืมหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าโครงการแถวนั้น เกรดและขนาดห้องคล้ายกันปล่อยเช่าที่เท่าไร จากนั้นนำมาคำนวณกับห้องที่เราจะซื้อลงทุนโดย คิดจากค่าเช่าต่อเดือน คูณ 12 แล้วหารด้วยราคาคอนโดที่ซื้อมา แล้วคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ หากได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 4-5% ก็ถือว่าดี เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ อีกตัวเลือกหนึ่งที่จะได้ผลตอบแทนทันทีคือซื้อคอนโดมือสองที่ขายพร้อมผู้เช่า ค่าเช่าไม่มโนแน่นอน
9. ตกแต่งห้องให้ครบ คุมงบให้อยู่
คนเช่ามักเลือกห้องที่ตกแต่งพร้อมสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ดังนั้น เจ้าของควรเตรียมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นให้พร้อม ซึ่งเฟอร์นิเจอร์มีแบบวางลอยกับบิวท์อิน แบบวางลอยถูกกว่าเยอะ ย้ายที่ได้ เปลี่ยนง่ายกว่า แต่สวยน้อยกว่า ส่วนเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินตกแต่งลงตัวทุกมุมโค้งเว้า ใช้สอยได้เต็มพื้นที่ จะสามารถอัพราคาเช่าได้ดีกว่า
10. เลือกคนเช่าให้ดี จ่ายตรง ไม่ทำห้องพัง
ทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่ามีสิทธิ์เลือกทั้งคู่ ดังนั้น ผู้เช่าที่ดูไม่น่าไว้วางใจก็ปฏิเสธได้ เจ้าของห้องควรถามคำถามกับคนที่จะมาเช่าให้รู้เรื่อง (Know Your Customer) โดยตั้งคำถามว่าทำงานอะไรเพื่อดูความสามารถชำระค่าเช่า อยู่กันกี่คน ทำอาหารผัดกับข้าวในห้องไหม สูบบุหรี่หรือไม่ ทำความสะอาดห้องบ่อยไหม เพื่อประเมินว่าห้องจะมีสภาพเช่นไรหลังจากปล่อยเช่าให้คนเช่ารายนี้
11. หาคนเช่าให้เป็น ไม่ปล่อยห้องว่างนาน
ตลาดคอนโดไม่ง่ายเหมือนตลาดหุ้น การหาคนเช่าที่ดีได้เร็วเป็นเรื่องท้าทาย เพราะถือเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สำคัญ ดังนั้น ควรลงประกาศผ่านหลายช่องทาง และเมื่อคนเช่าจะย้ายออกก็รีบหาคนใหม่แทน ซึ่งระยะเวลาหาไม่ควรเกิน 3 เดือน ถ้านานกว่านี้ควรให้นายหน้าช่วยหาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่นักลงทุนเลือกใช้ เพราะได้ผู้เช่าเร็วนั่นเท่ากับว่าได้ค่าตอบแทนกลับมาเร็วเช่นกัน
ศึกษาเคล็ดลับทั้ง 11 เทคนิคนี้แล้ว ก็ลองออกไปเลือกซื้อคอนโดที่อยากลงทุนกันเลยค่า ^ ^
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากคุณ Maibat Guru Financial ค่ะ
6. ใช้เงินเย็นมาลงทุน ไม่รีบร้อนขาย
แม้ว่าคอนโดถือเป็นอสังหาฯที่มีสภาพคล่องสูงสุด แต่ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาคนเช่าหรือหาคนซื้อต่อ ไม่ง่ายเหมือนหุ้นที่สั่งขายปุ๊บก็ทำได้ทันที ดังนั้น การใช้เงินเย็นมาลงทุนทำให้ไม่จำเป็นต้องรีบขาย สามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมให้ได้รับกำไรสูงสุด แต่หากไม่มีเงินก้อนใหญ่หรือไม่อยากใช้เงินเย็นลองใช้เทคนิคข้อต่อไปดูค่ะ
7. หาดอกเบี้ยเงินกู้ถูกสุด เทียบหลายธนาคาร
