ยาแนวนั้นสำคัญไฉน
โดย นิธิพันธ์ วิประวิทย์
ยาแนวคือเส้นร่องระหว่างกระเบื้อง แม้ไม่ใช่สีสันหลักของพื้นหรือผนังแบบตัวกระเบื้อง แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บรรยากาศและภาพลักษณ์ของห้องเปลี่ยนไป สำหรับเรื่องเกี่ยวกับยาแนวนั้นมีข้อคิดฝากไว้ให้กับผู้ที่กำลังจะเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นดังนี้
1. ยาแนวกระเบื้องแต่ละประเภทกว้างไม่เท่ากัน กรรมวิธีผลิตกระเบื้องส่วนใหญ่คือการตัดดินเป็นแผ่นแล้วนำเข้าเตาเผา ดินที่เผาออกมามีการหดขยายตัวไม่เท่ากัน ทำให้ขนาดของกระเบื้องแต่ละแผ่นแตกต่างกันเล็กน้อย ยาแนวจึงเป็นช่องว่างที่ปรับให้กระเบื้องที่ไม่ได้เท่ากันเสียทีเดียวดูเท่ากันอยู่ และกระเบื้องบางชนิดมีอัตราการยืดหดตัวสูง ทำให้ต้องการช่องว่างไม่ให้กระเบื้องแต่ละแผ่นเบียดกันเองเมื่อกระเบื้องขยายตัว กระเบื้องที่แต่ละแผ่นมีขนาดแตกต่างกันหรือมีอัตราการยืดหัดตัวมากก็ยิ่งต้องการยาแนวใหญ่มากขึ้น (อย่างเช่นกระเบื้องดินเผา เป็นต้น) แต่สำหรับกระเบื้องที่ตัดแผ่นหลังจากเผาและมีความแกร่งสูง อัตราการยึดหดตัวน้อย จะควบคุมขนาดของทุกแผ่นได้เท่ากันมากกว่า จึงสามารถปูชิดกันจนแทบไม่มีเส้นยาแนวได้
2. ยาแนวยิ่งเยอะยิ่งใหญ่ ยิ่งต้องดูแลทำความสะอาดเยอะ เพราะวัสดุยาแนวก็คือปูนชนิดหนึ่งซึ่งมีผิวหยาบ คราบสกปรกจะติดได้ง่ายกว่าตัวผิวกระเบื้อง กระเบื้องแผ่นเล็ก ๆ หรือกระเบื้องที่มียาแนวใหญ่ ๆ ก็จะมีพื้นที่ให้คราบสกปรกติดได้เยอะขึ้น วันแรกที่ผนังหรือพื้นกระเบื้องที่ทำเสร็จอาจมีความสวยงาม แต่หากพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่เกิดคราบสกปรกได้ง่าย ยาแนวก็จะหมองและทำให้ความสวยงามลดลงไป ถ้าอยากให้กลับคืนสภาพมาใหม่ ก็ย่อมต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เช่นกัน แต่สำหรับพื้นที่ที่ไม่สกปรกมากก็จะลดภาระส่วนนี้ลงได้
3. สีปูนยาแนว หนึ่งในทางแก้ปัญหายาแนวดูสกปรก การเลือกสียาแนวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระการดูแลพื้นกระเบื้อง ยาแนวที่มีสีเข้มจะดูแลรักษาได้ง่ายกว่ายาแนวที่มีสีขาวสะอาด หากเป็นพื้นกระเบื้องซึ่งมีฝุ่นมีคราบ การเลือกยาแนวสีเข้ม ก็ทำให้เราคงสภาพความสวยงามไว้ได้นานมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้เป็นกฏตายตัวว่าห้ามเลือกยาแนวสีอ่อน ๆ แต่ในพื้นที่ที่ต้องเจอกับความสกปรกเป็นประจำ (เช่นห้องครัวกับคราบน้ำมัน หรือห้องอาบน้ำกับคราบสบู่) การเลือกยาแนวสีอ่อนจะทำให้เราต้องเอาใจใส่กับการทำความสะอาดมากขึ้น
4. ปูนยาแนวมีหลายเกรดหลายประเภท ปูนยาแนวชนิดเดียวจึงไม่ได้เหมาะกับการยาแนวทุกพื้นที่ ปูยาแนวแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปเช่น กันเชื้อรา (ใช้ในที่ชื้น) กัน UV (ใช้ภายนอกได้ดี) ยาแนวทนแรงอัดแรงดันน้ำ(ใช้ในบ่อน้ำสระว่ายน้ำ) ยาแนวที่เหมาะสำหรับการยาแนวร่องเล็ก ๆ (กระเบื้องปูชิดกันก็ยังต้องการการยาแนวอยู่ดีจึงต้องใช้ยาแนวที่มีเนื้อเหลวกว่าปกติ) ยาแนวสำหรับร่องยาแนวใหญ่(เพราะต้องการเนื้อมาก เนื้อปูนยาแนวจึงมีเนื้อหยาบขึ้น)
