ปกป้องบ้านอย่างไรไม่ให้ร้อน?
ประเทศไทยเป็นประเทศที่เดินทางผ่าน 3 ฤดูอย่างเท่าเทียมโดยมีความร้อนเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนปกติ ฤดูร้อนชื้น และฤดูร้อนแห้งๆ ซึ่งหากกาปฏิทิน 365 วันจะพบว่ามีวันที่ไม่ร้อนอยู่ไม่กี่วันหรอก เนื่องด้วยประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ทำให้หลายครั้งในช่วงเวลากลางวัน เมื่อแหงนหน้ามองไปนอกบ้านแล้วจะพบกับแสงแดดคอยต้อนรับอย่างดุเดือด ชนิดที่สร้างความขี้เกียจจนไม่อยากออกไปนอกบ้าน แต่ทว่าด้วยอุณหภูมิสะสม ทำให้บางครั้งภายในบ้านหรือคอนโดก็อาจเกิดความร้อนเข้ามาสู่ภายในได้
แล้วเราควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ให้ที่พักพิงเราเก็บความร้อนจนอยู่ไม่ได้ และช่วยผ่อนร้อนให้เป็นเย็นลงได้บ้าง ด้วยวิวัฒนาการและความก้าวหน้าของโลก ทำให้วัสดุมากมายได้ถูกพัฒนาเพื่อเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้บ้านหรือที่พักอาศัยได้รับการปกป้องจากความร้อน และนี่ก็คือ 3 วิธีที่สามารถทำได้และหาซื้อได้ไม่ยากเย็น
- ฉนวนกันความร้อน สภาพความเป็นจริงตามธรรมชาติคือ ดวงอาทิตย์มักจะอยู่บนเหนือหัวของมนุษย์และสาดส่องมายังโลกเพื่อให้แสงสว่าง ซึ่งในยามเช้ามันก็ให้ความรู้สึกสดใสและอบอุ่นดี เพียงแต่ความเหิมเกริมในช่วงเที่ยงและบ่าย ทำให้หลังคาอาจทุรนทุรายจนต้องร้องขอชีวิต และเมื่อหลังคาบ้านร้อน จึงทำให้อุณหภูมิในตัวบ้านร้อนตาม ซึ่งวิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือ การติดตั้งฉนวนกันความร้อน ซึ่งวัสดุจะประกอบไปด้วยใยแก้วที่ทำหน้าที่ป้องกันความร้อน ผนวกรวมกับอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ช่วยสะท้อนความร้อน การติดตั้งดังกล่าวสามารถทำได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือใหม่ และสามารถช่วยให้บ้านนั้นมีความเย็นมากขึ้น จากการป้องกันจากชั้นด้านบนตั้งแต่หลังคาลงมา โดยเฉพาะทางฝั่งทิศตะวันตกที่แสงแดดจะร้อนแรงนั้น เป็นทิศสุดฮิตติดลมบนที่ควรจะติดตั้งอย่างยิ่ง
- ฝ้าภายใน หลังจากผ่านหลังคามาแล้ว อีกส่วนที่สำคัญที่อยู่ภายในบ้านและรักษาความสวยงามให้บ้านได้ด้วยนั่นก็คือ ฝ้า โดยควรเลือกฝ้าที่มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนชื้นได้ดี และไม่มีใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากเราไม่สามารถห้ามแสงอาทิตย์ฉายแสงความร้อนเข้ามาได้และอุณหภูมิกรุ่นๆ ก็ยังคงติดอยู่ที่โถงใต้หลังคา ดังนั้น การนำฝ้าที่ช่วยกันความร้อนได้ดีก็จะช่วยกรองให้ห้องเย็นได้อีกชั้น และยังช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านด้วย
- ผนังบ้าน หลังจากปกป้องความร้อนจากมุมสูงกันแล้ว ด้านข้างก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือตรงส่วนของผนัง ที่ต้องรับหน้าเข้าหาแสงแดด ซึ่งการเลือกวัสดุเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ๆ โดยควรเลือกวัสดุที่ไม่กักเก็บความร้อนอย่าง อิฐมวลเบา ที่ช่วยกันความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญหลายเท่า เพื่อรักษาความเย็นให้กับบ้านไปได้นานๆ
จากใจ ZmyHome ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
แล้วเราควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ให้ที่พักพิงเราเก็บความร้อนจนอยู่ไม่ได้ และช่วยผ่อนร้อนให้เป็นเย็นลงได้บ้าง ด้วยวิวัฒนาการและความก้าวหน้าของโลก ทำให้วัสดุมากมายได้ถูกพัฒนาเพื่อเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้บ้านหรือที่พักอาศัยได้รับการปกป้องจากความร้อน และนี่ก็คือ 3 วิธีที่สามารถทำได้และหาซื้อได้ไม่ยากเย็น
- ฉนวนกันความร้อน สภาพความเป็นจริงตามธรรมชาติคือ ดวงอาทิตย์มักจะอยู่บนเหนือหัวของมนุษย์และสาดส่องมายังโลกเพื่อให้แสงสว่าง ซึ่งในยามเช้ามันก็ให้ความรู้สึกสดใสและอบอุ่นดี เพียงแต่ความเหิมเกริมในช่วงเที่ยงและบ่าย ทำให้หลังคาอาจทุรนทุรายจนต้องร้องขอชีวิต และเมื่อหลังคาบ้านร้อน จึงทำให้อุณหภูมิในตัวบ้านร้อนตาม ซึ่งวิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือ การติดตั้งฉนวนกันความร้อน ซึ่งวัสดุจะประกอบไปด้วยใยแก้วที่ทำหน้าที่ป้องกันความร้อน ผนวกรวมกับอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ช่วยสะท้อนความร้อน การติดตั้งดังกล่าวสามารถทำได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือใหม่ และสามารถช่วยให้บ้านนั้นมีความเย็นมากขึ้น จากการป้องกันจากชั้นด้านบนตั้งแต่หลังคาลงมา โดยเฉพาะทางฝั่งทิศตะวันตกที่แสงแดดจะร้อนแรงนั้น เป็นทิศสุดฮิตติดลมบนที่ควรจะติดตั้งอย่างยิ่ง
- ฝ้าภายใน หลังจากผ่านหลังคามาแล้ว อีกส่วนที่สำคัญที่อยู่ภายในบ้านและรักษาความสวยงามให้บ้านได้ด้วยนั่นก็คือ ฝ้า โดยควรเลือกฝ้าที่มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนชื้นได้ดี และไม่มีใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากเราไม่สามารถห้ามแสงอาทิตย์ฉายแสงความร้อนเข้ามาได้และอุณหภูมิกรุ่นๆ ก็ยังคงติดอยู่ที่โถงใต้หลังคา ดังนั้น การนำฝ้าที่ช่วยกันความร้อนได้ดีก็จะช่วยกรองให้ห้องเย็นได้อีกชั้น และยังช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านด้วย
- ผนังบ้าน หลังจากปกป้องความร้อนจากมุมสูงกันแล้ว ด้านข้างก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือตรงส่วนของผนัง ที่ต้องรับหน้าเข้าหาแสงแดด ซึ่งการเลือกวัสดุเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ๆ โดยควรเลือกวัสดุที่ไม่กักเก็บความร้อนอย่าง อิฐมวลเบา ที่ช่วยกันความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญหลายเท่า เพื่อรักษาความเย็นให้กับบ้านไปได้นานๆ
จากใจ ZmyHome ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
