ปลดหนี้บ้านไว สไตล์มนุษย์เงินเดือน
ใครที่เคยกู้ซื้อบ้านคงเข้าใจดีค่ะ ว่าการมีภาระผ่อนบ้านนั้น หนักเหมือนการแบกก้อนหินทั้งก้อนไว้บนหลังกันเลยทีเดียว ยิ่งแบกไว้นานก็ยิ่งเหนื่อย สำหรักลูกหนี้การปลดหนี้ให้เร็วที่สุดคงเป็นอีกหนึ่งความฝันที่อยากให้เกิดขึ้นจริง แต่ด้วยความที่หนี้นั้นมีขนาดใหญ่ ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มีในแต่ละเดือนอีก แต่ถึงแม้ว่ามันจะยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางทำได้นะคะ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจลักษณะ “การผ่อนบ้าน” ก่อนนะคะ โดยปกติแล้วค่างวดที่เราส่งให้กับธนาคารในทุกๆ เดือนนั้น จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เงินต้นและดอกเบี้ย โดยแบงก์จะเอาค่างวดไปจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก่อนแล้วจึงเอาไปหักเงินต้น ว่าเป็นการคำนวณแบบ "ลดต้นลดดอก" คือยิ่งผ่อนไปตัดเงินต้นให้น้อยลงได้เท่าไร ดอกเบี้ยก็ยิ่งน้อยลงตามสัดส่วนเงินต้นที่หายไปค่ะ
ดังนั้น วิธีที่เราจะสามารถทำให้หนี้ของเราหมดไวได้ ก็คือการลดเงินต้นค่ะ ยิ่งลดเงินต้นลง ดอกเบี้ยก็จะยิ่งน้อยลง เราจึงสามารถผ่อนบ้านให้หมดได้ไวยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ อีกข้อดีของการลดเงินต้นคือ หากเรานำค่างวดทั้งหมดที่จ่ายไปมากคำนวณรวมกัน คุณจะพบว่าคุณได้บ้านมาในราคาต่ำกว่ากรณีที่ผ่อนขั้นต่ำตามหน้าสัญญาพอสมควรเลยค่ะ
แล้วเราจะลดต้นลดดอกได้อย่างไร? ในเมื่อเราก็ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เข้ามาคงที่ อันนี้ต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจของคุณค่ะ
1. ผ่อนสม่ำเสมอ ให้เรานึกไว้เสมอว่ายิ่งผ่อนนานยิ่งจ่ายแพง เพราะดอกเบี้ยแปรผันตามเวลา ดังนั้นเพื่อช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากเกินจำเป็น การค่อย ๆ ผ่อนค่างวดไปโดยไม่ขาดช่วงจะทำให้เงินต้นค่อย ๆ ลดลงได้ค่ะ
2. จ่ายเกินเข้าไว้ เงินค่าผ่อนบ้านที่เราจ่ายให้กับธนาคารทุกเดือน จะถูกเอาจ่ายดอกเบี้ยก่อนแล้วจึงไปตัดเงินต้น ยิ่งเดือนไหนเราจ่ายน้อยกว่าค่างวดที่คำนวณไว้ก็อาจจะพอแค่ดอกเบี้ยด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกันหากเราจ่ายมากกว่าค่างวด เงินส่วนที่เกินก็จะถูกนำไปตัดเงินต้นลง ยิ่งเราผ่อนมากกว่าค่างวดเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้นค่ะ การผ่อนมากขึ้น 1 เท่าตัวจะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านเสร็จเร็วขึ้นถึง 70% เลยนะคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา จ่ายให้มากกว่าค่างวดอีกนิดก็ช่วยได้พอสมควรแล้วค่ะ หรือถ้าเดือนไหนตึงจริง ๆ ก็อย่าฝืน ผ่อนตามที่ผ่อนไหวนะคะ