5. ยาแนวเป็นสิ่งไม่จีรัง สึกหรอง่าย แต่ก็ซ่อมแซมไม่ยาก ปูนยาแนวในพื้นที่ที่มีการขัดทำความสะอาดบ่อยครั้ง แรงขัดและสารเคมีเองนี่แหละที่คอยกันเซาะให้ผิวปูนยาแนวสึกหรอ และอาจหลุดออกมาได้ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง ก็จะต้องทำการยาแนวใหม่ แต่การยาแนวใหม่ ก็ทำให้หน้าตาพื้นกระเบื้องของเราดูสดใสได้อีกครั้ง บางครั้งเหมือนได้พื้นใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนกระเบื้อง และหากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ การเลือกสีสันปูนยาแนวให้แตกต่างจากเดิม ก็ช่วยได้เช่นกัน
6. บางครั้งยาแนวก็ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องอื่นได้ด้วย เช่น แนวร่องยาแนวช่วยเพิ่มความฝืดให้กับพื้นกระเบื้อง หากเป็นกระเบื้องที่มีแผ่นเล็กๆ ยาแนวเยอะๆ เมื่อใช้ในพื้นที่ที่เปียกชื้นก็ยังปลอดภัยจากการลื่นไถล ทั้งที่ผิวกระเบื้องอาจจะเป็นผิวเรียบลื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดที่ต้องเล็กพอ (เล็กกว่าฝ่าเท้า) และบางครั้งยาแนวก็ช่วยกันกลิ่นไม่พึงประสงค์จากท่อส้วมได้ เช่นหากอยู่ดีๆ ห้องน้ำมีกลิ่นไปพึงประสงค์จากท่อส้วมเกิดขึ้น ก็น่าจะลองสำรวจดูว่ายาแนวตรงฐานโถส้วมมีการหลุดร่อนหรือมีช่องว่างให้กลิ่นออกมาหรือไม่ ยาแนว เส้นเล็กๆ ที่มักถูกมองข้าม แต่ที่จริงแล้วการเอาใจใส่ในการเลือกยาแนวจะช่วยให้เราประหยัดเวลาชีวิตและช่วยเพิ่มสีสันให้กับบ้านของเราได้ไม่น้อย
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ยาแนวคือเส้นร่องระหว่างกระเบื้อง แม้ไม่ใช่สีสันหลักของพื้นหรือผนังแบบตัวกระเบื้อง แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บรรยากาศและภาพลักษณ์ของห้องเปลี่ยนไป สำหรับเรื่องเกี่ยวกับยาแนวนั้นมีข้อคิดฝากไว้ให้กับผู้ที่กำลังจะเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นดังนี้
1. ยาแนวกระเบื้องแต่ละประเภทกว้างไม่เท่ากัน กรรมวิธีผลิตกระเบื้องส่วนใหญ่คือการตัดดินเป็นแผ่นแล้วนำเข้าเตาเผา ดินที่เผาออกมามีการหดขยายตัวไม่เท่ากัน ทำให้ขนาดของกระเบื้องแต่ละแผ่นแตกต่างกันเล็กน้อย ยาแนวจึงเป็นช่องว่างที่ปรับให้กระเบื้องที่ไม่ได้เท่ากันเสียทีเดียวดูเท่ากันอยู่ และกระเบื้องบางชนิดมีอัตราการยืดหดตัวสูง ทำให้ต้องการช่องว่างไม่ให้กระเบื้องแต่ละแผ่นเบียดกันเองเมื่อกระเบื้องขยายตัว กระเบื้องที่แต่ละแผ่นมีขนาดแตกต่างกันหรือมีอัตราการยืดหัดตัวมากก็ยิ่งต้องการยาแนวใหญ่มากขึ้น (อย่างเช่นกระเบื้องดินเผา เป็นต้น) แต่สำหรับกระเบื้องที่ตัดแผ่นหลังจากเผาและมีความแกร่งสูง อัตราการยึดหดตัวน้อย จะควบคุมขนาดของทุกแผ่นได้เท่ากันมากกว่า จึงสามารถปูชิดกันจนแทบไม่มีเส้นยาแนวได้
2. ยาแนวยิ่งเยอะยิ่งใหญ่ ยิ่งต้องดูแลทำความสะอาดเยอะ เพราะวัสดุยาแนวก็คือปูนชนิดหนึ่งซึ่งมีผิวหยาบ คราบสกปรกจะติดได้ง่ายกว่าตัวผิวกระเบื้อง กระเบื้องแผ่นเล็ก ๆ หรือกระเบื้องที่มียาแนวใหญ่ ๆ ก็จะมีพื้นที่ให้คราบสกปรกติดได้เยอะขึ้น วันแรกที่ผนังหรือพื้นกระเบื้องที่ทำเสร็จอาจมีความสวยงาม แต่หากพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่เกิดคราบสกปรกได้ง่าย ยาแนวก็จะหมองและทำให้ความสวยงามลดลงไป ถ้าอยากให้กลับคืนสภาพมาใหม่ ก็ย่อมต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เช่นกัน แต่สำหรับพื้นที่ที่ไม่สกปรกมากก็จะลดภาระส่วนนี้ลงได้
