ซีคอนโฮม รีเฟรชแบรนด์รอบ 10 ปี ลุยจับตลาดทุกเซ็กเมนท์
ซีคอนโฮม ยุบแบรนด์ คอมแพคโฮม-บัดเจทโฮม รีเฟรชแบรนด์ "ซีคอน" รอบ10 ปี จับตลาดครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ตั้งแต่ 2-30 ล้านบาท ระบุ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ราคาที่ดินพุ่ง หนุนธุรกิจสร้างบ้านโตสวนทางภาพรวมอสังหาฯ
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคเชื่อมั่นและจำแบรนด์ "ซีคอน" ได้ดี จึงยุบแบรนด์ คอมแพคโฮม ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดกลางที่มีระดับราคา 3-8 ล้านบาท และ แบรนด์ บัดเจทโฮม ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดล่างที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มารวมกับแบรนด์ "ซีคอน" ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่มีระดับราคา 6-30 ล้านบาท เพื่อให้ทำตลาด ครอบคลุมและลดต้นทุนการสร้างแบรนด์
"ถือเป็นครั้งแรกในรอบ10 ปีในการรีเฟรชแบรนด์ซีคอนเพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ความทนทาน เสร็จเร็วตรงเวลาและงบไม่บานปลาย ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 15 วินาที เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ในวงกว้าง ถึงการสร้างบ้านครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่มีระดับราคาตั้งแต่ 2-30 ล้านบาท มีส่วนทำให้ยอดขายในปี 2561 อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 58 ปี"
สำหรับผลประกอบการ 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2562 พบว่าสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย 650 ล้านบาท คาดว่า ครึ่งปีหลังจะสามารถทำได้ 950 ล้านบาท สิ้นปียอดขาย 1,600 ล้านบาทตามเป้าหมาย ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2563 และราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจสร้างบ้านเพราะกังวลว่าจะมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้นในอนาคต เป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจสร้างบ้านมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท เติบโตสวนทางกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับแบบบ้านให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคกว่า 200 แบบ ในทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนที่เริ่มทำงาน หรือผู้บริหารรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มเริ่มสร้างครอบครัวจะคำนึงถึงการใช้งานห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งานในแต่ละพื้นที่ของบ้าน และกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจ เจ้าของโรงงาน ที่บางครั้งบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงรสนิยมและแสดงฐานะ เราจึงพยายามออกแบบบ้านและจัดหมวดหมู่ของแบบบ้านให้ตอบโจทย์ในทุกความต้องการตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้มาจากบ้านระดับบน 40% ระดับกลาง 40% และระดับล่าง 20% จากข้อมูลพบว่าตลาดระดับกลางเติบโตสูง เนื่องจากเป็นระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองที่มีราคาแพง ซึ่งกลุ่มลูกค้ากว่า 60% ที่เป็นฐานลูกค้าหลักนิยมสร้างบ้านในระดับราคา 5-6 ล้านบาท เป็นแบบบ้านขนาด 3-4 ห้องนอน ที่มีการออกแบบ รูปแบบฟังก์ชั่น การใช้งาน การแบ่งสัดส่วนพื้นที่บ้านที่แตกต่างกันออกไปโดยลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อมาจากความน่าเชื่อถือเป็นหลัก และรูปแบบบ้านที่มีความหลากหลายให้เลือก
นายมนู กล่าวต่อว่า ต่อจากนี้ไปบริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดมากขึ้น โดยจะใช้งบประมาณ 3% จากยอดขายมาทำกิจกรรมการตลาดครบวงจร เพื่อตอกย้ำแบรนด์ซีคอนให้อยู่ในใจผู้บริโภค รวมทั้งการขยายสาขาหรือโชว์รูมที่มีบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าได้สัมผัส เพื่อให้กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อจากอารมณ์ความรู้สึกชื่นชอบนอกเหนือจากความน่าเชื่อถือ
โดยในปี 2563 จะขยายตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะชลบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันซีคอนโฮม มีทั้งหมด 5 ศูนย์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ได้แก่ ซีคอนโฮม ศูนย์สี่พระยา ศูนย์บางแค ศูนย์แจ้งวัฒนะ ศูนย์รามอินทรา และศูนย์ศรีนครินทร์ กำลังจะขยายไปที่งามวงศ์วาน ในรูปแบบเดียวกับศูนย์ศรีนครินทร์ ที่เป็นโชว์รูปบ้านตัวอย่าง คาดว่าจะงบลงทุน 15 ล้านบาท และอีกสาขาที่ราชพฤกษ์
