อสังหารุกขายออนไลน์ ราคาขึ้น 5 % ทุกปี
ฮิพแฟลตย้ำเมืองไทยรุ่ง ชูฟังก์ชั่นตรวจสอบประกาศเรียกเชื่อมั่น
อสังหาฯ ยังรุ่ง ฮิพแฟลตรุกหนักเว็บไซต์ค้นหาอสังหาฯ ดึงเทคโนโลยีพร็อพเทค-บล็อกเชนขยายตลาด
นายเดนิส เนมท์เซฟ ผู้ก่อตั้งและบริหาร บริษัท ฮิพแฟลต ไทยแลนด์ (Hipflat) เว็บไซต์ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาขายและให้เช่ายังไม่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับในฮ่องกงและสิงคโปร์ จึงทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุน การเข้ามาอยู่อาศัยเพื่อทำงาน รวมไปถึงการมาพักอาศัยในจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวระยะยาว โดยเฉพาะราคาขายคอนโดในไทยมีการขยับขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 5%
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเว็บไซต์อสังหาฯ และตัวแทนอสังหาฯ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาด ทั้งปัญหาข้อมูลที่ล้าสมัยไม่ถูกต้อง ข้อมูลไม่ครบถ้วนทำให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจและไม่น่าเชื่อถือ บริษัทจึงได้นำ Domus Protocol ซอฟต์แวร์เทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้เพื่อผลักดันให้ตลาด อสังหาฯ ออนไลน์มีความโปร่งใส ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือล่าสุดเพื่อเก็บข้อมูลจาก ผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือ Crowd-Sourced โดยจะให้รางวัลแก่สมาชิกที่ร่วมให้ข้อมูลที่มีคุณภาพอีกด้วย
"ข้อมูลทั่วโลกกว่า 90% ของประกาศออนไลน์บนเว็บไซต์อสังหาฯ มักมีข้อมูลที่ไม่อัพเดท ข้อมูลไม่ครบถ้วน สร้างความสับสนเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของประกาศนั้นๆ และไม่รู้ว่าราคาเท่าใด ผลที่ตามมาคือตลาดอสังหาฯ ที่ไม่มีศักยภาพเหล่านี้ทั้งในไทย ตลอดจนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอื่นทั่วโลกจะไม่ได้รับความไว้วางใจของประกาศ" นายเนมท์เซฟ กล่าว
นอกจากนี้ ความหลากหลาย การแข่งขันที่สูงของตลาดอสังหาฯ และการเช่าในประเทศไทยเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อเจ้าของ ผู้ซื้อ และผู้เช่า ในการทำธุรกรรมที่ถูกต้องและปัญหานี้ยังกระทบกับสภาพคล่องของตลาดอีกด้วย แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอสังหาฯ ไทยกำลังไปได้ดีเหนือกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่หลายประเทศทั่วโลกก็ยังล้าหลังกว่าสหรัฐอเมริกาที่มีการควบคุมเรื่องความโปร่งใส รวมถึงบทลงโทษ เช่น หากประกาศขายทรัพย์ชิ้นนั้นมีการขายไปแล้ว แต่ประกาศยังไม่ถูกลบออกไปจะต้องเสียค่าปรับ เป็นต้น
นอกจากนี้ ล่าสุดฮิพแฟลตยังได้เป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊ก มาร์เก็ตเพลสประเทศไทยในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยเช่า ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในช่วงต้นเดือน ต.ค. เพื่อให้การค้นหาอสังหาฯ ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันเฟซบุ๊กมีการร่วมมือกับพันธมิตรอีก 2 ราย คือ ดอท พร๊อพเพอร์ตี้ และพร็อพเพอร์ตี้ โฟลว์
นายเนมท์เซฟ กล่าวว่า ฮิพแฟลตก่อตั้งในปี 2556 เริ่มจดทะเบียนในสิงคโปร์ โดยมีสำนักงานใหญ่ในไทย ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ฮิพแฟลตมีประกาศอสังหาฯ ที่แอ็กทีฟ 3.4 แสนประกาศ จากการโพสต์ของตัวแทนนายหน้ากว่า 4 หมื่นราย ในจำนวนดังกล่าวมาจากเจ้าของ อสังหาฯ เจ้าของที่ดินและบริษัทอสังหาฯ กว่า 55% เป็นประกาศที่ถูกปล่อยให้เช่า และอีก 45% เป็นประกาศสำหรับการขาย มีผู้ชมหน้าเว็บกว่า 3.7 ล้านครั้ง/เดือน โดยบริษัทจะคิดค่าบริหารจัดการในสัดส่วน 0.5% จากราคาทรัพย์ที่เกิดการซื้อ-ขายหรือให้เช่า แต่จะไม่เก็บจากการโพสต์ และไม่ถูกจำกัดเวลา แต่ต้องมีการอัพเดทสถานะของประกาศด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ( 20 October 2018 )
ที่มา : http://www.reic.or.th/news/News_Detail.aspx?newsid=57673
ติดตามข่าวสาร บ้าน คอนโค บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ที่ดิน อสังหาฯ เเละอัพเดท ราคาบ้าน ราคาคอนโด เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด และตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนใครที่ ZmyHome