3. จ่ายเพิ่มปีละครั้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้ คล้ายกับการเพิ่มเงินจ่ายในทุกๆ งวด แต่จะเป็นการจ่ายเพิ่มอีกงวดหนึ่งแทน จากเดิมที่คุณผ่อนจ่าย 12 ครั้งต่อปี ก็กลายมาเป็น 13 ครั้งต่อปี แม้ที่จ่ายเพิ่มจะไม่ได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ช่วยลดจำนวนเงินต้นลงไปได้ในระดับหนึ่งค่ะ 4. ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หลังจากเราผ่อนบ้านไประยะหนึ่ง ดอกเบี้ยปีหลังๆ จะเพิ่มสูงขึ้น แถมเป็นดอกเบี้ยลอยตัวตาม MRR อีกต่างหาก ดังนั้นเพื่อให้คุณยังสามารถผ่อนจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่สูงเกินไปได้ คุณสามารถเลือกปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้คือ การ Retention (รีเทนชั่น) กับธนาคารเดิม และการ Refinance (รีไฟแนนซ์) กับธนาคารอื่น ที่คุณสามารถเลือกได้มากมาย ซึ่งทั้งการ Retention และ Refinance สามารถทำได้เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการมีหนี้บ้านของคุณเลยค่ะ
5. มีเงินก้อนต้องโปะ หากคุณมีเงินจำนวนหนึ่งหรือคุณได้โบนัสจากทางบริษัทของทุกๆปี แนะนำให้นำเงินส่วนนั้นมาโปะค่าบ้าน เพื่อเป็นการลดเงินต้นลงให้เร็วขึ้น นอกจากจะลดระยะเวลาในการชำระหนี้แล้ว ดอกเบี้ยที่คุณจะต้องเสียก็ยังลดลงอีกด้วยนะคะ
6. อย่าสร้างหนี้สิ้นเพิ่ม นอกจากวิธีการผ่อนบ้านต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว คุณจะต้องมีวินัยในตัวเองโดยการไม่สร้างหนี้สินเพิ่ม เพราะแค่หนี้จากการผ่อนบ้านก็เป็นภาระที่ใหญ่มากพออยู่แล้ว หากคุณยังเลือกที่จะผ่อนนั่นผ่อนนี่เพิ่มภาระให้กับตัวเองอีก หนี้สินของคุณก็ยิ่งทับซ้อนเพิ่มขึ้น การปลดหนี้บ้านก็จะยิ่งเนิ่นนานไปเรื่อย ๆ ค่ะ
จากที่กล่าวมาข้างต้น คุณสามารถวางแผนชีวิตในการผ่อนบ้านให้ดี โดยพิจารณาจากสภาพคล่องทางการเงินอย่างรอบคอบ ประกอบกับการมีวินัยในการผ่อนชำระให้ตรงเวลา เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้ภายในระยะเวลาที่ต้องการได้เลยค่ะ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ผู้เขียน : บัสลา ZmyHome
ภาพประกอบ : Image by rawpixel.com on Freepik
ก่อนอื่นต้องเข้าใจลักษณะ “การผ่อนบ้าน” ก่อนนะคะ โดยปกติแล้วค่างวดที่เราส่งให้กับธนาคารในทุกๆ เดือนนั้น จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เงินต้นและดอกเบี้ย โดยแบงก์จะเอาค่างวดไปจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก่อนแล้วจึงเอาไปหักเงินต้น ว่าเป็นการคำนวณแบบ "ลดต้นลดดอก" คือยิ่งผ่อนไปตัดเงินต้นให้น้อยลงได้เท่าไร ดอกเบี้ยก็ยิ่งน้อยลงตามสัดส่วนเงินต้นที่หายไปค่ะ
ดังนั้น วิธีที่เราจะสามารถทำให้หนี้ของเราหมดไวได้ ก็คือการลดเงินต้นค่ะ ยิ่งลดเงินต้นลง ดอกเบี้ยก็จะยิ่งน้อยลง เราจึงสามารถผ่อนบ้านให้หมดได้ไวยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ อีกข้อดีของการลดเงินต้นคือ หากเรานำค่างวดทั้งหมดที่จ่ายไปมากคำนวณรวมกัน คุณจะพบว่าคุณได้บ้านมาในราคาต่ำกว่ากรณีที่ผ่อนขั้นต่ำตามหน้าสัญญาพอสมควรเลยค่ะ
แล้วเราจะลดต้นลดดอกได้อย่างไร? ในเมื่อเราก็ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เข้ามาคงที่ อันนี้ต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจของคุณค่ะ
1. ผ่อนสม่ำเสมอ ให้เรานึกไว้เสมอว่ายิ่งผ่อนนานยิ่งจ่ายแพง เพราะดอกเบี้ยแปรผันตามเวลา ดังนั้นเพื่อช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากเกินจำเป็น การค่อย ๆ ผ่อนค่างวดไปโดยไม่ขาดช่วงจะทำให้เงินต้นค่อย ๆ ลดลงได้ค่ะ
