โควิดหนุน‘เขาใหญ่’ทำเลฮอต! แห่ผุดบ้านหลังที่ 2 รับ Workation
พฤติกรรมชาวไทยที่ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านมากขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาด! รวมถึงการทำงานนอกสถานที่ หรือ "นอกสำนักงาน" โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานจากระยะไกล (Remote Working) ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหาร เจ้าของกิจการ สนใจปักหมุดบ้านหลังที่สอง ทำเลเป้าหมาย "เขาใหญ่" เพราะอากาศดี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รับเทรนด์ Workation
วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน (Work From Home : WFH) และเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการเริ่มมีการทำงานนอกสถานที่ (Work From Anywhere : WFA) โดยใช้เทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เข้ามารองรับการทำงานที่เปลี่ยนไป ส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน
"ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ในต่างจังหวัด เพื่อสามารถไปพักผ่อนและทำงานไปด้วยได้ จึงมองหาซื้อที่ดินรอบนอก ทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ เขาใหญ่"
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน พบว่า คนกรุงเทพฯ นิยมไปสร้างบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา กรุงเทพฯ กลายเป็นพื้นที่สีแดง ผู้สูงวัยที่เกษียณแล้วนิยมย้ายไปอยู่เขาใหญ่ เพราะอากาศดี เทียบกับเมืองท่องเที่ยวใหญ่อย่างเชียงใหม่จะมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะที่เขาใหญ่อากาศบริสุทธิ์ เพราะอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ที่สำคัญเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง รวมทั้งราคาที่ดินยังอยู่ในระดับที่พอซื้อหาได้
"การสร้างบ้านหลังที่ 2 เสมือนเป็นที่พักผ่อนให้ผู้สูงวัยอยู่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายอยู่ และใช้ชีวิตร่วมกันในวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์หลังคลายล็อกดาวน์ เขาใหญ่รถเริ่มติดมากขึ้น สำหรับโครงการบ้านหรูจะมีระดับราคาไม่ต่างจากกรุงเทพฯ แต่หากซื้อที่ดินสร้างบ้านเอง ต้องไปหาซื้อที่ดินภายนอกโครงการจะได้ราคาสมน้ำสมเนื้อตั้งแต่ 30,000-70,000 บาทต่อตารางวา ไปจนถึง 100,000 บาทต่อตารางวา แต่อาจมีปัญหาน้ำ ไฟ ไม่ค่อยสะดวกมากนัก รวมถึงถนนหนทาง ทำให้โครงการอสังหาฯ ในเขาใหญ่ขายไปได้เรื่อยๆ"
ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้คนกรุงเทพฯ สนใจเข้ามาซื้อที่ดินสร้างบ้านในเขาใหญ่เพิ่มขึ้น เพราะเจ้าของที่ดินต้องการขายที่ดินในระดับราคาที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่อยากสร้างบ้านหลังที่ 2 เพิ่มขึ้น
"ส่วนหนึ่งเจ้าของที่ไม่อยากแบกภาระภาษีที่ดิน เพราะรัฐมีแผนจัดเก็บเพิ่มขึ้น แม้ในปีที่ผ่านมาจะชะลอการจัดเก็บออกไปและมีแผนเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปอีก 1 ปี ช่วงเวลานี้จึงมีเจ้าของที่ดินประกาศขายที่ดินเพื่อลดภาระภาษีในอนาคต"
ปัจจุบัน เขาใหญ่กลายเป็นทำเลการสร้างบ้านราคาสูงสำหรับการสร้างบ้านหลังที่ 2 สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่มีฐานะ ส่วนใหญ่ราคาแต่ละหลัง 10 ล้านบาทขึ้นไป มีขนาด 1,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารบริษัท หรือเจ้าของกิจการ ประกอบกับแนวโน้มการใช้ชีวิตและทำงานที่เปลี่ยนมา Work From Home เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ ยังสามารถประชุมและสั่งการผ่านการทำงานจากระยะไกลได้ทุกที่ ซึ่งเขาใหญ่เป็นหนึ่งในทำเลที่ตอบโจทย์ ทั้งการทำงานและพักผ่อน หรือที่เรียกว่า Workation ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่ในสมาคมฯ สร้างบ้านให้แทนที่จะจ้างผู้รับเหมา เพราะต้องการความมั่นใจ ว่าได้บ้านตรงตามเวลาที่ต้องการ คุณภาพ ความสะดวกสบายใจ ทั้งการออกแบบ ดีไซน์ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ททรอปิคอลที่มีความทันสมัยเข้ากับบรรยากาศของเขาใหญ่ ที่เป็นบ้านพักตากอากาศ
