ทุนมาเลย์แห่ลงทุนหาดใหญ่ ไล่ซื้อโรงแรมยันตลาดกิมหยง
ธุรกิจหาดใหญ่เปลี่ยนมือ ประกาศเซ้ง-ขายกิจการเกลื่อน ทุนมาเลย์ไล่ซื้อกิจการโรงแรมยันแผงขายของตลาดกิมหยง เริ่มเห็นภาพทยอยเปลี่ยนชื่อหลังการซื้อขายลงตัว ชู "ฮาลาล"เจาะกลุ่มลูกค้ามุสลิม เผยกลุ่มทุนเก่าถอดใจ ไม่อยากลงทุนเพิ่ม-การแข่งขันสูง บริหารจัดการ-ทำกำไรยาก ตัดใจขายทิ้งดีกว่า เผยโรงแรมด่านนอกไทยจังโหลน เจอวิกฤตเศรษฐกิจ 30 แห่งเร่ขายกิจการ
แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจโรงแรม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีนักลงทุนจากประเทศมาเลเซีย ทุนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาลงทุนซื้อกิจการโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร โดยเฉพาะบริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 นิพัทธ์อุทิศ 2 และนิพัทธ์อุทิศ 3 ถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนธรรมนูญวิถี รวมถึงโรงแรมบริเวณด่านนอกไทยจังโหลน และเซ้งแผงค้าขายในตลาดกิมหยง ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหาดใหญ่
ขณะนี้มีโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากกว่า 10 แห่ง ประกาศเซ้งกิจการในราคาซื้อขายตั้งแต่ 300-400 ล้านบาท ทั้งโรงแรมขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ตั้งแต่ 190-250 ห้อง บางแห่งมี 400 ห้องก็มี อาทิ โรงแรมลีการ์เด้นท์, แอมบาสซาเดอร์, อินทรา, เซ็นทรัล, อัมรินทร์, ราโดโฮเต็ล และหรรษา เจบี หาดใหญ่ เป็นต้น
ทยอยเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนชื่อ
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่มีการตกลงราคากันได้เรียบร้อยแล้ว เช่น โรงแรมสยามซิตี้ หาดใหญ่, ซากุระ หาดใหญ่, ซากุระ แกรนด์วิว หาดใหญ่ และหาดใหญ่ กรีนวิว ซึ่งมีทุนมาเลเซีย ทุนไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาซื้อกิจการไป และส่วนมากเจ้าของเดิมคืนทุนมีผลกำไรแล้ว และมีโรงแรมหลายแห่งที่บอกขายมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีคนซื้อเพราะตกลงราคากันไม่ได้ ซึ่งความเคลื่อนไหวในการขายโรงแรมดังกล่าวไม่ใช่เกิดจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง แต่เป็นการเปลี่ยนมือ เนื่องจากหลายโรงแรมเป็นการลงทุนในลักษณะของการเช่าที่มีการลงทุนระยะยาว และตอนนี้ใกล้จะครบสัญญาเช่าที่ดิน
รวมถึงปัจจัยในเรื่องของธุรกิจโรงแรมที่มีการแข่งขันสูง และมีการเล่นราคามาก ทำให้บริหารจัดการธุรกิจยากขึ้น ทำกำไรยากขึ้น เจ้าของโรงแรมที่เป็นรุ่นเก่าคิดว่าหากจะปรับปรุงกิจการต้องลงทุนอีกมาก จึงตัดสินใจขายกิจการให้ผู้ที่สนใจ
นอกจากโรงแรม ร้านอาหารแล้ว ตลาดกิมหยงตลาดของฝากขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยม ทุกวันนี้เจ้าของแผงเก่าแก่จำนวนมากก็ได้ประกาศเซ้งแผงเลิกกิจการไป และมีทุนมาเลเซียเข้ามากว้านซื้อแผงไปจำนวนมาก และมาปล่อยเช่าให้คนไทยต่อเช่นกัน
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ธุรกิจเริ่มเปลี่ยนมือจากชาวไทยเชื้อสายจีน ไปเป็นของชาวไทยมุสลิม และนักลงทุนชาวมาเลเซีย เห็นได้จากโรงแรมบางแห่งได้เปลี่ยนไปเป็นโรงแรมฮาลาล ภัตตาคารฮาลาล ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายเป็นชาวมุสลิมจากต่างจังหวัด กลุ่มมุสลิมจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย ขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนชื่อ เช่น โรงแรมซากุระ แกรนด์วิว เปลี่ยนชื่อเป็น ญันนะตีย์โฮเต็ล, สยามซิตี้ เปลี่ยนเป็น โรงแรมสยามเซ็นเตอร์ ฮาลาล รวมถึง มีการลงทุนก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในชื่อโรงแรมอัลฟาฮัจย์ ตั้งอยู่บริเวณถนนสายหาดใหญ่ สนามบินนานาชาติ