อย่างไรก็ตาม ยังอยากให้รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดภาษีนำเข้า 0% เพื่อช่วยให้คนใส่ใจที่นำวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว รวมทั้งการอนุญาตให้แรงงานต่างชาติสามารถย้ายถิ่นฐานได้ ซึ่งจะทำให้แรงงานสามารถเคลื่อนที่ได้ไปตามแหล่งงานสะดวกขึ้น รวมทั้งการพิจารณาเรื่องค่าแรงอย่างรอบคอบเพราะมีผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคเชื่อมั่นและจำแบรนด์ "ซีคอน" ได้ดี จึงยุบแบรนด์ คอมแพคโฮม ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดกลางที่มีระดับราคา 3-8 ล้านบาท และ แบรนด์ บัดเจทโฮม ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดล่างที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มารวมกับแบรนด์ "ซีคอน" ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่มีระดับราคา 6-30 ล้านบาท เพื่อให้ทำตลาด ครอบคลุมและลดต้นทุนการสร้างแบรนด์
"ถือเป็นครั้งแรกในรอบ10 ปีในการรีเฟรชแบรนด์ซีคอนเพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ความทนทาน เสร็จเร็วตรงเวลาและงบไม่บานปลาย ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 15 วินาที เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ในวงกว้าง ถึงการสร้างบ้านครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่มีระดับราคาตั้งแต่ 2-30 ล้านบาท มีส่วนทำให้ยอดขายในปี 2561 อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 58 ปี"
สำหรับผลประกอบการ 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2562 พบว่าสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย 650 ล้านบาท คาดว่า ครึ่งปีหลังจะสามารถทำได้ 950 ล้านบาท สิ้นปียอดขาย 1,600 ล้านบาทตามเป้าหมาย ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2563 และราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจสร้างบ้านเพราะกังวลว่าจะมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้นในอนาคต เป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจสร้างบ้านมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท เติบโตสวนทางกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับแบบบ้านให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคกว่า 200 แบบ ในทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนที่เริ่มทำงาน หรือผู้บริหารรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มเริ่มสร้างครอบครัวจะคำนึงถึงการใช้งานห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งานในแต่ละพื้นที่ของบ้าน และกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจ เจ้าของโรงงาน ที่บางครั้งบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงรสนิยมและแสดงฐานะ เราจึงพยายามออกแบบบ้านและจัดหมวดหมู่ของแบบบ้านให้ตอบโจทย์ในทุกความต้องการตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้มาจากบ้านระดับบน 40% ระดับกลาง 40% และระดับล่าง 20% จากข้อมูลพบว่าตลาดระดับกลางเติบโตสูง เนื่องจากเป็นระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองที่มีราคาแพง ซึ่งกลุ่มลูกค้ากว่า 60% ที่เป็นฐานลูกค้าหลักนิยมสร้างบ้านในระดับราคา 5-6 ล้านบาท เป็นแบบบ้านขนาด 3-4 ห้องนอน ที่มีการออกแบบ รูปแบบฟังก์ชั่น การใช้งาน การแบ่งสัดส่วนพื้นที่บ้านที่แตกต่างกันออกไปโดยลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อมาจากความน่าเชื่อถือเป็นหลัก และรูปแบบบ้านที่มีความหลากหลายให้เลือก
นายมนู กล่าวต่อว่า ต่อจากนี้ไปบริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดมากขึ้น โดยจะใช้งบประมาณ 3% จากยอดขายมาทำกิจกรรมการตลาดครบวงจร เพื่อตอกย้ำแบรนด์ซีคอนให้อยู่ในใจผู้บริโภค รวมทั้งการขยายสาขาหรือโชว์รูมที่มีบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าได้สัมผัส เพื่อให้กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อจากอารมณ์ความรู้สึกชื่นชอบนอกเหนือจากความน่าเชื่อถือ
โดยในปี 2563 จะขยายตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะชลบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันซีคอนโฮม มีทั้งหมด 5 ศูนย์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ได้แก่ ซีคอนโฮม ศูนย์สี่พระยา ศูนย์บางแค ศูนย์แจ้งวัฒนะ ศูนย์รามอินทรา และศูนย์ศรีนครินทร์ กำลังจะขยายไปที่งามวงศ์วาน ในรูปแบบเดียวกับศูนย์ศรีนครินทร์ ที่เป็นโชว์รูปบ้านตัวอย่าง คาดว่าจะงบลงทุน 15 ล้านบาท และอีกสาขาที่ราชพฤกษ์
อย่างไรก็ตาม ยังอยากให้รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดภาษีนำเข้า 0% เพื่อช่วยให้คนใส่ใจที่นำวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว รวมทั้งการอนุญาตให้แรงงานต่างชาติสามารถย้ายถิ่นฐานได้ ซึ่งจะทำให้แรงงานสามารถเคลื่อนที่ได้ไปตามแหล่งงานสะดวกขึ้น รวมทั้งการพิจารณาเรื่องค่าแรงอย่างรอบคอบเพราะมีผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
