ทำไม? ไม่ควรขอคืนห้องกลับโครงการ
ในยุคที่เศรษฐกิจหดตัวแบบนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม อาจจะไม่ได้หอมหวานเหมือนเมื่อก่อน เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ลดลง แถมราคาก็ลดต่ำลงด้วย ทำให้ใคร ๆ ที่เคยจองซื้อห้องชุดไว้พร้อม ๆ กันหลายโครงการ ตัดสินใจทิ้งดาวน์คืนห้องให้โครงการไปซื้อที่อื่น หรืออาจเกิดจากปัญหากู้ไม่ผ่าน จนไม่สามารถซื้อต่อไปได้ กลายเป็นว่าผู้ซื้อบางรายเกิดข้อพิพาทกับบริษัทดีเวลลอปเปอร์ เกี่ยวกับการริบเงินจอง-เงินดาวน์ ให้ต้องฟ้องร้องเป็นคดีความกัน
อันที่จริงคงไม่มีดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหน อยากจะได้ห้องที่ขายไปแล้วกลับคืนมาจากลูกค้าหรอกครับ ถ้าลูกค้ายอมโอนขึ้นมาแล้วผ่อนต่อกับธนาคาร โครงการก็จะได้เงินก้อนจากธนาคารเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดีกว่าจะริบเพียงเงินจองและค่าดำเนินการเล็ก ๆ น้อย ๆ จากลูกค้า แล้วต้องนำห้องหลุดดาวน์กลับมาขายใหม่ในเวลาที่ใกล้โอน ก็ต้องเสียค่าทำการตลาดใหม่ แถมอาจต้องลดราคาเพื่อให้แข่งขันได้กับโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ใกล้ ๆ กันอีก
ยิ่งถ้าลูกค้าตัดสินใจทิ้งดาวน์พร้อม ๆ กันหลาย ๆ ราย อาจส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์ขาดสภาพคล่อง จนไม่สามารถจ่ายเงินกู้ที่กู้จากธนาคารมาทำโครงการได้ รวมถึงไม่สามารถจ่ายค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้กับพนักงาน ช่าง ผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์ และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการทำโครงการอีกมากมาย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจในภาพรวมรุนแรงกว่าที่เราจะคาดคิด
ดังนั้น หากห้องที่คุณซื้อไว้ถึงเวลาต้องโอน ในปีที่อัตราดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ ZmyHome ก็อยากแนะนำว่าให้โอนขึ้นมาครับ โดยอยากให้คุณพิจารณาสถานะทางการเงินของคุณเป็นหลัก ว่าจะสามารถส่งงวดเงินกู้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ครับ
แต่ถ้าคุณจองซื้อไว้เพื่อลงทุน ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นโอกาสดี ที่จะกลับมาประเมินราคาของอสังหาฯของเราใหม่อีกครั้งครับ ว่าเราซื้อมาในราคาที่สูงเกินจริงหรือไม่ ตอนนั้นอาจจะด้วยสภาพเศรษฐกิจดี หรือมีสิ่งกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้ตัดสินใจซื้อก็ตาม หากประเมินแล้วคิดว่าราคาที่ซื้อมานั้นไม่คุ้มจะไปต่อ ก็มีหลายทางออกที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
สิ่งที่ผู้ซื้อต้องทำแน่นอนก็คือ การเข้าไปคุยกับเจ้าของโครงการว่าเราไม่ประสงค์จะโอนห้องขึ้นมา ซึ่งแต่ละดีเวลลอปเปอร์ก็จะหาวิธีที่แตกต่างกันมาดึงให้เงินที่คุณจ่ายเข้ามาแล้วยังอยู่กับบริษัทต่อไป เช่น ยอมให้เลื่อนกำหนดโอน, ช่วยขายดาวน์ต่อให้, อนุญาตให้เปลี่ยนห้องหรือเปลี่ยนไปโครงการที่ราคาถูกกว่าได้, ลดจำนวนห้องที่ซื้อไปในกรณีซื้อเป็นล็อต และอาจถึงขั้นลดราคาลงหรือเพิ่มของแถมเพื่อกระตุ้นในคุณยอมโอนให้ได้ ซึ่งนาทีนี้หากคุณมีข้อเสนออะไรที่อยากได้ ก็เป็นช่วงที่ควรบอกโครงการแล้วครับ
