ผ่อนบ้านไปหลายปีแล้ว ขอกู้เพิ่มได้มั้ย?
โดย เกศรา ZmyHome
คำถามยอดฮิตภาวะเศรษฐกิจฝืดๆ ยามสิ้นปีนี้ก็คงหนีไม่พ้นการหาเงินมาหมุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองและครอบครัวหรือเพื่อธุรกิจที่กำลังทำอยู่ ผู้ที่ไม่ทราบก็อาจจะต้องใช้เงินเก็บ เงินฉุกเฉินออกมาใช้ กู้นอกระบบ ใช้กดเงินสดบัตรเครดิต หรือหยิบยืมญาติมิตรมาเพื่อให้ผ่านวิกฤติไปได้
ผู้ที่มีสินเชื่อบ้านกับธนาคารอยู่แล้ว สามารถขอสินเชื่อเพิ่มได้กับธนาคารที่ผ่อนค่าบ้านอยู่ โดยต้องเป็นลูกหนี้ที่ดีไม่มีผิดนัดล่าช้าหรือค้างชำระอย่างน้อย 12 เดือน หรือ 1 ปี และผู้กู้ต้องทำงานมีรายได้ปกติเหมือนเดิมเหมือนตอนยื่นสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยของสินเชื่อก้อนนี้ก็จะเป็นดอกเบี้ยอีกแบบหนึ่งซึ่งแพงกว่า ไม่เหมือนกับดอกเบี้ยบ้าน เพราะวัตถุประสงค์การใช้เงินคือใช้เรื่อยเปื่อย ใช้จ่ายทั่วไป เอาไปจ่ายอะไรก็ได้เพื่อการอุปโภค บริโภค ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยเหมือนเดิม เพียงแต่ใช้บ้านหลังเดียวกันเพื่อค้ำประกันหนี้ก้อนใหม่
เนื่องจากบ้านและที่ดินมีมูลค่าเพิ่ม บวกกับยอดหนี้ที่จ่ายไปลดลง ทำให้มีส่วนต่าง แต่ดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับสินเชื่อก้อนนี้เอาไปลดหย่อนภาษีไม่ได้ ไม่เหมือนกับดอกเบี้ยบ้าน ขอยกตัวอย่างผู้กู้รายหนึ่ง คุณสุวัจนีมีสินเชื่อบ้านที่กู้ร่วมกับสามีตอน ส.ค.48 1 ล้านบาท ผ่านไปจนถึง ส.ค.57 ยอดหนี้เหลือประมาณ 4 แสนบาท เธอจึงมากู้สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม เพิ่มสุข เคหะเพิ่มยอด ที่ชื่อแตกต่างกันไปแต่ละธนาคารอีก 3 แสนบาท
ความจริงอาจจะกู้ได้เพิ่มจนถึงยอดหนี้เดิมคือ 1 ล้าน แต่ความสามารถจ่ายเงินงวดที่คิดจากรายได้ปัจจุบัน ณ ตอนนั้นของคุณสุวัจนีและสามีไม่ถึงจึงได้ไม่เท่าส่วนต่างที่จ่ายไป ผ่านมาถึง พ.ย.58 ครบ 1 ปี คุณสุวัจนีติดใจจึงมาถามว่ากู้เพิ่มได้อีกมั้ย ตรวจดูแล้วพบว่าคุณสุวัจนีจ่ายดีมีวินัยในการใช้หนี้มาก จึงขอเอกสารส่วนตัวและรายได้ ปรากฏว่าคุณสุวัจนีตกงาน และรายได้ของสามีคนเดียวไม่พอ จึงไม่สามารถกู้ยอดใหม่เพิ่มได้ คุณสุวัจนีเลยต้องคอตกแล้วไปหาทางหมุนเงินใหม่ในสภาวะตกงานกับเศรษฐกิจฝืดๆ เราก็เสียใจเนื่องจากเป็นบ้านที่กู้ร่วมจึงต้องแสดงรายได้ร่วม ถึงแม้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกงานต้องใช้รายได้จากทางฝ่ายเดียวก็ต้องมีเหลือเพียงพอจ่ายเงินงวด
สรุปคือ บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มทุกๆ ปี หนี้ที่จ่ายค่าบ้านตรงเวลามีคุณค่า สามารถช่วยชีวิตได้ยามจำเป็น งานที่ทำอยู่เกาะเก้าอี้ไว้ให้แน่นๆ อย่าเพิ่งตกงานระหว่างทำเรื่องสินเชื่อ แล้วจะหาว่าคุณสุวัจนีไม่เตือนนะจ๊ะ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
