บิ๊กอสังหาฯ แห่เปิดโครงการแสนล้านสวนโควิด
แม้ขณะนี้เศรษฐกิจโลกและประเทศไทย กลับมามีความเปราะบางอีกครั้ง จากการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ "โอมิครอน" ลุกลามระบบสาธารณสุข จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวสู่จุดสูงสุดในรอบหลายเดือน เปิดฉากทัศน์ ความเสียหายครั้งใหม่ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเลวร้ายสุดช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไทยอาจติดเชื้อมากกว่า 3 หมื่นรายต่อวัน ฉุดภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้ล่าช้าออกไปอีก
อย่างไรก็ตาม ภาพความน่ากังวลของการระบาดระลอกที่ 5 คงไม่น่ากลัวเท่า การล้มหายตายจากของภาคธุรกิจไทย หากยังชะลอการลงทุน หยุดโอกาสสร้างรายได้ใหม่ ๆ อีกทั้ง กรณีกรมควบคุมโรคเตรียมประกาศ "โรคโควิด-19" เป็นโรคประจำถิ่น สะท้อนความรุนแรงของโรคต่ำลงแล้ว จึงเริ่มเห็นภาคเอกชนประเมินความเสี่ยง และออกมาลงทุนตามจังหวะอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเดิมปี 2565 เปิดศักราชการลงทุนใหม่ล็อตแรกอย่างน่าสนใจ ท่ามกลางความเชื่อมั่นตลาดปีนี้จะฟื้นตัวได้ดี แม้ยอมรับมีโจทย์ยากและหินรอท้าทายอยู่ จากภาพกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ และแนวโน้มต้นทุนที่แพงขึ้นทั้งราคาที่ดิน, ภาษีที่ดิน รวมถึงเงินเฟ้อ ดันเทรนด์ขาขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานอีกด้วย
แสนสิริผุดใหม่ 5 หมื่นล้าน
สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในแง่การระดมทุน และโมเดลธุรกิจอย่างน่าจับตาตั้งแต่ต้นปี สำหรับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กางแผนธุรกิจปี 2565 ว่าเตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 46 โครงการ มูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท นับหนึ่งวัฎจักรการเติบโตครั้งใหม่ เป้าหมาย 3 ปี (2565-2567) เปิดโครงการใหม่รวม 1.5 แสนล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขาย - ยอดโอนปีนี้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท กินรวบตลาดบ้าน-คอนโดฯ ตั้งแต่ล้านต้นถึงระดับไฮเอนด์
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ระบุ แม้สถานการณ์ ปี 2565 มีความเสี่ยงรอบด้านจากโอมิครอน, สินค้าราคาแพง และหนี้ครัวเรือน รวมถึงปัจจัยลบทางการเมือง แรงกดดันเสถียรภาพของรัฐบาล แต่บริษัทมั่นใจหลังมีสภาพคล่องทางการเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท สูงสุดในอุตสาหกรรม พร้อมรองรับทุกสถานการณ์ ประกาศพันธกิจ "เติบโต ยั่งยืน ทุกมิติ" เน้นกระจายสัดส่วนสินค้าระดับราคาเข้าถึงได้ 50% (เริ่ม 1 ล้านบาท) และสินค้าระดับบน-พรีเมียม อีก 50% เจาะเรียลดีมานด์ (ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง) เป็นหลัก โดยจะเร่งเครื่องธุรกิจตั้งแต่ไตรมาสแรกเปิดตัวโครงการใหม่ราว 13 โครงการ
"เปิดปีใหม่ อสังหาฯ เผชิญปัจจัยลบหลายเรื่อง ความเปราะบางหนี้ครัวเรือน อาจส่งผลให้อัตราการปฎิเสธสินเชื่อมากขึ้น แต่หวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและไม่ประกาศล็อกดาวน์ เรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคร้าย เพื่อให้การค้าขาย กิจกรรมเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ เราในฐานะเบอร์ใหญ่พร้อมลงทุน"
ลลิล ลุยลงทุนใหม่ฝ่าเงินเฟ้อ
ขณะซีอีโอรุ่นเก๋า นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล เปิดแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ลุ้นภาคส่งออก การบริโภค-การลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยว จะผลักดันจีดีพีไทย (การเติบโตทางเศรษฐกิจ) โตได้ราว 3-4% และดันคนในระบบภาคการท่องเที่ยว 5-7 ล้านคนออกมาจับจ่ายใช้สอย เป็นแรงส่งต่อภาคที่อยู่อาศัย โดยมีปัจจัยบวกเรื่องมาตรการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จำนองที่อยู่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท, การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV และดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ยืนอัตราต่ำ เป็นแรงหนุนสำคัญ ทำให้อสังหาฯ ฟื้น ประเมินโตได้ราว 10%
