ฮ่องกงยังครองแชมป์ตลาดที่อยู่อาศัยแพงที่สุดในโลก
ฮ่องกงครองแชมป์ตลาดที่อยู่อาศัยแพงที่สุดในโลกเป็นปีที่ 11 ตอกย้ำความไม่เท่าเทียมกันด้านรายได้ประชากร
ศูนย์กลางธุรกิจการเงินของเอเชีย ยืนหนึ่งเหนือแวนคูเวอร์, ซิดนีย์ และโอ๊คแลนด์ ในฐานะตลาดที่อยู่อาศัยที่ราคาเกินเอื้อมถึงที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานที่เผยแพร่โดย Urban Reform Institute และ Frontier Center for Public Policy โดยในปี พ.ศ.2563 ราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยของฮ่องกงอยู่ที่ระดับ 20.7 เท่าของรายได้ครัวเรือน ซึ่งลดลงจาก 20.8 เท่าของปีก่อนหน้าเล็กน้อย
ผลรวมจากรายได้ที่ลดลงและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2563 ทำให้ประชาชนในหลายเมืองทั่วโลกมีความสามารถในการจ่ายลดลง นอกเหนือจากฮ่องกงแล้ว ยังพบว่าเมืองอื่น ๆ ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ก็มีความสามารถในการจ่ายลดลงจากปีก่อนเช่นกัน เนื่องจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้ปัญหาช่องว่างทางความมั่งคั่งรุนแรงขึ้น
เครดิตภาพ : Bloomberg
แวนคูเวอร์ยังอยู่ในอันดับที่สอง ด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 13 เท่าของรายได้ครัวเรือน เทียบกับ 11.9 เท่า ในปีพ.ศ. 2563 ซิดนีย์ที่ยังคงรั้งอันดับที่สามไว้ได้ ตามด้วยโอ๊คแลนด์ในอันดับที่สี่ ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่หกในปีก่อน
การหลั่งไหลเข้ามาของผู้ซื้อรายใหม่โดยเฉพาะในเขตชานเมือง ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในหลายเมืองเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น รายงานระบุว่า ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากภาวะเฟ้อของที่อยู่อาศัยอาจพบว่ามาตรฐานการดำรงชีพของพวกเขาลดต่ำลง
ที่มา : Bloomberg
ศูนย์กลางธุรกิจการเงินของเอเชีย ยืนหนึ่งเหนือแวนคูเวอร์, ซิดนีย์ และโอ๊คแลนด์ ในฐานะตลาดที่อยู่อาศัยที่ราคาเกินเอื้อมถึงที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานที่เผยแพร่โดย Urban Reform Institute และ Frontier Center for Public Policy โดยในปี พ.ศ.2563 ราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยของฮ่องกงอยู่ที่ระดับ 20.7 เท่าของรายได้ครัวเรือน ซึ่งลดลงจาก 20.8 เท่าของปีก่อนหน้าเล็กน้อย
ผลรวมจากรายได้ที่ลดลงและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2563 ทำให้ประชาชนในหลายเมืองทั่วโลกมีความสามารถในการจ่ายลดลง นอกเหนือจากฮ่องกงแล้ว ยังพบว่าเมืองอื่น ๆ ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ก็มีความสามารถในการจ่ายลดลงจากปีก่อนเช่นกัน เนื่องจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้ปัญหาช่องว่างทางความมั่งคั่งรุนแรงขึ้น
แวนคูเวอร์ยังอยู่ในอันดับที่สอง ด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 13 เท่าของรายได้ครัวเรือน เทียบกับ 11.9 เท่า ในปีพ.ศ. 2563 ซิดนีย์ที่ยังคงรั้งอันดับที่สามไว้ได้ ตามด้วยโอ๊คแลนด์ในอันดับที่สี่ ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่หกในปีก่อน
การหลั่งไหลเข้ามาของผู้ซื้อรายใหม่โดยเฉพาะในเขตชานเมือง ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในหลายเมืองเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น รายงานระบุว่า ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากภาวะเฟ้อของที่อยู่อาศัยอาจพบว่ามาตรฐานการดำรงชีพของพวกเขาลดต่ำลง
ที่มา : Bloomberg