30 โรงแรมด่านนอกเร่ขายกิจการ
นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยไปในทิศทางเดียวกันว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีโรงแรมที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือไป 2-3 แห่ง เป็นโรงแรมเก่า เช่น โรงแรมสยามซิตี้ ในเครือซากุระ แกรนด์วิว เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวมาดำเนินกิจการ และใกล้จะหมดอายุสัญญาการเช่า โดยกลุ่มทุนที่เข้าซื้อกิจการเป็นนักลงทุนมุสลิม และปัจจุบันธุรกิจลงทุนโรงแรมได้ขยายตัวเติบโตขึ้น แต่ศูนย์กลางการลงทุนไม่ตั้งอยู่กลางเมืองหาดใหญ่ แต่จะออกไปอยู่รอบนอกเมือง และการลงทุนก็มีเป้าหมายกลุ่มลูกค้าประชุมสัมมนา เช่น กลุ่มไมซ์ เป็นต้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการโรงแรมในจังหวัดสงขลาเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีโรงแรมบริเวณด่านนอก แนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย (บ้านด่านนอกไทยจังโหลน) เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อรัฐเกดะห์ มาเลเซีย จำนวนกว่า 30 แห่งได้ทยอยปิดกิจการ และประกาศบอกขายในลักษณะการบอกต่อปากต่อปาก ไม่มีการขึ้นป้ายขายกิจการ หรือคิดเป็นประมาณ 40% ของธุรกิจโรงแรมบริเวณด่านนอกทั้งหมด โดยราคาที่บอกขายกันจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาท ปัจจัยหลัก ๆ มาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดต่อเนื่องมา 4-5 ปี ขณะที่ นักท่องเที่ยวจีนลดลง และค่าเงิน ริงกิตที่อ่อนค่าส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียลดลงมาก
เทรนด์โรงแรมฮาลาลมาแรง
นายจำนง มหิตพงษ์ กรรมการบริหาร โรงแรมสยามเซ็นเตอร์ ฮาลาล ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมฮาลาล มีทิศทางไปได้ดี ในส่วนโรงแรมสยาม เซ็นเตอร์ ฮาลาล ได้เทกโอเวอร์มาดำเนินการเกือบประมาณ 1 ปี ทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกด้าน ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องละหมาด ฯลฯ โดยมีการระดมทุนจากนักลงทุน นักธุรกิจคนไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา กรุงเทพฯ และอีกหลาย ๆ จังหวัด มีการบริหารจัดการรูปแบบคล้าย ๆ กับสหกรณ์ หุ้นส่วนมีเครือข่ายนักท่องเที่ยว เมื่อเข้ามาพักมีส่วนลด และได้แต้มสะสม สำหรับลูกค้าโรงแรมฮาลาล นอกจากจะเน้นจับกลุ่มชาวมุสลิมจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชาวมุสลิมทั่วไป นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีบริการห้องประชุมสัมมนาให้บริการด้วย