กางแผนปี 2565 ลุยเปิดโครงการใหม่แนวราบบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม 10-12 โครงการ ราคาตั้งแต่ 2-12 ล้านบาท เช่น แบรนด์ ไลโอ ฯล มูลค่ารวม 7- 8 พันล้านบาท มากกว่าปีก่อนหน้า ภายใต้เป้ายอดขาย 8.5 พันล้านบาท และเป้าหมายการรับรู้รายได้ที่ 7.2 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน เตรียมงบซื้อที่ดินใหม่ไว้ที่ 1-1.2 พันล้านบาท อีกด้วย แม้ยอมรับปีนี้ไม่ง่าย
พฤกษาปีนี้ลุยเปิด 3 หมื่นล้าน
ด้านเจ้าใหญ่ของอุตสาหกรรม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท โดย นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ระบุ เปิดโครงการใหม่ทั้งหมดในปีนี้ 31-35 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด เน้นทาวน์เฮ้าส์กลุ่ม 3-5 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 5-7 ล้านบาท รวมถึงระบุว่าจะกลับมาเปิดคอนโดฯใหม่อีกครั้ง อย่างต่ำ 6 โครงการ เจาะกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท หลังจากเชื่อมั่นว่า ลูกค้าต่างชาติ อย่างชาวจีนจะกลับมาได้ในปีนี้
เจาะโมเดลธุรกิจของพฤกษา นอกจากเน้นทำเลที่ตั้ง, ดีไซน์พ่วงด้านสุขภาพแล้ว หัวใจสำคัญ คือ การบริหารต้นทุน ลดการใช้แรงงานภายใน ผ่านการว่าจ้างคู่ค้าแทนการทำเองทั้งหมดอย่างในอดีต เป็นการลุยลงทุนแบบรัดกุม ประเมินความเสี่ยงรอบทิศ
"พฤกษาผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ปีนี้วางเป้าหมายเติบโต 20% อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจยุคนี้ สำคัญสุด คือ การบริหารสภาพคล่อง ต่อให้แบงก์ไม่ปล่อยกู้ ต้องมีเลือด-มีน้ำหล่อเลี้ยงบริษัท ขณะเดียวกัน เราจะลงทุนใหม่ ก็ต่อเมื่อเห็นว่าคุ้ม สร้างบ้านต้องได้เงิน"
ศุภาลัยบุกคอนโดฯต่ำ 3 ล้าน
ขณะอีกค่ายใหญ่ บมจ.ศุภาลัย แม้ยังไม่เปิดเผยแผนธุรกิจของปีนี้อย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด เปิดโครงการคอนโดฯใหญ่ ตัดหน้าคู่แข่งในตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 2 ล้านบาท ผ่านโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง อาคารสูง 18 ชั้น มูลค่า 3.2 พันล้านบาท จำนวน 1,302 ยูนิต ใกล้ MRT สถานีวงศ์สว่าง เปิดพรีเซล 22-23 ม.ค.นี้ นับเป็นจิกซอว์ตัวที่ 1 ของศุภาลัย ที่เข้ามาเขย่าตลาดคอนโดฯ
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท ประเมินตลาดคอนโดฯ จะเริ่มฟื้น โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตลาดกำลังซื้อคนไทยมาแรง จากสัญญาณที่พลิกฟื้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าพร้อมอยู่ ส่วนโครงการใหม่พรีเซล ปีนี้น่าจะเริ่มกลับมา สำคัญคือราคาต้องสอดคล้องกับความต้องการด้านพื้นที่ของผู้บริโภคยุคใหม่ด้วย ฉะนั้นภาระหนัก คือ การบริหารต้นทุน
เจ้าพ่อ BOI เขย่า 8 พันยูนิต
อีกความเคลื่อนไหวน่าจับตามอง แง่การลงทุนใหม่ขนาดใหญ่ในปีนี้ โดย บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น "เจ้าตลาดคอนโดฯ BOI (ราคาถูก)" เตรียมปั้มโครงการขนาดยักษ์ถึง 2 ทำเล รวมกันมากกว่า 8,000 ยูนิต ได้แก่ โครงการ "รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ" ตึกสูง 2 อาคาร (37 ชั้น และ 38 ชั้น) รวมจำนวน 3,098 ยูนิต ใกล้สถานี BTS วุฒากาศ ขายราคาเดียว 1.2 ล้านบาททั้งโครงการ อีกทำเล บนไพร์ม แอเรีย เส้นเลือดใหญ่สู่ประตูอีอีซี ใกล้สถานี BTS บางนา โครงการ "รีเจ้นท์ โฮม บางนา" ใกล้แยกบางนา ตึกสูงรวม 4 อาคาร จำนวนมากถึง 5,007 ยูนิต นับเป็นความหาญกล้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โอมิครอน"
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ภาพประกอบ : Business photo created by evening_tao - www.freepik.com