2. จ่ายเกินเข้าไว้ เงินค่าผ่อนบ้านที่เราจ่ายให้กับธนาคารทุกเดือน จะถูกเอาจ่ายดอกเบี้ยก่อนแล้วจึงไปตัดเงินต้น ยิ่งเดือนไหนเราจ่ายน้อยกว่าค่างวดที่คำนวณไว้ก็อาจจะพอแค่ดอกเบี้ยด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกันหากเราจ่ายมากกว่าค่างวด เงินส่วนที่เกินก็จะถูกนำไปตัดเงินต้นลง ยิ่งเราผ่อนมากกว่าค่างวดเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้นค่ะ การผ่อนมากขึ้น 1 เท่าตัวจะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านเสร็จเร็วขึ้นถึง 70% เลยนะคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา จ่ายให้มากกว่าค่างวดอีกนิดก็ช่วยได้พอสมควรแล้วค่ะ หรือถ้าเดือนไหนตึงจริง ๆ ก็อย่าฝืน ผ่อนตามที่ผ่อนไหวนะคะ
3. จ่ายเพิ่มปีละครั้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้ คล้ายกับการเพิ่มเงินจ่ายในทุกๆ งวด แต่จะเป็นการจ่ายเพิ่มอีกงวดหนึ่งแทน จากเดิมที่คุณผ่อนจ่าย 12 ครั้งต่อปี ก็กลายมาเป็น 13 ครั้งต่อปี แม้ที่จ่ายเพิ่มจะไม่ได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ช่วยลดจำนวนเงินต้นลงไปได้ในระดับหนึ่งค่ะ 4. ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หลังจากเราผ่อนบ้านไประยะหนึ่ง ดอกเบี้ยปีหลังๆ จะเพิ่มสูงขึ้น แถมเป็นดอกเบี้ยลอยตัวตาม MRR อีกต่างหาก ดังนั้นเพื่อให้คุณยังสามารถผ่อนจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่สูงเกินไปได้ คุณสามารถเลือกปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้คือ การ Retention (รีเทนชั่น) กับธนาคารเดิม และการ Refinance (รีไฟแนนซ์) กับธนาคารอื่น ที่คุณสามารถเลือกได้มากมาย ซึ่งทั้งการ Retention และ Refinance สามารถทำได้เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการมีหนี้บ้านของคุณเลยค่ะ
5. มีเงินก้อนต้องโปะ หากคุณมีเงินจำนวนหนึ่งหรือคุณได้โบนัสจากทางบริษัทของทุกๆปี แนะนำให้นำเงินส่วนนั้นมาโปะค่าบ้าน เพื่อเป็นการลดเงินต้นลงให้เร็วขึ้น นอกจากจะลดระยะเวลาในการชำระหนี้แล้ว ดอกเบี้ยที่คุณจะต้องเสียก็ยังลดลงอีกด้วยนะคะ
6. อย่าสร้างหนี้สิ้นเพิ่ม นอกจากวิธีการผ่อนบ้านต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว คุณจะต้องมีวินัยในตัวเองโดยการไม่สร้างหนี้สินเพิ่ม เพราะแค่หนี้จากการผ่อนบ้านก็เป็นภาระที่ใหญ่มากพออยู่แล้ว หากคุณยังเลือกที่จะผ่อนนั่นผ่อนนี่เพิ่มภาระให้กับตัวเองอีก หนี้สินของคุณก็ยิ่งทับซ้อนเพิ่มขึ้น การปลดหนี้บ้านก็จะยิ่งเนิ่นนานไปเรื่อย ๆ ค่ะ
จากที่กล่าวมาข้างต้น คุณสามารถวางแผนชีวิตในการผ่อนบ้านให้ดี โดยพิจารณาจากสภาพคล่องทางการเงินอย่างรอบคอบ ประกอบกับการมีวินัยในการผ่อนชำระให้ตรงเวลา เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้ภายในระยะเวลาที่ต้องการได้เลยค่ะ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ผู้เขียน : บัสลา ZmyHome
ภาพประกอบ : Image by rawpixel.com on Freepik