แต่ถ้าหากตกลงกันไม่ได้จริง ๆ ผู้ซื้อก็คงต้องร้องเรียน สคบ. เพื่อขอให้โครงการคืนเงินดาวน์ที่จ่ายไปครับ ถึงจะได้กลับมาไม่ครบทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าเสียเปล่าไปไม่ได้อะไรกลับมาเลยครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : จเร ZmyHome
อันที่จริงคงไม่มีดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหน อยากจะได้ห้องที่ขายไปแล้วกลับคืนมาจากลูกค้าหรอกครับ ถ้าลูกค้ายอมโอนขึ้นมาแล้วผ่อนต่อกับธนาคาร โครงการก็จะได้เงินก้อนจากธนาคารเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดีกว่าจะริบเพียงเงินจองและค่าดำเนินการเล็ก ๆ น้อย ๆ จากลูกค้า แล้วต้องนำห้องหลุดดาวน์กลับมาขายใหม่ในเวลาที่ใกล้โอน ก็ต้องเสียค่าทำการตลาดใหม่ แถมอาจต้องลดราคาเพื่อให้แข่งขันได้กับโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ใกล้ ๆ กันอีก
ยิ่งถ้าลูกค้าตัดสินใจทิ้งดาวน์พร้อม ๆ กันหลาย ๆ ราย อาจส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์ขาดสภาพคล่อง จนไม่สามารถจ่ายเงินกู้ที่กู้จากธนาคารมาทำโครงการได้ รวมถึงไม่สามารถจ่ายค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้กับพนักงาน ช่าง ผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์ และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการทำโครงการอีกมากมาย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจในภาพรวมรุนแรงกว่าที่เราจะคาดคิด
ดังนั้น หากห้องที่คุณซื้อไว้ถึงเวลาต้องโอน ในปีที่อัตราดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ ZmyHome ก็อยากแนะนำว่าให้โอนขึ้นมาครับ โดยอยากให้คุณพิจารณาสถานะทางการเงินของคุณเป็นหลัก ว่าจะสามารถส่งงวดเงินกู้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ครับ
แต่ถ้าคุณจองซื้อไว้เพื่อลงทุน ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นโอกาสดี ที่จะกลับมาประเมินราคาของอสังหาฯของเราใหม่อีกครั้งครับ ว่าเราซื้อมาในราคาที่สูงเกินจริงหรือไม่ ตอนนั้นอาจจะด้วยสภาพเศรษฐกิจดี หรือมีสิ่งกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้ตัดสินใจซื้อก็ตาม หากประเมินแล้วคิดว่าราคาที่ซื้อมานั้นไม่คุ้มจะไปต่อ ก็มีหลายทางออกที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
สิ่งที่ผู้ซื้อต้องทำแน่นอนก็คือ การเข้าไปคุยกับเจ้าของโครงการว่าเราไม่ประสงค์จะโอนห้องขึ้นมา ซึ่งแต่ละดีเวลลอปเปอร์ก็จะหาวิธีที่แตกต่างกันมาดึงให้เงินที่คุณจ่ายเข้ามาแล้วยังอยู่กับบริษัทต่อไป เช่น ยอมให้เลื่อนกำหนดโอน, ช่วยขายดาวน์ต่อให้, อนุญาตให้เปลี่ยนห้องหรือเปลี่ยนไปโครงการที่ราคาถูกกว่าได้, ลดจำนวนห้องที่ซื้อไปในกรณีซื้อเป็นล็อต และอาจถึงขั้นลดราคาลงหรือเพิ่มของแถมเพื่อกระตุ้นในคุณยอมโอนให้ได้ ซึ่งนาทีนี้หากคุณมีข้อเสนออะไรที่อยากได้ ก็เป็นช่วงที่ควรบอกโครงการแล้วครับ
แต่ถ้าหากตกลงกันไม่ได้จริง ๆ ผู้ซื้อก็คงต้องร้องเรียน สคบ. เพื่อขอให้โครงการคืนเงินดาวน์ที่จ่ายไปครับ ถึงจะได้กลับมาไม่ครบทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าเสียเปล่าไปไม่ได้อะไรกลับมาเลยครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : จเร ZmyHome