คำถามยอดฮิตภาวะเศรษฐกิจฝืดๆ ยามสิ้นปีนี้ก็คงหนีไม่พ้นการหาเงินมาหมุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองและครอบครัวหรือเพื่อธุรกิจที่กำลังทำอยู่ ผู้ที่ไม่ทราบก็อาจจะต้องใช้เงินเก็บ เงินฉุกเฉินออกมาใช้ กู้นอกระบบ ใช้กดเงินสดบัตรเครดิต หรือหยิบยืมญาติมิตรมาเพื่อให้ผ่านวิกฤติไปได้
ผู้ที่มีสินเชื่อบ้านกับธนาคารอยู่แล้ว สามารถขอสินเชื่อเพิ่มได้กับธนาคารที่ผ่อนค่าบ้านอยู่ โดยต้องเป็นลูกหนี้ที่ดีไม่มีผิดนัดล่าช้าหรือค้างชำระอย่างน้อย 12 เดือน หรือ 1 ปี และผู้กู้ต้องทำงานมีรายได้ปกติเหมือนเดิมเหมือนตอนยื่นสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยของสินเชื่อก้อนนี้ก็จะเป็นดอกเบี้ยอีกแบบหนึ่งซึ่งแพงกว่า ไม่เหมือนกับดอกเบี้ยบ้าน เพราะวัตถุประสงค์การใช้เงินคือใช้เรื่อยเปื่อย ใช้จ่ายทั่วไป เอาไปจ่ายอะไรก็ได้เพื่อการอุปโภค บริโภค ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยเหมือนเดิม เพียงแต่ใช้บ้านหลังเดียวกันเพื่อค้ำประกันหนี้ก้อนใหม่
เนื่องจากบ้านและที่ดินมีมูลค่าเพิ่ม บวกกับยอดหนี้ที่จ่ายไปลดลง ทำให้มีส่วนต่าง แต่ดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับสินเชื่อก้อนนี้เอาไปลดหย่อนภาษีไม่ได้ ไม่เหมือนกับดอกเบี้ยบ้าน ขอยกตัวอย่างผู้กู้รายหนึ่ง คุณสุวัจนีมีสินเชื่อบ้านที่กู้ร่วมกับสามีตอน ส.ค.48 1 ล้านบาท ผ่านไปจนถึง ส.ค.57 ยอดหนี้เหลือประมาณ 4 แสนบาท เธอจึงมากู้สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม เพิ่มสุข เคหะเพิ่มยอด ที่ชื่อแตกต่างกันไปแต่ละธนาคารอีก 3 แสนบาท
ความจริงอาจจะกู้ได้เพิ่มจนถึงยอดหนี้เดิมคือ 1 ล้าน แต่ความสามารถจ่ายเงินงวดที่คิดจากรายได้ปัจจุบัน ณ ตอนนั้นของคุณสุวัจนีและสามีไม่ถึงจึงได้ไม่เท่าส่วนต่างที่จ่ายไป ผ่านมาถึง พ.ย.58 ครบ 1 ปี คุณสุวัจนีติดใจจึงมาถามว่ากู้เพิ่มได้อีกมั้ย ตรวจดูแล้วพบว่าคุณสุวัจนีจ่ายดีมีวินัยในการใช้หนี้มาก จึงขอเอกสารส่วนตัวและรายได้ ปรากฏว่าคุณสุวัจนีตกงาน และรายได้ของสามีคนเดียวไม่พอ จึงไม่สามารถกู้ยอดใหม่เพิ่มได้ คุณสุวัจนีเลยต้องคอตกแล้วไปหาทางหมุนเงินใหม่ในสภาวะตกงานกับเศรษฐกิจฝืดๆ เราก็เสียใจเนื่องจากเป็นบ้านที่กู้ร่วมจึงต้องแสดงรายได้ร่วม ถึงแม้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกงานต้องใช้รายได้จากทางฝ่ายเดียวก็ต้องมีเหลือเพียงพอจ่ายเงินงวด
สรุปคือ บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มทุกๆ ปี หนี้ที่จ่ายค่าบ้านตรงเวลามีคุณค่า สามารถช่วยชีวิตได้ยามจำเป็น งานที่ทำอยู่เกาะเก้าอี้ไว้ให้แน่นๆ อย่าเพิ่งตกงานระหว่างทำเรื่องสินเชื่อ แล้วจะหาว่าคุณสุวัจนีไม่เตือนนะจ๊ะ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
