เซ็นทรัลฯจัดทัพรีเทลลุยอู่ตะเภา
เซ็นทรัลดีเอฟเอส กางแผนบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ชูความเชี่ยวชาญพันธมิตร "ดีเอฟเอส เวนเจอร์ สิงคโปร์" จัดทัพร้านค้า-บริการครบเครื่อง รับนักเดินทางทะลุ 3 ล้านคน
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการ บริษัท เซ็นทรัล ดีเอฟเอส จำกัด กล่าวว่า ศักยภาพของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาฯ หนึ่งในสนามบินสำคัญในภูมิภาค ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทยมุ่งส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ทำให้พื้นที่อีอีซี มีการขยายตัวสูงทุกมิติ โดยบริษัทได้ลงนามในสัญญาให้สิทธิเพื่อประกอบกิจการโครงการร้านค้าและบริการกับกองทัพเรือ โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อประกอบกิจการโครงการร้านค้าและบริการ ณ อาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา พื้นที่ในการบริหาร 1,400.5 ตร.ม. ระยะเวลา 10 ปี ประกอบกับกระบวนการที่มีขั้นตอนชัดเจน มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ของกองทัพเรือ นับเป็นมาตรฐานของการประมูล เซ็นทรัลจึงมีความตั้งใจที่อยากเข้ามาพัฒนา ผลักดันพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินอู่ตะเภาฯ ร่วมกับกองทัพเรือ ให้เป็นจุดหมายสำคัญเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักธุรกิจต่างชาติและชาวไทยให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ สินค้าและบริการที่แตกต่างน่าประทับใจและเป็นที่จดจำ
"เซ็นทรัล ดีเอฟเอส เชื่อมั่นว่า สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาฯ จะกลายเป็นอีกจุดสำคัญของการท่องเที่ยว และระบบ โลจิสติกส์ (Logistics) จากศักยภาพของทำเลตั้งอยู่ห่างเมืองพัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย เพียง 30 กิโลเมตร และอยู่ใกล้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในจังหวัดระยองและชลบุรี"
ทั้งนี้ สนามบินอู่ตะเภารองรับผู้โดยสารได้ปีละกว่า 3 ล้านคน นับเป็นโอกาสสำคัญของการพัฒนาและขยายธุรกิจผ่านความร่วมมือในการประมูลสัมปทานกิจการโครงการร้านค้าและบริการ (Retail and Services) อันแข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรร่วมทุนเซ็นทรัล และดีเอฟเอส เวนเจอร์ สิงค์โปร์
กลุ่มเซ็นทรัล มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกมากว่า 72 ปี มีธุรกิจครอบคลุมหลากหลายกลุ่ม เครือข่ายมากกว่า 3,700 สาขาในไทย และอีก 17 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ บริษัทดีเอฟเอส เวนเจอร์ สิงคโปร์ จำกัด ดำเนิน ธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยวระดับลักชัวรีมากว่า 59 ปี และยังเป็นผู้บริหารดิวตี้ฟรีและพื้นที่รีเทลในสนามบินและร้านปลอดอากรในเมือง หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของโลกดำเนินธุรกิจใน 13 ประเทศ 4 ทวีป อาทิ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี สิงคโปร์, ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก และท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐ
สำหรับพื้นที่ 1,400.5 ตร.ม.ที่ เซ็นทรัล ดีเอฟเอส บริหาร ประกอบด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ อานตี้แอนส์, เคเอฟซี, เซกาเฟรโด, มิสเตอร์คัพที, อะเมซอน, คอฟฟี่เวิลด์, นิวยอร์กเดลี, ดริ๊งก์สแอนด์ควิกไบท์, ศูนย์อาหารอีทเทอรีการ์เด้นส์, ร้านขายสินค้าจากแบรนด์หลากหลาย เช่น เซ็นทรัล ดีเอฟเอส ช็อป ที่มีทั้งสินค้าไทย แฟชั่น เครื่องสำอาง สินค้าสำหรับเดินทาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว, ร้าน Thai Favourites จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารไทยและขนมไทยขึ้นชื่อ, บีทูเอส, บู้ทส์, ร้านขายของที่ระลึก ยังมีเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านจำหน่ายซิมโทรศัพท์มือถือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการ บริษัท เซ็นทรัล ดีเอฟเอส จำกัด กล่าวว่า ศักยภาพของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาฯ หนึ่งในสนามบินสำคัญในภูมิภาค ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทยมุ่งส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ทำให้พื้นที่อีอีซี มีการขยายตัวสูงทุกมิติ โดยบริษัทได้ลงนามในสัญญาให้สิทธิเพื่อประกอบกิจการโครงการร้านค้าและบริการกับกองทัพเรือ โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อประกอบกิจการโครงการร้านค้าและบริการ ณ อาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา พื้นที่ในการบริหาร 1,400.5 ตร.ม. ระยะเวลา 10 ปี ประกอบกับกระบวนการที่มีขั้นตอนชัดเจน มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ของกองทัพเรือ นับเป็นมาตรฐานของการประมูล เซ็นทรัลจึงมีความตั้งใจที่อยากเข้ามาพัฒนา ผลักดันพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินอู่ตะเภาฯ ร่วมกับกองทัพเรือ ให้เป็นจุดหมายสำคัญเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักธุรกิจต่างชาติและชาวไทยให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ สินค้าและบริการที่แตกต่างน่าประทับใจและเป็นที่จดจำ
"เซ็นทรัล ดีเอฟเอส เชื่อมั่นว่า สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาฯ จะกลายเป็นอีกจุดสำคัญของการท่องเที่ยว และระบบ โลจิสติกส์ (Logistics) จากศักยภาพของทำเลตั้งอยู่ห่างเมืองพัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย เพียง 30 กิโลเมตร และอยู่ใกล้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในจังหวัดระยองและชลบุรี"
ทั้งนี้ สนามบินอู่ตะเภารองรับผู้โดยสารได้ปีละกว่า 3 ล้านคน นับเป็นโอกาสสำคัญของการพัฒนาและขยายธุรกิจผ่านความร่วมมือในการประมูลสัมปทานกิจการโครงการร้านค้าและบริการ (Retail and Services) อันแข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรร่วมทุนเซ็นทรัล และดีเอฟเอส เวนเจอร์ สิงค์โปร์
กลุ่มเซ็นทรัล มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกมากว่า 72 ปี มีธุรกิจครอบคลุมหลากหลายกลุ่ม เครือข่ายมากกว่า 3,700 สาขาในไทย และอีก 17 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ บริษัทดีเอฟเอส เวนเจอร์ สิงคโปร์ จำกัด ดำเนิน ธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยวระดับลักชัวรีมากว่า 59 ปี และยังเป็นผู้บริหารดิวตี้ฟรีและพื้นที่รีเทลในสนามบินและร้านปลอดอากรในเมือง หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของโลกดำเนินธุรกิจใน 13 ประเทศ 4 ทวีป อาทิ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี สิงคโปร์, ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก และท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐ
สำหรับพื้นที่ 1,400.5 ตร.ม.ที่ เซ็นทรัล ดีเอฟเอส บริหาร ประกอบด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ อานตี้แอนส์, เคเอฟซี, เซกาเฟรโด, มิสเตอร์คัพที, อะเมซอน, คอฟฟี่เวิลด์, นิวยอร์กเดลี, ดริ๊งก์สแอนด์ควิกไบท์, ศูนย์อาหารอีทเทอรีการ์เด้นส์, ร้านขายสินค้าจากแบรนด์หลากหลาย เช่น เซ็นทรัล ดีเอฟเอส ช็อป ที่มีทั้งสินค้าไทย แฟชั่น เครื่องสำอาง สินค้าสำหรับเดินทาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว, ร้าน Thai Favourites จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารไทยและขนมไทยขึ้นชื่อ, บีทูเอส, บู้ทส์, ร้านขายของที่ระลึก ยังมีเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านจำหน่ายซิมโทรศัพท์มือถือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
