ทำไมสีถึงโป่งและหลุดร่อน?
ในหน้าฝน เรามักได้ยินว่าต้องระวังเรื่องการทาสี เพราะการทาสีผนังในหน้าฝนอาจทำให้สีไม่ยึดติดคงทน หลุดร่อนจากผนังได้ง่าย ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง ที่จริงการทาสีหน้าฝนพอทำได้ แต่ต้องทิ้งผนังไว้ให้แห้งสักพัก ซึ่งจะให้บอกเป็นระยะเวลาแน่นอนได้ไม่ง่ายนัก เพราะแล้วแต่สถานการณ์ เช่นถ้าผนังนั้นมีช่วงเวลาที่โดนแดดอาจจะรอไม่ถึงครึ่งวัน แต่ถ้าฝนตกความชื้นสูง ก็ต้องรอนาน
แต่สาเหตุที่สีหลุดร่อนยังมีอีกมาก โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักๆ ดังนี้
1. ผนังชื้น ซึ่งก็คือสถานการณ์ที่อธิบายไปข้างต้น เนื่องจากน้ำในผนังพยายามจะระเหยออกมาภายนอก ส่วนสีที่เราทาบนผนังจะมีฟิล์มสีที่คอยปกป้องผนัง เมื่อน้ำจะระเหย ส่วนฟิล์มสีที่เคลือบผิวไว้หนาแน่นเกินกว่าน้ำจะระเหยออกโดยง่าย ผลก็คือไอน้ำจะดันสีออกมาทั้งแผ่น ถ้าเนื้อสียึดเป็นแผ่นกันเหนียวแน่นสีก็จะโป่ง ส่วนถ้าเนื้อสีไม่เหนียวแน่นก็จะลอกออกมาเป็นแผ่นๆ
ที่จริงผนังชื้นอาจไม่ได้มาจากขั้นตอนการทาสีเพียงอย่างเดียว ท่อแตกมีน้ำรั่วซึมในผนัง หรือผนังอีกฝั่งมีน้ำซึมจากการสัมผัสน้ำ เช่น เป็นห้องน้ำ เป็นถังเก็บน้ำ แต่ทำระบบกันซึมไม่ดี หรือมีความชื้นจากพื้นดินซึมจากฐานผนัง ก็เป็นแหล่งสะสมความชื้นในผนังได้เช่นกัน ผนังที่อยู่ด้านตรงข้ามกับแหล่งสะสมความชื้น จึงโป่งและลอกได้ง่าย ๆ เสมอ
2. ผนังสกปรก เหตุผลนี้เป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่ใช้กับหลักการติดวัสดุทุกชนิด เพราะในเมื่อมันสกปรก เศษผงย่อมขัดขวางการติดกันระหว่างผนังกับเนื้อสี ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง คราบน้ำมัน คราบเกลือ จะทำให้สีรองพื้น และหรือสีทาผนังไม่สามารถเกาะติดกับผนังได้ดี ฉะนั้นในขั้นตอนการทาสี ต้องทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อยก่อนทา
3. ผนังมีเคมีไม่ตรงกันกับสี (พูดอย่างกับชีวิตการคบเพื่อนคบแฟน) แต่ที่จริงหมายถึงสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของผนังไม่เข้ากับสี ประเด็นนี้นี่แหละที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสีรองพื้นขึ้นมาในวงการก่อสร้าง สีรองพื้นมิได้เอาไว้ปกปิดกระ ฝ้า (นั่นมันรองพื้นแต่งหน้า!) แต่สีรองพื้นมีคุณสมบัติทางเคมีที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางยึดติดกับผิวปูนและสีทาผนังเข้าด้วยกัน ซึ่งปูนเก่าและปูนใหม่จะมีคุณสมบัติทางเคมีต่างกัน โดยปูนใหม่จะมีสภาพความเป็นด่างสูง ส่วนปูนเก่าไม่ใช่ สีรองพื้นปูนใหม่จึงมีไว้กันความเป็นด่างทำปฏิกิริยากับสีที่เราทาทับหน้าผนัง ส่วนน้ำยารองพื้นปูนเก่ามีหน้าที่ประสานเสริมแรงยึดติดในผิวปูนเก่าให้เข้ากับสีที่จะทาใหม่ ฉะนั้นหากใช้สีรองพื้นไม่ถูกต้อง ก็มีผลกับการลอกร่อนของสีเช่นกัน
4. ใช้สีคุณภาพต่ำ ในกรณีนี้หมายถึงทั้งสีรองพื้นและสีทาผนัง แน่นอนว่าของคุณภาพต่ำย่อมมีปัญหาได้ง่ายกว่าของคุณภาพสูง และถ้าจะให้ดี สีรองพื้นและสีทาผนังควรเป็นสียี่ห้อเดียวกัน เพราะสูตรทางเคมีในการผลิตของสีบริษัทเดียวกัน ย่อมคิดค้นมาให้เข้ากันได้มากกว่าคนละยี่ห้อ