อสังหาฯ ยังรุ่ง ฮิพแฟลตรุกหนักเว็บไซต์ค้นหาอสังหาฯ ดึงเทคโนโลยีพร็อพเทค-บล็อกเชนขยายตลาด
นายเดนิส เนมท์เซฟ ผู้ก่อตั้งและบริหาร บริษัท ฮิพแฟลต ไทยแลนด์ (Hipflat) เว็บไซต์ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาขายและให้เช่ายังไม่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับในฮ่องกงและสิงคโปร์ จึงทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุน การเข้ามาอยู่อาศัยเพื่อทำงาน รวมไปถึงการมาพักอาศัยในจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวระยะยาว โดยเฉพาะราคาขายคอนโดในไทยมีการขยับขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 5%
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเว็บไซต์อสังหาฯ และตัวแทนอสังหาฯ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาด ทั้งปัญหาข้อมูลที่ล้าสมัยไม่ถูกต้อง ข้อมูลไม่ครบถ้วนทำให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจและไม่น่าเชื่อถือ บริษัทจึงได้นำ Domus Protocol ซอฟต์แวร์เทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้เพื่อผลักดันให้ตลาด อสังหาฯ ออนไลน์มีความโปร่งใส ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือล่าสุดเพื่อเก็บข้อมูลจาก ผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือ Crowd-Sourced โดยจะให้รางวัลแก่สมาชิกที่ร่วมให้ข้อมูลที่มีคุณภาพอีกด้วย
"ข้อมูลทั่วโลกกว่า 90% ของประกาศออนไลน์บนเว็บไซต์อสังหาฯ มักมีข้อมูลที่ไม่อัพเดท ข้อมูลไม่ครบถ้วน สร้างความสับสนเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของประกาศนั้นๆ และไม่รู้ว่าราคาเท่าใด ผลที่ตามมาคือตลาดอสังหาฯ ที่ไม่มีศักยภาพเหล่านี้ทั้งในไทย ตลอดจนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอื่นทั่วโลกจะไม่ได้รับความไว้วางใจของประกาศ" นายเนมท์เซฟ กล่าว
นอกจากนี้ ความหลากหลาย การแข่งขันที่สูงของตลาดอสังหาฯ และการเช่าในประเทศไทยเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อเจ้าของ ผู้ซื้อ และผู้เช่า ในการทำธุรกรรมที่ถูกต้องและปัญหานี้ยังกระทบกับสภาพคล่องของตลาดอีกด้วย แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอสังหาฯ ไทยกำลังไปได้ดีเหนือกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่หลายประเทศทั่วโลกก็ยังล้าหลังกว่าสหรัฐอเมริกาที่มีการควบคุมเรื่องความโปร่งใส รวมถึงบทลงโทษ เช่น หากประกาศขายทรัพย์ชิ้นนั้นมีการขายไปแล้ว แต่ประกาศยังไม่ถูกลบออกไปจะต้องเสียค่าปรับ เป็นต้น
นอกจากนี้ ล่าสุดฮิพแฟลตยังได้เป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊ก มาร์เก็ตเพลสประเทศไทยในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยเช่า ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในช่วงต้นเดือน ต.ค. เพื่อให้การค้นหาอสังหาฯ ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันเฟซบุ๊กมีการร่วมมือกับพันธมิตรอีก 2 ราย คือ ดอท พร๊อพเพอร์ตี้ และพร็อพเพอร์ตี้ โฟลว์
นายเนมท์เซฟ กล่าวว่า ฮิพแฟลตก่อตั้งในปี 2556 เริ่มจดทะเบียนในสิงคโปร์ โดยมีสำนักงานใหญ่ในไทย ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ฮิพแฟลตมีประกาศอสังหาฯ ที่แอ็กทีฟ 3.4 แสนประกาศ จากการโพสต์ของตัวแทนนายหน้ากว่า 4 หมื่นราย ในจำนวนดังกล่าวมาจากเจ้าของ อสังหาฯ เจ้าของที่ดินและบริษัทอสังหาฯ กว่า 55% เป็นประกาศที่ถูกปล่อยให้เช่า และอีก 45% เป็นประกาศสำหรับการขาย มีผู้ชมหน้าเว็บกว่า 3.7 ล้านครั้ง/เดือน โดยบริษัทจะคิดค่าบริหารจัดการในสัดส่วน 0.5% จากราคาทรัพย์ที่เกิดการซื้อ-ขายหรือให้เช่า แต่จะไม่เก็บจากการโพสต์ และไม่ถูกจำกัดเวลา แต่ต้องมีการอัพเดทสถานะของประกาศด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ( 20 October 2018 )
ที่มา : http://www.reic.or.th/news/News_Detail.aspx?newsid=57673
ติดตามข่าวสาร บ้าน คอนโค บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ที่ดิน อสังหาฯ เเละอัพเดท ราคาบ้าน ราคาคอนโด เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด และตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนใครที่ ZmyHome
