เลือกชนิดไม้อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การที่มีบ้านไม้และของตกแต่งที่มีไม้เป็นส่วนประกอบต้องอาศัยการดูแลเพื่อให้ไม้นั้นอยู่กับเราไปนานแสนนาน ซึ่งก่อนจะเข้าสู่การดูแลรักษานั้น การเลือกใช้ไม้ให้ถูกกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราจะได้รู้ว่า ไม้ชนิดใดสามารถทนทานต่ออะไรได้ เพราะเมื่อเรารู้ลักษณะและคุณสมบัติของไม้แต่ละชิ้นกันแล้ว เราก็จะสามารถนำไปเลือกไม้เพื่อนำไม้นั้นๆ ไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกมาทำเฟอร์นิเจอร์หรือสามารถนำไปเป็นความรู้เพื่อสอบถามเวลาเลือกซื้อได้ว่า เฟอร์นิเจอร์ อย่าง เตียง โต๊ะ ตู้ หรือประตูบ้านนั้นๆ ทำมาจากไม้ชนิดใด เราจะได้เลือกซื้อได้อย่างถูกใจกันเลยค่ะ
เริ่มจากเรามารู้จักประเภทไม้ในบ้านเราก่อนเลยดีกว่า ด้วยภูมิอากาศในบ้านเราที่ร้อนอบอ้าว ซึ่งส่งผลต่อลักษณะและคุณสมบัติของไม้ ทำให้ไม้มีสีเข้ม สีแดง หรือสีน้ำตาลเข้ม และส่วนใหญ่ก็จะเป็นไม้เนื้อแข็งแตกต่างจากไม้ในโซนยุโรป ซึ่งไม้มีสีไม่เข้มมากเท่าบ้านเรา หรือส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไม้สีอ่อน เราสามารถแบ่งชนิดของไม้ได้เป็น ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ด้วยลักษณะคุณสมบัติของไม้แต่ละชนิด ทำให้การนำเอาไปใช้งานนั้นแตกต่างกันออกไป เริ่มจากไม้ยอดนิยมอย่างไม้สักกันเลยดีกว่าค่ะ
• ไม้สัก
เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีลวดลายสวยงามและคุณภาพดีที่สุด เนื้อไม้มีสีน้ำตาลทอง ผิวลาย ไม้ตรง ละเอียดสวยงาม ไม้เกิดการบิดงอโก่งตัวได้ยาก ไม้สักเป็นไม้ที่มีอายุมาก แถมยังมีกลิ่นที่ปลวกไม่ชอบอีกด้วย จึงทำให้ไม้สักมีราคาที่แพงมาก ไม้สักที่ดีที่สุด คือ ไม้สักทอง ซึ่งในสมัยนี้ ค่อนข้างหาได้ยากมาก ไม่มีการนำมาใช้เป็นไม้จริงล้วนๆ ทำให้ไม้สักจึงมีราคาที่แพงมาก นิยมนำมาทำเป็นไม้วีเนียร์เพื่อใช้ปะผิวไม้ชนิดอื่นแทน จึงนิยมเลือกใช้ไม้ชนิดนี้เป็นส่วนประกอบโครงสร้างหรือส่วนที่ต้องการความสวยงามประณีต เช่น บานประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์• ไม้มะค่า
ลักษณะไม้มีสีน้ำตาลเข้มอมส้ม ไม้มะค่าก็เป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่นิยมมาก ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีคือ เนื้อไม้มีความแข็งแรงมาก สีไม้และเส้นลวดลายไม้ชัดเจนสวยงาม คนจึงนิยมใช้กันมาก ซึ่งนำมาใช้เป็น พื้นไม้ พื้นบันได หรือส่วนโครงสร้างในบ้านที่ต้องการโชว์ให้เห็นผิวไม้ที่มีความสวยงาม ทำให้ปัจจุบันไม้มะค่าหายากและมีราคาแพง ไม้มะค่าบางส่วนจึงนำเข้ามาจากทางแอฟริกา ซึ่งภูมิอากาศแถบนั้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับบ้านเรา แต่สีของไม้จะไม่สวยและเข้มเท่าไม้มะค่าในประเทศเราเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม้มะค่าจะมีราคาแพงกว่าไม้แดง• ไม้ยางพารา
ต้นยางพาราเป็นต้นไม้โตเร็ว ในสมัยก่อนยังไม่ค่อยมีการนำมาใช้ในลักษณะของไม้แปรรูป แต่จากการที่ไม้ยางโตเร็วและมีมาก ทำให้สามารถนำมาใช้ในระบบอุตสาหกรรมได้ แต่เนื่องจากต้นยางนั้นจะมีสารอาหารของปลวกและเชื้อรา ทำให้เกิดการพัฒนากระบวนการปรับปรุงคุณภาพของไม้ด้วยการอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้งเพื่อให้เนื้อไม้คงทนแข็งแรง ทำให้สามารถนำมาใช้งานได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม้ยางพารานั้น ราคาไม่แพง สามารถหาได้ง่าย และมีข้อดีอีกอย่างคือ เป็นไม้สีอ่อน ทำให้สามารถนำไปทำสีได้ง่ายด้วย ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานมาก และนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของบ้านด้วยเช่นกัน เช่น ประตู วงกบประตู ไม้พื้นบันได และเฟอร์นิเจอร์• ไม้แดง
ลักษณะไม้มีสีน้ำตาลเข้มอมแดง ผิวลายไม้มีความชัดเจน เนื้อไม้มีความแข็งแรงทนทาน มีราคาแพงและสัมผัสผิวลาย สีสันของไม้ที่มีความสวยงาม ทำให้นิยมนำมาใช้ในส่วนประกอบโครงสร้างที่เห็นได้ชัด อย่างเช่น พื้น วงกบประตู หน้าต่าง แต่ไม่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้อไม้มีความแข็งทำให้ขัดแต่งได้ยาก• ไม้จำปา
ลักษณะเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อนจึงสามารถย้อมทำสีได้ง่าย เนื้อไม้ละเอียด เสี้ยนน้อยแต่ไม่คงทนต่อความชื้น ดังนั้นควรใช้ในส่วนของงานภายในอาคาร เช่น ประตู ในสมัยก่อนไม่นิยมนำไม้จำปามาใช้ในส่วนประกอบของบ้าน เนื่องจากสมัยก่อนนิยมใช้ไม้จำปาเป็นไม้สำหรับต่อโลงศพ คนส่วนใหญ่ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ ก็จะไม่นิยมใช้ไม้ชนิดนี้สำหรับสร้างบ้าน แต่ปัจจุบันในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปก็จะเห็นว่ามีการใช้ไม้จำปามากขึ้น• ไม้มะม่วง ทุเรียน ขนุน
เรียกได้ว่าเป็นไม้หัวไร่ปลายนา เกิดจากการที่หาได้ง่าย มีมากและราคาถูก แต่เป็นไม้เนื้ออ่อน ที่จำเป็นต้องนำมาผ่านกรรมวิธีอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไม้ มาทำ เฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้ออ่อน สามารถไส ตัด ตกแต่งได้ง่ายจากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