'ซีพีเอ็น'ไม่หวั่นโควิดระบาด เดินหน้าเปิดห้างใหม่ 2 แห่ง
"ซีพีเอ็น" เดินหน้าลงทุน เปิดห้างใหม่อีก 2 แห่ง "เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา - เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา" ลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม คาดชัดเจนปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ตั้งเป้ารายได้เติบโตดีกว่าปี 63
นายภนพินิต อุปถัมภ์ หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ ฝ่ายบริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปี 2564 บริษัทยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา คาดว่าจะเปิดให้บริการ วันที่ 27 ต.ค. และ เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา คาดจะเปิดให้บริการวันที่ 25 ก.ย. และบริษัทอยู่ระหว่างสรุปแผนลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2564 หรืออย่างช้าในปี 2565
สำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) บนที่ดินเดิมของสถานทูตอังกฤษ จำนวนประมาณ 23 ไร่ ผ่านบริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ฮ่องกงแลนด์ จำกัด (CHKL) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซีอี โฮลดิ้ง จำกัด (CE Holding) บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล และบริษัท เอชเคแอล (ไทย ดีเวลลอปเม้นท์) จำกัด (HKL) (Thai Development) บริษัทในกลุ่มฮ่องกงแลนด์ ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุน 1.39 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทจะทยอยลงทุนในระยะ 5-6 ปีข้างหน้า (2564-2569) ประกอบด้วยโครงการศูนย์การค้าจำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น และโครงการอาคารสำนักงาน จำนวน 2 อาคาร สูง 36 ชั้น ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการแต่ละเฟสภายหลังก่อสร้างแล้วประมาณ 2-3 ปี (2564-2566) ได้แก่ โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโครงการที่พักอาศัย ตามลำดับ
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปี 2563 ที่มีรายได้รวม 33,161.11 ล้านบาท แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 3 แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพราะมีปัจจัยหนุนจากการกระจายวัคซีน ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการใช้ศูนย์การค้าเป็นหน่วยบริการวัคซีนรวมทั้งสิ้น 8 แห่ง
ส่วนแนวโน้มของบริษัทในเครือ ได้แก่ บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) คาดว่า รายได้จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,588.83 ล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่อีกประมาณ 5 โครงการ รวมถึงมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้มูลค่ารวม 2.6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาท
ขณะที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาฯ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) เตรียมเข้าลงทุนในสินทรัพย์ใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และ เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี โดยคาดว่าจะพร้อมลงทุนภายในสิ้นปี 2564 หรืออย่างช้าในช่วงต้นปี 2565 ตามภาวะตลาดที่เหมาะสม
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
นายภนพินิต อุปถัมภ์ หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ ฝ่ายบริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปี 2564 บริษัทยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา คาดว่าจะเปิดให้บริการ วันที่ 27 ต.ค. และ เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา คาดจะเปิดให้บริการวันที่ 25 ก.ย. และบริษัทอยู่ระหว่างสรุปแผนลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2564 หรืออย่างช้าในปี 2565
สำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) บนที่ดินเดิมของสถานทูตอังกฤษ จำนวนประมาณ 23 ไร่ ผ่านบริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ฮ่องกงแลนด์ จำกัด (CHKL) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซีอี โฮลดิ้ง จำกัด (CE Holding) บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล และบริษัท เอชเคแอล (ไทย ดีเวลลอปเม้นท์) จำกัด (HKL) (Thai Development) บริษัทในกลุ่มฮ่องกงแลนด์ ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุน 1.39 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทจะทยอยลงทุนในระยะ 5-6 ปีข้างหน้า (2564-2569) ประกอบด้วยโครงการศูนย์การค้าจำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น และโครงการอาคารสำนักงาน จำนวน 2 อาคาร สูง 36 ชั้น ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการแต่ละเฟสภายหลังก่อสร้างแล้วประมาณ 2-3 ปี (2564-2566) ได้แก่ โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโครงการที่พักอาศัย ตามลำดับ
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปี 2563 ที่มีรายได้รวม 33,161.11 ล้านบาท แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 3 แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพราะมีปัจจัยหนุนจากการกระจายวัคซีน ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการใช้ศูนย์การค้าเป็นหน่วยบริการวัคซีนรวมทั้งสิ้น 8 แห่ง
ส่วนแนวโน้มของบริษัทในเครือ ได้แก่ บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) คาดว่า รายได้จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,588.83 ล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่อีกประมาณ 5 โครงการ รวมถึงมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้มูลค่ารวม 2.6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาท
ขณะที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาฯ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) เตรียมเข้าลงทุนในสินทรัพย์ใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และ เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี โดยคาดว่าจะพร้อมลงทุนภายในสิ้นปี 2564 หรืออย่างช้าในช่วงต้นปี 2565 ตามภาวะตลาดที่เหมาะสม
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
