• 28 มี.ค. 2562

รู้จัก Thermal Mass ไว้ ร้อนนี้จะได้อยู่เย็นเป็นสุข

          ปัญหาของบ้านพักอาศัยแม้มีมากมาย แต่ดูเหมือนปัญหาที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆ คือปัญหาเรื่องอุณหภูมิ ภาษาไทยมีคำอธิบายว่าบ้านนี้อบอุ่น คำอวยพรว่าขอให้อยู่เย็นเป็นสุข หรือชีวิตร่มเย็น เห็นได้ว่าอุณหภูมิกับการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิทางใจ หรืออุณหภูมิจริง ๆ ล้วนสำคัญ

          และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเราเย็นหรือร้อนนั้น คือ Thermal Mass

          Thermal Mass คือ ค่าคุณสมบัติของวัสดุในการสะสมพลังงานความร้อนไว้กับตัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเอาคอนกรีตกับแผ่นไม้ความหนาเท่ากัน ขนาดเท่ากันตากแดดไว้ด้วยกันนาน ๆ การสะสมความร้อนของทั้งสองวัสดุจะไม่เท่ากัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้น วัตถุที่มีน้ำหนักและความหนาแน่นสูง จะสะสมความร้อนได้มากกว่า ซึ่งก็คือ คอนกรีตจะสะสมความร้อนไว้ได้มากกว่าแผ่นไม้ ทีนี้การสะสมความร้อนมันไม่หยุดอยู่แค่สะสม เพราะเมื่อบรรยากาศรอบวัสดุเปลี่ยนเย็นลง ความร้อนที่สะสมไว้ก็จะแผ่รังสีออกมา ตามกฎฟิสิกส์ที่ว่าจุดที่มีพลังงานมากจะแผ่พลังงานไปยังจุดที่มีพลังงานน้อยกว่าเสมอ ทำให้พื้นที่โดยรอบวัตถุนั้นมีความอุ่น (ร้อน) ระอุอยู่รอบ ๆ

          นี่แหละครับคือที่มาของบ้านร้อนในตอนหัวค่ำ เพราะแม้อากาศตอนเย็นจะมีอุณหภูมิลดลงแล้ว แต่ความร้อนที่สะสมอยู่ตามมวลต่าง ๆ ของบ้านต่างทยอยกันแผ่รังสีความร้อนออกมา และไม่ใช่แค่ตัวบ้านเท่านั้น ถนนคอนกรีต หรือพื้นยางมะตอยรอบบ้าน หรือแม้แต่รถยนต์ที่วิ่งกลางแดดบ่ายมาแล้วเข้ามาจอดใกล้ ๆ ก็พร้อมใจกันแผ่รังสีรอบตัว วัสดุก่อสร้างพวกนี้โดยส่วนใหญ่มีน้ำหนักและความหนาแน่นใช่ย่อย ทุกสิ่งทุกอย่างจึงประเดประดังสร้างความร้อนให้เราในตอนค่ำคืน สะสมได้มากก็ใช้เวลาคายความร้อนมาก ผนังก่ออิฐชั้นเดียวโดยทั่วไปหากโดนแดดทางทิศตะวันตกเข้าเต็ม ๆ กว่าจะคายความร้อนหมด ก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว... แล้วบ้านมันจะอยู่สบายไหมล่ะครับ

          สำหรับเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน เราชอบความเย็น ทางแก้คือการใช้วัสดุที่มีค่า Thermal mass น้อย ทั้งในตัวบ้านและรอบบ้าน ยิ่งพื้นถนนคอนกรีตรอบบ้าน โดยเฉพาะที่โดนแดดตะวันตกคือตัวดี มันคือมวลที่แผ่ความร้อนให้บริเวณบ้านอย่างมากมาย ไม่ต้องแปลกใจที่บรรยากาศตอนกลางคืนในเมืองจะร้อนกว่าในชนบท และบ้านที่มีสนามหญ้ามีต้นไม้จะเย็นง่ายกว่าบ้านที่เต็มไปด้วยพื้นคอนกรีต เพราะพื้นดินและสนามหญ้ามี Thermal Mass น้อยกว่า แถมพืชยังมีการคายน้ำระบายความร้อน และมีร่มเงาให้ร่มเย็น ฉะนั้นถ้าจำเป็นที่รอบบ้านต้องมีคอนกรีต ก็ควรสร้างร่มเงามิให้พื้นคอนกรีตโดนแดดบ่าย ไม่ว่าด้วยการปลูกต้นไม้ หรือสร้างระแนงหรือหลังคาบัง

          ผนังก็เช่นกัน หากสามารถตั้งระแนงหรือยื่นชายคากันแดดไม่ให้โดนผนัง จะเป็นการแก้ความร้อนเข้าสะสมที่วัสดุได้มากที่สุด หรือถ้ากันแดดไม่ได้ ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่สะสมความร้อนน้อย โดยมากจะเป็นวัสดุที่เบา พรุน เช่นคอนกรีตมวลเบา จะมีค่าสะสมความร้อนน้อยกว่าผนังคอนกรีตหรือผนังก่ออิฐมอญ


          หากผนังเป็นไม้หรือเป็นผนังเบาแผ่นบาง บ้านจะเกิดอีกอาการ คือร้อนเร็วเย็นเร็ว คือโดนแดดไม่นานก็ร้อนเลย ในขณะที่พอตกเย็นก็ใช้เวลาคายความร้อนไม่นานแล้วเย็นใกล้อุณหภูมิแวดล้อมทันที กรณีนี้ ถ้าไม่ต้องการให้บ้านร้อนเร็ว ก็แนะนำให้ใช้ฉนวนกันความร้อนบุเสริมเข้าไป ที่จริงการติดตั้งฉนวนกันความร้อนตรงผนังที่โดนแดดไม่ว่าจะเป็นผนังเบาหรือผนังตัน เป็นกลยุทธที่สกัดกั้นไม่ให้ความร้อนที่สะสมไว้ส่งผ่านเข้ามาตัวบ้านได้โดยง่าย แล้วความร้อนก็จะหันกลับไประบายออกนอกบ้านแทน

          อีกกรรมวิธีที่อึดถึกทน คือการก่อผนังอิฐซ้อนหลาย ๆ ชั้น แบบที่วัดวาอารามไทยสมัยก่อนเขาทำกัน กรณีนี้ก็คือแก้ปัญหาด้วยวิธีการหนามยอกเอาหนามบ่ง อยากสะสมความร้อนก็สะสมไป ผนังหนาขนาดนี้สะสมความร้อนเท่าไหร่ก็สะสมไม่เต็ม ซึ่งความหนาของผนังมากพอที่จะสะสมตั้งแต่เช้าถึงเย็น พอตกค่ำอุณหภูมิลดลง ความร้อนยังสะสมไม่ทันถึงผนังด้านในก็ต้องถอยทัพออกด้านนอกเสียแล้ว แต่คิดแล้วก็เป็นที่รู้กัน ว่านี่เป็นวิธีที่ใช้งบประมาณและใช้พื้นที่เยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง



จากใจ
ZmyHome
ฝากแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
บทความอื่นๆ
  • ค้นหาบ้านคอนโด

    ต้องการซื้อ หรือเช่า บ้าน คอนโด ตรวจ สอบราคา เช็คค่าเช่า ติดต่อตรงกับเจ้า ของตัวจริง ทุกทำเล ทั่วประเทศ

    ค้นหา
  • ลงประกาศ

    ต้องการขาย หรือปล่อยเช่า บ้าน คอนโด เพียงคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และพร้อมที่จะลงประกาศอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อศึกษา อย่างสะดวกที่สุด ก็ลงประกาศ ได้เลย

    ลงประกาศ