กระจก TEMPERED แข็ง ทน เครียด
โดย นิธิพันธ์ วิประวิทย์
ผลิตภัณฑ์ประเภทกระจกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ แม้เห็นเป็นแผ่นใสๆ เหมือนกัน แต่มีประเภทมากมาย สำหรับงานก่อสร้างอาคารเล็กๆ บ้านพักอาศัย เราใช้กระจกธรรมดาๆ (ภาษาทางเทคนิคเรียก Anneal Glass หรือ Float Glass) ซึ่งกระจกประเภทที่ว่า เวลาเกิดความเสียหาย จะร้าวและแตกเป็นแผ่นๆ ซึ่งมีคมและอันตรายมาก ลองคิดถึงกรณีที่กระจกใสบานใหญ่ๆ มีคนเผลอเดินชนจนแตก กระจกที่ร้าวและแตกเป็นแผ่นๆ นี่แหละครับ จะหล่นลงมาทำหน้าที่ดั่งเครื่องประหารกิโยตินดีๆ นี่เอง
ทางแก้ง่ายๆ ก็คือทำให้กระจกหนาขึ้น จะได้แข็งแรงขึ้น ซึ่งก็ถูกต้องส่วนหนึ่งครับ ถ้าหากกระจกมีความหนามากพอ ขอแค่ไม่แตก ก็ไม่บาด
เมื่อกระจกผ่านร้อนผ่านหนาว แต่ด้วยการแก้ปัญหาทางวัสดุศาสตร์ มีการค้นพบว่า ถ้านำกระจกธรรมด๊า ธรรมดา ไปเผาให้ความร้อนที่เหมาะสมแล้วทำให้เย็นอย่างรวดเร็วอีกรอบ จะได้กระจกที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ แข็งแรงขึ้น ทนอุณหภูมิสูง ได้มากขึ้น และมีความเครียดมากขึ้น (ประหนึ่งคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ย่อมทนต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกได้มากขึ้น และเครียดมากขึ้น? – ส่วนถ้างงว่ากระจกมีความเครียดคืออะไร ขอให้อดใจอ่านต่อไปซักพัก)
เนื่องจากกระจกที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้เกิดจากการเล่นกับอุณหภูมิ กระจกเหล่านี้จึงมีชื่อว่า กระจก Tempered หรือ Tempered Glass กระจก Tempered จะมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นจากกระจก Anneal ประมาณ 4-5 เท่า มากพอที่จะใช้กระจกเปลือยมาทำเป็นบานประตู โดยไม่ต้องมีกรอบประตูเลย ซึ่งประตูกระจกเปลือยทั้งหลายที่เห็นๆ กันก็คือกระจก Tempered นี่แหละครับ (เช่นประตูกระจกในห้องอาบน้ำ) กระจกที่มีกรอบก็ใช้กระจก Tempered ได้นะครับ ซึ่งก็จะได้คุณสมบัติที่แข็งแรงขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น ที่ปลอดภัยมากขึ้น เพราะกระจก Tempered แตกเป็นเม็ดเล็กๆ
เนื่องจากการผ่านอุณหภูมิร้อนและเย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อกระจกมีคุณสมบัติเกิดแรงเครียดบีบคั้นเกิดเป็นแนวเส้นแรงอยู่ภายในผืนกระจก ทำให้กระจกมีสภาพเป็นหนึ่งเดียวกัน (ลองนึกถึงอะไรที่อยู่กันอย่างหลวมๆ ก็จะเปราะบาง แต่อะไรที่เชื่อมติดกันอย่างเหนียวแน่นทั้งผืนก็จะเข็มแข็ง) จึงทำให้กระจกแข็งแรง แต่ความเครียดและเส้นแรงที่เป็นหนึ่งเดียวกันภายในผืนกระจกทำให้เมื่อกระจก Tempered แตก จะแตกทั่วทั้งผืนโดยพร้อมเพรียงกัน