หากดูแลและป้องกันปัญหาข้างต้นได้ สีเราก็จะอยู่ติดผนังทนนานตามมาตรฐานอายุการใช้งาน ไม่ลอกร่อนง่าย ๆ อีกต่อไป
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
แต่สาเหตุที่สีหลุดร่อนยังมีอีกมาก โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักๆ ดังนี้
1. ผนังชื้น ซึ่งก็คือสถานการณ์ที่อธิบายไปข้างต้น เนื่องจากน้ำในผนังพยายามจะระเหยออกมาภายนอก ส่วนสีที่เราทาบนผนังจะมีฟิล์มสีที่คอยปกป้องผนัง เมื่อน้ำจะระเหย ส่วนฟิล์มสีที่เคลือบผิวไว้หนาแน่นเกินกว่าน้ำจะระเหยออกโดยง่าย ผลก็คือไอน้ำจะดันสีออกมาทั้งแผ่น ถ้าเนื้อสียึดเป็นแผ่นกันเหนียวแน่นสีก็จะโป่ง ส่วนถ้าเนื้อสีไม่เหนียวแน่นก็จะลอกออกมาเป็นแผ่นๆ
ที่จริงผนังชื้นอาจไม่ได้มาจากขั้นตอนการทาสีเพียงอย่างเดียว ท่อแตกมีน้ำรั่วซึมในผนัง หรือผนังอีกฝั่งมีน้ำซึมจากการสัมผัสน้ำ เช่น เป็นห้องน้ำ เป็นถังเก็บน้ำ แต่ทำระบบกันซึมไม่ดี หรือมีความชื้นจากพื้นดินซึมจากฐานผนัง ก็เป็นแหล่งสะสมความชื้นในผนังได้เช่นกัน ผนังที่อยู่ด้านตรงข้ามกับแหล่งสะสมความชื้น จึงโป่งและลอกได้ง่าย ๆ เสมอ
2. ผนังสกปรก เหตุผลนี้เป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่ใช้กับหลักการติดวัสดุทุกชนิด เพราะในเมื่อมันสกปรก เศษผงย่อมขัดขวางการติดกันระหว่างผนังกับเนื้อสี ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง คราบน้ำมัน คราบเกลือ จะทำให้สีรองพื้น และหรือสีทาผนังไม่สามารถเกาะติดกับผนังได้ดี ฉะนั้นในขั้นตอนการทาสี ต้องทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อยก่อนทา
3. ผนังมีเคมีไม่ตรงกันกับสี (พูดอย่างกับชีวิตการคบเพื่อนคบแฟน) แต่ที่จริงหมายถึงสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของผนังไม่เข้ากับสี ประเด็นนี้นี่แหละที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสีรองพื้นขึ้นมาในวงการก่อสร้าง สีรองพื้นมิได้เอาไว้ปกปิดกระ ฝ้า (นั่นมันรองพื้นแต่งหน้า!) แต่สีรองพื้นมีคุณสมบัติทางเคมีที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางยึดติดกับผิวปูนและสีทาผนังเข้าด้วยกัน ซึ่งปูนเก่าและปูนใหม่จะมีคุณสมบัติทางเคมีต่างกัน โดยปูนใหม่จะมีสภาพความเป็นด่างสูง ส่วนปูนเก่าไม่ใช่ สีรองพื้นปูนใหม่จึงมีไว้กันความเป็นด่างทำปฏิกิริยากับสีที่เราทาทับหน้าผนัง ส่วนน้ำยารองพื้นปูนเก่ามีหน้าที่ประสานเสริมแรงยึดติดในผิวปูนเก่าให้เข้ากับสีที่จะทาใหม่ ฉะนั้นหากใช้สีรองพื้นไม่ถูกต้อง ก็มีผลกับการลอกร่อนของสีเช่นกัน
4. ใช้สีคุณภาพต่ำ ในกรณีนี้หมายถึงทั้งสีรองพื้นและสีทาผนัง แน่นอนว่าของคุณภาพต่ำย่อมมีปัญหาได้ง่ายกว่าของคุณภาพสูง และถ้าจะให้ดี สีรองพื้นและสีทาผนังควรเป็นสียี่ห้อเดียวกัน เพราะสูตรทางเคมีในการผลิตของสีบริษัทเดียวกัน ย่อมคิดค้นมาให้เข้ากันได้มากกว่าคนละยี่ห้อ
หากดูแลและป้องกันปัญหาข้างต้นได้ สีเราก็จะอยู่ติดผนังทนนานตามมาตรฐานอายุการใช้งาน ไม่ลอกร่อนง่าย ๆ อีกต่อไป
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