3. สีปูนยาแนว หนึ่งในทางแก้ปัญหายาแนวดูสกปรก การเลือกสียาแนวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระการดูแลพื้นกระเบื้อง ยาแนวที่มีสีเข้มจะดูแลรักษาได้ง่ายกว่ายาแนวที่มีสีขาวสะอาด หากเป็นพื้นกระเบื้องซึ่งมีฝุ่นมีคราบ การเลือกยาแนวสีเข้ม ก็ทำให้เราคงสภาพความสวยงามไว้ได้นานมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้เป็นกฏตายตัวว่าห้ามเลือกยาแนวสีอ่อน ๆ แต่ในพื้นที่ที่ต้องเจอกับความสกปรกเป็นประจำ (เช่นห้องครัวกับคราบน้ำมัน หรือห้องอาบน้ำกับคราบสบู่) การเลือกยาแนวสีอ่อนจะทำให้เราต้องเอาใจใส่กับการทำความสะอาดมากขึ้น
4. ปูนยาแนวมีหลายเกรดหลายประเภท ปูนยาแนวชนิดเดียวจึงไม่ได้เหมาะกับการยาแนวทุกพื้นที่ ปูยาแนวแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปเช่น กันเชื้อรา (ใช้ในที่ชื้น) กัน UV (ใช้ภายนอกได้ดี) ยาแนวทนแรงอัดแรงดันน้ำ(ใช้ในบ่อน้ำสระว่ายน้ำ) ยาแนวที่เหมาะสำหรับการยาแนวร่องเล็ก ๆ (กระเบื้องปูชิดกันก็ยังต้องการการยาแนวอยู่ดีจึงต้องใช้ยาแนวที่มีเนื้อเหลวกว่าปกติ) ยาแนวสำหรับร่องยาแนวใหญ่(เพราะต้องการเนื้อมาก เนื้อปูนยาแนวจึงมีเนื้อหยาบขึ้น)
5. ยาแนวเป็นสิ่งไม่จีรัง สึกหรอง่าย แต่ก็ซ่อมแซมไม่ยาก ปูนยาแนวในพื้นที่ที่มีการขัดทำความสะอาดบ่อยครั้ง แรงขัดและสารเคมีเองนี่แหละที่คอยกันเซาะให้ผิวปูนยาแนวสึกหรอ และอาจหลุดออกมาได้ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง ก็จะต้องทำการยาแนวใหม่ แต่การยาแนวใหม่ ก็ทำให้หน้าตาพื้นกระเบื้องของเราดูสดใสได้อีกครั้ง บางครั้งเหมือนได้พื้นใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนกระเบื้อง และหากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ การเลือกสีสันปูนยาแนวให้แตกต่างจากเดิม ก็ช่วยได้เช่นกัน
6. บางครั้งยาแนวก็ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องอื่นได้ด้วย เช่น แนวร่องยาแนวช่วยเพิ่มความฝืดให้กับพื้นกระเบื้อง หากเป็นกระเบื้องที่มีแผ่นเล็กๆ ยาแนวเยอะๆ เมื่อใช้ในพื้นที่ที่เปียกชื้นก็ยังปลอดภัยจากการลื่นไถล ทั้งที่ผิวกระเบื้องอาจจะเป็นผิวเรียบลื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดที่ต้องเล็กพอ (เล็กกว่าฝ่าเท้า) และบางครั้งยาแนวก็ช่วยกันกลิ่นไม่พึงประสงค์จากท่อส้วมได้ เช่นหากอยู่ดีๆ ห้องน้ำมีกลิ่นไปพึงประสงค์จากท่อส้วมเกิดขึ้น ก็น่าจะลองสำรวจดูว่ายาแนวตรงฐานโถส้วมมีการหลุดร่อนหรือมีช่องว่างให้กลิ่นออกมาหรือไม่ ยาแนว เส้นเล็กๆ ที่มักถูกมองข้าม แต่ที่จริงแล้วการเอาใจใส่ในการเลือกยาแนวจะช่วยให้เราประหยัดเวลาชีวิตและช่วยเพิ่มสีสันให้กับบ้านของเราได้ไม่น้อย
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