อย่างไรก็ดี การแตกเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่ได้ทำให้กระจก Tempered เป็นกระจกที่ปลอดภัยเพียงพอที่จะใช้ในที่สูงๆ เพราะถ้าหล่นลงมาจากที่สูงก็ยังทำให้คนข้างล่างได้รับบาดเจ็บอยู่ดี แต่สำหรับการแตกหล่นเป็นเม็ดในระดับไม่สูงมาก ก็นับว่าปลอดภัยกว่ากระจก Anneal เยอะ
ข้อควรระวังเมื่อใช้กระจก Tempered กระจก Tempered มีข้อเสียคือ จะเจาะตัดเพิ่มเติมอะไรไม่ได้ครับ เพราะเนื้อกระจกมันมีความเป็นหนึ่งเดียวซะแล้ว จะเจาะจะตัดก็มีอันต้องแตกทั้งบาน (อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกันทั้งบาน) ถ้าจะเจาะหรือตัดต้องทำตั้งแต่ก่อนขั้นตอนผ่านอุณหภูมิร้อนเย็นที่ว่า เพราะฉะนั้นถ้าจะเอากระจก Tempered ที่ไหนมาใช้ใหม่(Reuse) ก็ต้องใช้ในขนาดเท่าเดิมและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้รูเจาะระยะตามประตูเดิมเท่านั้น ไม่สามารถ ตัด แต่ง เจียร อะไรได้อีก นอกจากนี้กระจก Tempered ยังอาจมีผิวเป็นคลื่นและไม่เรียบ ซึ่งถ้าใช้กับตึกสูงเป็นแผงใหญ่จะสังเกตเห็นได้ชัด และยังมีแนวโน้มที่อาจจะอยู่ดีๆ ก็แตกเองได้ โดยไม่มีอะไรไปกระทบโดยเฉพาะ หากในกระบวนการผลิตมีสารนิเกิลซัลไฟล์ปนเปื้อน แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์ไม่มากนัก
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ผลิตภัณฑ์ประเภทกระจกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ แม้เห็นเป็นแผ่นใสๆ เหมือนกัน แต่มีประเภทมากมาย สำหรับงานก่อสร้างอาคารเล็กๆ บ้านพักอาศัย เราใช้กระจกธรรมดาๆ (ภาษาทางเทคนิคเรียก Anneal Glass หรือ Float Glass) ซึ่งกระจกประเภทที่ว่า เวลาเกิดความเสียหาย จะร้าวและแตกเป็นแผ่นๆ ซึ่งมีคมและอันตรายมาก ลองคิดถึงกรณีที่กระจกใสบานใหญ่ๆ มีคนเผลอเดินชนจนแตก กระจกที่ร้าวและแตกเป็นแผ่นๆ นี่แหละครับ จะหล่นลงมาทำหน้าที่ดั่งเครื่องประหารกิโยตินดีๆ นี่เอง
ทางแก้ง่ายๆ ก็คือทำให้กระจกหนาขึ้น จะได้แข็งแรงขึ้น ซึ่งก็ถูกต้องส่วนหนึ่งครับ ถ้าหากกระจกมีความหนามากพอ ขอแค่ไม่แตก ก็ไม่บาด
เมื่อกระจกผ่านร้อนผ่านหนาว แต่ด้วยการแก้ปัญหาทางวัสดุศาสตร์ มีการค้นพบว่า ถ้านำกระจกธรรมด๊า ธรรมดา ไปเผาให้ความร้อนที่เหมาะสมแล้วทำให้เย็นอย่างรวดเร็วอีกรอบ จะได้กระจกที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ แข็งแรงขึ้น ทนอุณหภูมิสูง ได้มากขึ้น และมีความเครียดมากขึ้น (ประหนึ่งคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ย่อมทนต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกได้มากขึ้น และเครียดมากขึ้น? – ส่วนถ้างงว่ากระจกมีความเครียดคืออะไร ขอให้อดใจอ่านต่อไปซักพัก)