ดอกเบี้ยเงินกู้ถือเป็นต้นทุนหลักสำหรับการลงทุน เราควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้อย่างน้อย 5 ธนาคาร แล้วยื่นกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่เสียดอกเบี้ยต่ำสุด วงเงินกู้ได้ตามต้องการ และมีเงื่อนไขรับได้ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก โดยการซื้อคอนโดใหม่กับแบรนด์ดังมีข้อดีตรงที่มักได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคาร
8. ผลตอบแทนแบบไม่มโน ต้องคุ้มกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ครอบคลุมดอกเบี้ยเงินกู้
อย่าลืมหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าโครงการแถวนั้น เกรดและขนาดห้องคล้ายกันปล่อยเช่าที่เท่าไร จากนั้นนำมาคำนวณกับห้องที่เราจะซื้อลงทุนโดย คิดจากค่าเช่าต่อเดือน คูณ 12 แล้วหารด้วยราคาคอนโดที่ซื้อมา แล้วคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ หากได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 4-5% ก็ถือว่าดี เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ อีกตัวเลือกหนึ่งที่จะได้ผลตอบแทนทันทีคือซื้อคอนโดมือสองที่ขายพร้อมผู้เช่า ค่าเช่าไม่มโนแน่นอน
9. ตกแต่งห้องให้ครบ คุมงบให้อยู่
คนเช่ามักเลือกห้องที่ตกแต่งพร้อมสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ดังนั้น เจ้าของควรเตรียมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นให้พร้อม ซึ่งเฟอร์นิเจอร์มีแบบวางลอยกับบิวท์อิน แบบวางลอยถูกกว่าเยอะ ย้ายที่ได้ เปลี่ยนง่ายกว่า แต่สวยน้อยกว่า ส่วนเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินตกแต่งลงตัวทุกมุมโค้งเว้า ใช้สอยได้เต็มพื้นที่ จะสามารถอัพราคาเช่าได้ดีกว่า
10. เลือกคนเช่าให้ดี จ่ายตรง ไม่ทำห้องพัง
ทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่ามีสิทธิ์เลือกทั้งคู่ ดังนั้น ผู้เช่าที่ดูไม่น่าไว้วางใจก็ปฏิเสธได้ เจ้าของห้องควรถามคำถามกับคนที่จะมาเช่าให้รู้เรื่อง (Know Your Customer) โดยตั้งคำถามว่าทำงานอะไรเพื่อดูความสามารถชำระค่าเช่า อยู่กันกี่คน ทำอาหารผัดกับข้าวในห้องไหม สูบบุหรี่หรือไม่ ทำความสะอาดห้องบ่อยไหม เพื่อประเมินว่าห้องจะมีสภาพเช่นไรหลังจากปล่อยเช่าให้คนเช่ารายนี้
11. หาคนเช่าให้เป็น ไม่ปล่อยห้องว่างนาน
ตลาดคอนโดไม่ง่ายเหมือนตลาดหุ้น การหาคนเช่าที่ดีได้เร็วเป็นเรื่องท้าทาย เพราะถือเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สำคัญ ดังนั้น ควรลงประกาศผ่านหลายช่องทาง และเมื่อคนเช่าจะย้ายออกก็รีบหาคนใหม่แทน ซึ่งระยะเวลาหาไม่ควรเกิน 3 เดือน ถ้านานกว่านี้ควรให้นายหน้าช่วยหาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่นักลงทุนเลือกใช้ เพราะได้ผู้เช่าเร็วนั่นเท่ากับว่าได้ค่าตอบแทนกลับมาเร็วเช่นกัน
ศึกษาเคล็ดลับทั้ง 11 เทคนิคนี้แล้ว ก็ลองออกไปเลือกซื้อคอนโดที่อยากลงทุนกันเลยค่า ^ ^
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากคุณ Maibat Guru Financial ค่ะ