น.ส.จินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ (ททท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงแรมใน อ.หาดใหญ่ มีรวมกันกว่า 300 แห่ง ห้องพักรวมประมาณ 24,000 ห้อง และภาพรวมขณะนี้ยังมีการลงทุนโรงแรมเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดกลาง รูปแบบบูติคสมัยใหม่ ห้องพักไม่เกิน 80 ห้อง จะลงทุนสร้างบริเวณรอบนอกเมือง รวมทั้งมีการลงทุนโรงแรมที่เป็นฮาลาล 3-4 แห่ง มีทั้งที่เปิดให้บริการแล้วและกำลังจะเปิดดำเนินการ ซึ่งโรงแรมฮาลาลมีแนวโน้มที่ดี เพราะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หาดใหญ่เพิ่มขึ้นตาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจโรงแรม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีนักลงทุนจากประเทศมาเลเซีย ทุนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาลงทุนซื้อกิจการโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร โดยเฉพาะบริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 นิพัทธ์อุทิศ 2 และนิพัทธ์อุทิศ 3 ถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนธรรมนูญวิถี รวมถึงโรงแรมบริเวณด่านนอกไทยจังโหลน และเซ้งแผงค้าขายในตลาดกิมหยง ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหาดใหญ่
ขณะนี้มีโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากกว่า 10 แห่ง ประกาศเซ้งกิจการในราคาซื้อขายตั้งแต่ 300-400 ล้านบาท ทั้งโรงแรมขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ตั้งแต่ 190-250 ห้อง บางแห่งมี 400 ห้องก็มี อาทิ โรงแรมลีการ์เด้นท์, แอมบาสซาเดอร์, อินทรา, เซ็นทรัล, อัมรินทร์, ราโดโฮเต็ล และหรรษา เจบี หาดใหญ่ เป็นต้น
ทยอยเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนชื่อ
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่มีการตกลงราคากันได้เรียบร้อยแล้ว เช่น โรงแรมสยามซิตี้ หาดใหญ่, ซากุระ หาดใหญ่, ซากุระ แกรนด์วิว หาดใหญ่ และหาดใหญ่ กรีนวิว ซึ่งมีทุนมาเลเซีย ทุนไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาซื้อกิจการไป และส่วนมากเจ้าของเดิมคืนทุนมีผลกำไรแล้ว และมีโรงแรมหลายแห่งที่บอกขายมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีคนซื้อเพราะตกลงราคากันไม่ได้ ซึ่งความเคลื่อนไหวในการขายโรงแรมดังกล่าวไม่ใช่เกิดจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง แต่เป็นการเปลี่ยนมือ เนื่องจากหลายโรงแรมเป็นการลงทุนในลักษณะของการเช่าที่มีการลงทุนระยะยาว และตอนนี้ใกล้จะครบสัญญาเช่าที่ดิน
รวมถึงปัจจัยในเรื่องของธุรกิจโรงแรมที่มีการแข่งขันสูง และมีการเล่นราคามาก ทำให้บริหารจัดการธุรกิจยากขึ้น ทำกำไรยากขึ้น เจ้าของโรงแรมที่เป็นรุ่นเก่าคิดว่าหากจะปรับปรุงกิจการต้องลงทุนอีกมาก จึงตัดสินใจขายกิจการให้ผู้ที่สนใจ
นอกจากโรงแรม ร้านอาหารแล้ว ตลาดกิมหยงตลาดของฝากขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยม ทุกวันนี้เจ้าของแผงเก่าแก่จำนวนมากก็ได้ประกาศเซ้งแผงเลิกกิจการไป และมีทุนมาเลเซียเข้ามากว้านซื้อแผงไปจำนวนมาก และมาปล่อยเช่าให้คนไทยต่อเช่นกัน
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ธุรกิจเริ่มเปลี่ยนมือจากชาวไทยเชื้อสายจีน ไปเป็นของชาวไทยมุสลิม และนักลงทุนชาวมาเลเซีย เห็นได้จากโรงแรมบางแห่งได้เปลี่ยนไปเป็นโรงแรมฮาลาล ภัตตาคารฮาลาล ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายเป็นชาวมุสลิมจากต่างจังหวัด กลุ่มมุสลิมจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย ขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนชื่อ เช่น โรงแรมซากุระ แกรนด์วิว เปลี่ยนชื่อเป็น ญันนะตีย์โฮเต็ล, สยามซิตี้ เปลี่ยนเป็น โรงแรมสยามเซ็นเตอร์ ฮาลาล รวมถึง มีการลงทุนก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในชื่อโรงแรมอัลฟาฮัจย์ ตั้งอยู่บริเวณถนนสายหาดใหญ่ สนามบินนานาชาติ