เนื่องจากกระจกที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้เกิดจากการเล่นกับอุณหภูมิ กระจกเหล่านี้จึงมีชื่อว่า กระจก Tempered หรือ Tempered Glass กระจก Tempered จะมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นจากกระจก Anneal ประมาณ 4-5 เท่า มากพอที่จะใช้กระจกเปลือยมาทำเป็นบานประตู โดยไม่ต้องมีกรอบประตูเลย ซึ่งประตูกระจกเปลือยทั้งหลายที่เห็นๆ กันก็คือกระจก Tempered นี่แหละครับ (เช่นประตูกระจกในห้องอาบน้ำ) กระจกที่มีกรอบก็ใช้กระจก Tempered ได้นะครับ ซึ่งก็จะได้คุณสมบัติที่แข็งแรงขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น ที่ปลอดภัยมากขึ้น เพราะกระจก Tempered แตกเป็นเม็ดเล็กๆ
เนื่องจากการผ่านอุณหภูมิร้อนและเย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อกระจกมีคุณสมบัติเกิดแรงเครียดบีบคั้นเกิดเป็นแนวเส้นแรงอยู่ภายในผืนกระจก ทำให้กระจกมีสภาพเป็นหนึ่งเดียวกัน (ลองนึกถึงอะไรที่อยู่กันอย่างหลวมๆ ก็จะเปราะบาง แต่อะไรที่เชื่อมติดกันอย่างเหนียวแน่นทั้งผืนก็จะเข็มแข็ง) จึงทำให้กระจกแข็งแรง แต่ความเครียดและเส้นแรงที่เป็นหนึ่งเดียวกันภายในผืนกระจกทำให้เมื่อกระจก Tempered แตก จะแตกทั่วทั้งผืนโดยพร้อมเพรียงกัน
อย่างไรก็ดี การแตกเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่ได้ทำให้กระจก Tempered เป็นกระจกที่ปลอดภัยเพียงพอที่จะใช้ในที่สูงๆ เพราะถ้าหล่นลงมาจากที่สูงก็ยังทำให้คนข้างล่างได้รับบาดเจ็บอยู่ดี แต่สำหรับการแตกหล่นเป็นเม็ดในระดับไม่สูงมาก ก็นับว่าปลอดภัยกว่ากระจก Anneal เยอะ
ข้อควรระวังเมื่อใช้กระจก Tempered กระจก Tempered มีข้อเสียคือ จะเจาะตัดเพิ่มเติมอะไรไม่ได้ครับ เพราะเนื้อกระจกมันมีความเป็นหนึ่งเดียวซะแล้ว จะเจาะจะตัดก็มีอันต้องแตกทั้งบาน (อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกันทั้งบาน) ถ้าจะเจาะหรือตัดต้องทำตั้งแต่ก่อนขั้นตอนผ่านอุณหภูมิร้อนเย็นที่ว่า เพราะฉะนั้นถ้าจะเอากระจก Tempered ที่ไหนมาใช้ใหม่(Reuse) ก็ต้องใช้ในขนาดเท่าเดิมและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้รูเจาะระยะตามประตูเดิมเท่านั้น ไม่สามารถ ตัด แต่ง เจียร อะไรได้อีก นอกจากนี้กระจก Tempered ยังอาจมีผิวเป็นคลื่นและไม่เรียบ ซึ่งถ้าใช้กับตึกสูงเป็นแผงใหญ่จะสังเกตเห็นได้ชัด และยังมีแนวโน้มที่อาจจะอยู่ดีๆ ก็แตกเองได้ โดยไม่มีอะไรไปกระทบโดยเฉพาะ หากในกระบวนการผลิตมีสารนิเกิลซัลไฟล์ปนเปื้อน แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์ไม่มากนัก
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