"แนวโน้มของฐานลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงปี 2565 จะมีระดับราคาที่เพิ่มขึ้น 20-30 ล้านบาท"
ผู้เขียน : บุษกร ภู่แส
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบ : Kawpodmd on Wikimedia
วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน (Work From Home : WFH) และเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการเริ่มมีการทำงานนอกสถานที่ (Work From Anywhere : WFA) โดยใช้เทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เข้ามารองรับการทำงานที่เปลี่ยนไป ส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน
"ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ในต่างจังหวัด เพื่อสามารถไปพักผ่อนและทำงานไปด้วยได้ จึงมองหาซื้อที่ดินรอบนอก ทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ เขาใหญ่"
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน พบว่า คนกรุงเทพฯ นิยมไปสร้างบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา กรุงเทพฯ กลายเป็นพื้นที่สีแดง ผู้สูงวัยที่เกษียณแล้วนิยมย้ายไปอยู่เขาใหญ่ เพราะอากาศดี เทียบกับเมืองท่องเที่ยวใหญ่อย่างเชียงใหม่จะมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะที่เขาใหญ่อากาศบริสุทธิ์ เพราะอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ที่สำคัญเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง รวมทั้งราคาที่ดินยังอยู่ในระดับที่พอซื้อหาได้
"การสร้างบ้านหลังที่ 2 เสมือนเป็นที่พักผ่อนให้ผู้สูงวัยอยู่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายอยู่ และใช้ชีวิตร่วมกันในวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์หลังคลายล็อกดาวน์ เขาใหญ่รถเริ่มติดมากขึ้น สำหรับโครงการบ้านหรูจะมีระดับราคาไม่ต่างจากกรุงเทพฯ แต่หากซื้อที่ดินสร้างบ้านเอง ต้องไปหาซื้อที่ดินภายนอกโครงการจะได้ราคาสมน้ำสมเนื้อตั้งแต่ 30,000-70,000 บาทต่อตารางวา ไปจนถึง 100,000 บาทต่อตารางวา แต่อาจมีปัญหาน้ำ ไฟ ไม่ค่อยสะดวกมากนัก รวมถึงถนนหนทาง ทำให้โครงการอสังหาฯ ในเขาใหญ่ขายไปได้เรื่อยๆ"
ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้คนกรุงเทพฯ สนใจเข้ามาซื้อที่ดินสร้างบ้านในเขาใหญ่เพิ่มขึ้น เพราะเจ้าของที่ดินต้องการขายที่ดินในระดับราคาที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่อยากสร้างบ้านหลังที่ 2 เพิ่มขึ้น
"ส่วนหนึ่งเจ้าของที่ไม่อยากแบกภาระภาษีที่ดิน เพราะรัฐมีแผนจัดเก็บเพิ่มขึ้น แม้ในปีที่ผ่านมาจะชะลอการจัดเก็บออกไปและมีแผนเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปอีก 1 ปี ช่วงเวลานี้จึงมีเจ้าของที่ดินประกาศขายที่ดินเพื่อลดภาระภาษีในอนาคต"
ปัจจุบัน เขาใหญ่กลายเป็นทำเลการสร้างบ้านราคาสูงสำหรับการสร้างบ้านหลังที่ 2 สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่มีฐานะ ส่วนใหญ่ราคาแต่ละหลัง 10 ล้านบาทขึ้นไป มีขนาด 1,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารบริษัท หรือเจ้าของกิจการ ประกอบกับแนวโน้มการใช้ชีวิตและทำงานที่เปลี่ยนมา Work From Home เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ ยังสามารถประชุมและสั่งการผ่านการทำงานจากระยะไกลได้ทุกที่ ซึ่งเขาใหญ่เป็นหนึ่งในทำเลที่ตอบโจทย์ ทั้งการทำงานและพักผ่อน หรือที่เรียกว่า Workation ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่ในสมาคมฯ สร้างบ้านให้แทนที่จะจ้างผู้รับเหมา เพราะต้องการความมั่นใจ ว่าได้บ้านตรงตามเวลาที่ต้องการ คุณภาพ ความสะดวกสบายใจ ทั้งการออกแบบ ดีไซน์ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ททรอปิคอลที่มีความทันสมัยเข้ากับบรรยากาศของเขาใหญ่ ที่เป็นบ้านพักตากอากาศ
"แนวโน้มของฐานลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงปี 2565 จะมีระดับราคาที่เพิ่มขึ้น 20-30 ล้านบาท"
ผู้เขียน : บุษกร ภู่แส
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบ : Kawpodmd on Wikimedia