30 โรงแรมด่านนอกเร่ขายกิจการ
นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยไปในทิศทางเดียวกันว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีโรงแรมที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือไป 2-3 แห่ง เป็นโรงแรมเก่า เช่น โรงแรมสยามซิตี้ ในเครือซากุระ แกรนด์วิว เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวมาดำเนินกิจการ และใกล้จะหมดอายุสัญญาการเช่า โดยกลุ่มทุนที่เข้าซื้อกิจการเป็นนักลงทุนมุสลิม และปัจจุบันธุรกิจลงทุนโรงแรมได้ขยายตัวเติบโตขึ้น แต่ศูนย์กลางการลงทุนไม่ตั้งอยู่กลางเมืองหาดใหญ่ แต่จะออกไปอยู่รอบนอกเมือง และการลงทุนก็มีเป้าหมายกลุ่มลูกค้าประชุมสัมมนา เช่น กลุ่มไมซ์ เป็นต้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการโรงแรมในจังหวัดสงขลาเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีโรงแรมบริเวณด่านนอก แนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย (บ้านด่านนอกไทยจังโหลน) เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อรัฐเกดะห์ มาเลเซีย จำนวนกว่า 30 แห่งได้ทยอยปิดกิจการ และประกาศบอกขายในลักษณะการบอกต่อปากต่อปาก ไม่มีการขึ้นป้ายขายกิจการ หรือคิดเป็นประมาณ 40% ของธุรกิจโรงแรมบริเวณด่านนอกทั้งหมด โดยราคาที่บอกขายกันจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาท ปัจจัยหลัก ๆ มาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดต่อเนื่องมา 4-5 ปี ขณะที่ นักท่องเที่ยวจีนลดลง และค่าเงิน ริงกิตที่อ่อนค่าส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียลดลงมาก
เทรนด์โรงแรมฮาลาลมาแรง
นายจำนง มหิตพงษ์ กรรมการบริหาร โรงแรมสยามเซ็นเตอร์ ฮาลาล ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมฮาลาล มีทิศทางไปได้ดี ในส่วนโรงแรมสยาม เซ็นเตอร์ ฮาลาล ได้เทกโอเวอร์มาดำเนินการเกือบประมาณ 1 ปี ทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกด้าน ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องละหมาด ฯลฯ โดยมีการระดมทุนจากนักลงทุน นักธุรกิจคนไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา กรุงเทพฯ และอีกหลาย ๆ จังหวัด มีการบริหารจัดการรูปแบบคล้าย ๆ กับสหกรณ์ หุ้นส่วนมีเครือข่ายนักท่องเที่ยว เมื่อเข้ามาพักมีส่วนลด และได้แต้มสะสม สำหรับลูกค้าโรงแรมฮาลาล นอกจากจะเน้นจับกลุ่มชาวมุสลิมจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชาวมุสลิมทั่วไป นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีบริการห้องประชุมสัมมนาให้บริการด้วย
น.ส.จินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ (ททท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงแรมใน อ.หาดใหญ่ มีรวมกันกว่า 300 แห่ง ห้องพักรวมประมาณ 24,000 ห้อง และภาพรวมขณะนี้ยังมีการลงทุนโรงแรมเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดกลาง รูปแบบบูติคสมัยใหม่ ห้องพักไม่เกิน 80 ห้อง จะลงทุนสร้างบริเวณรอบนอกเมือง รวมทั้งมีการลงทุนโรงแรมที่เป็นฮาลาล 3-4 แห่ง มีทั้งที่เปิดให้บริการแล้วและกำลังจะเปิดดำเนินการ ซึ่งโรงแรมฮาลาลมีแนวโน้มที่ดี เพราะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หาดใหญ่เพิ่มขึ้นตาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
